แอดเชื่อหลายคนคงรู้ดีว่าชาวบ้านชนบทมักจะมีประเพณี วัฒนธรรมต่างๆที่สืบทอดกันมา? และคนเฒ่าคนแก่ชาวชนบทก็มักจะขี้บ่น ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็มักจะมีเรื่องให้ได้พูด

    สื่อต่างประเทศรายงานว่า มีหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในประเทศจีน มีวัฒนธรรมอย่างหนึ่งคือ เมื่อญาติพี่น้องได้จากโลกนี้ไปแล้วก็จะต้องเอา "ข้าวของของคนๆนั้นเผาให้หมด" หลายคนบอกว่าเผาให้ญาติพี่น้องได้ใช้ แต่หลายคนบอกว่าวัฒนธรรมแบบนี้งมงายมาก แล้วจะมีอะไรสามารถพิสูจน์ได้ว่า มันคือสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับความงมงาย?

    เราคงทราบกันดีว่าในสมัยก่อน โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญก็มักจะมีความเชื่อที่แปลกประหลาด หรืองมงายกับความเชื่อที่ไม่สามารถอ้างอิงได้ เช่น เชื่อสัตว์ทั้งหลาย งู วัว หรือผีสาง เทวดา เป็นต้น และความงมงายเหล่านี้ทำให้พวกเขาคิดว่า  ชีวิตหลังความตายจะออกจากโลกและเข้าสู่นรก ถูกแยกออกจากมนุษย์บนโลก และเสื้อผ้าข้าวของของคนที่จากไปแล้วจะนำพาความซวย ความอัปยศมาสู่ครอบครัว ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะเผาเสื้อผ้าและของใช้ของคนที่จากไป แอดเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้ดูไม่น่าเชื่อถือสำหรับคนสมัยใหม่ที่พึ่งพาและเชื่อในวิทยาศาสตร์

    แต่แน่นอนว่า จากมุมมองของคนสมัยใหม่ที่พึ่งพาวิทยาศาสตร์นั้น ฟังดูแล้วไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้นเลย แต่หลังจากทำการศึกษาค้นคว้าแล้ว ทำให้เข้าใจว่าที่แท้ในสมัยโบราณคนที่เสียชีวิตส่วนมากจะเป็นผู้ที่ป่วยหนักหรือติดเชื้อไวรัสจะมีเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ซึ่งไม่มียารักษาได้ เนื่องจากยังไม่มีความเจริญทางด้านการแพทย์ ทำให้พวกเขาจำต้องนำเสื้อผ้าไปทิ้ง แต่การนำไปทิ้งอาจไม่ได้เป็นทางออกที่ดี เพราะอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังคนอื่น ๆได้

    ฉะนั้นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียก็คือ “การเผาไหม้”  อุณหภูมิที่สูง ไม่เพียงแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นขี้เถ้า แต่ยังลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมที่ถูกทิ้งไปด้วย (สมัยก่อนต้นไม้เยอะ มลภาวะอาจจะมีไม่มากเท่าปัจจบัน)

    และอีกสาเหตุหนึ่งก็คือ เนื่องจากหากคนบนโลกเห็นเสื้อผ้าของใช้ของจากไปแล้ว จะทำให้ยิ่งเศร้าโศกและทำใจไม่ได้ ตัดใจไม่ลง ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของพวกเขา มีหนทางเดียวคือต้องเผาทิ้งเท่านั้น

   ไม่ทราบว่าเพื่อนๆมีเหตุผลอื่นๆมากกว่าที่กล่าวมาข้างตนหรือไม่? นี่เป็นอีกความเชื่อที่สามารถอ้างอิงได้ว่า บางครั้งคนโบราณก็ไม่ได้งมงายเสมอไป แต่มีสมองที่ชาญฉลาดต่างหาก เพียงแค่บางอย่างคนสมัยนี้อาจไม่เข้าใจเท่านั้น 

ที่มา:lifetify

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr