"เปิ้ล-จูน" เผยความรู้สึกหลัง "น้องออก้า" คว้าแชมป์โลกเจ็ตสกี เป้าหมายต่อไปคือการรักษาแชมป์ ลั่นอยากคว้าแชมป์โลก 10 สมัย

LIEKR:

#เปิ้ลนาคร #จูนกษมา ดีใจน้ำตาไหล "น้องออก้า" คว้าแชมป์เจ็ตสกีโลกสำเร็จ เผยเป้าหมายหลังจากนี้คือรักษาแชมป์โลกไว้ให้ได้นานสุดอย่างน้อย 10 สมัย

    สร้างความสุขและความดีใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ สำหรับ "น้องออก้า" ลูกชายคนที่ 2 ของ พ่อเปิ้ล นาคร กับ แม่จูน กษมา ศิลาชัย ที่ล่าสุดสามารถคว้าแชมป์เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก รายการ  IJSBA World Finals ที่ประเทศสหรัฐฯ ในรุ่นอายุน้อยที่สุดมาครองได้สำเร็จ แถมยังเป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุดอีกด้วย [อ่านข่าว : "เปิ้ล นาคร" เฮลั่น "น้องออก้า" คว้าที่ 1 แชมป์โลกเจ็ตสกีที่สหรัฐฯ ชูธงชาติไทยผงาดเวทีระดับโลก]

    ล่าสุด "เปิ้ล นาคร" ได้มาเปิดใจ เผยวินาทีแรกที่รู้ว่าลูกชายได้แชมป์โลกว่า เอาตรง ๆ เลยคือน้ำตาไหล คนเป็นพ่อเป็นแม่สิ่งที่เราคาดหวังไว้เราคาดหวังไว้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งก็เตรียมใจว่าคงจะไม่ได้ เพราะมันเป็นครั้งแรกในชีวิต คือเราซ้อมมาหนักเกิน 100% ซ้อมจนออก้าร้องไห้ไปไม่รู้กี่รอบ ทั้งร้องไห้ทั้งเข้าโรงพยาบาล ซ้อมหนักเกินกว่าเด็ก 10 ขวบจะได้รับ

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งเราเองก็ยังไม่แน่ใจ นักกีฬาคนอื่น ๆ เด็ก ๆ จากที่ 1ทั่วโลก เขาซ้อมจะซ้อมหนักมามากกว่าเราไหม ก็ดูจากโมโตแรก พอเห็นโมโตแรกแล้ว โอโห้ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะเด็กแต่ละคนมากันอย่างโหด โหดมาก ออก้าที่ซ้อมมาโหดแล้ว ออก้าเด็กไปเลย  ซึ่งออก้าก็สู้สุดตัว ตกนำ้แล้วก็ยังขึ้นมา สู้ต่ออีก มันเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้จริงๆ เราโชคดีที่ได้มีโอกาสผ่านประสบการณ์นี้มาได้

    แม่จูน เผยอีกว่า หน้างานเครียดมาก บอกเลยว่าออก้าไม่เคยผ่านการแข่งแบบนี้ในเมืองไทย เมื่อไทยไม่เคยมีการจัดแบบนี้

 

Sponsored Ad

 

    เปิ้ล นาคร กล่าวเสริมอีกว่า เพราะปกติเมืองไทยจะแข่งทีละลำแล้วจับเวลา แล้วก็เอาที่ 1 ไปชิงแชมป์โลก อย่างออก้ามีประสบการณ์แข่งทีละลำ แต่ต้องไปแข่งเป็น ฝูง ๆ ไปทีเกือบ 20 ลำ ออกตัวพร้อมกัน โชคดีที่เราพอจะทราบมาก่อน เราก็จะซ้อมออก้าสู้แบบหลาย ๆ ลำไว้ในระดับนึงแล้ว อยู่ที่เมืองไทยซ้อมที 4 ลำ แต่ไปเจอแข่งออกตัวพร้อมกัน 20 ลำ มันโหดมาก 

    แต่ออก้าไม่กลัวเลย แล้วสู้มาก เราซ้อมกันตั้งแต่ถ้าออก้าตกเรือ จะไม่มีใครช่วยออก้า ต้องว่ายขึ้นเรือให้เร็วที่สุด จะไม่มีคำว่าหยุดจนกว่ากรรมการจะตีธง แล้วเหตุการณ์นั้นมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ ออก้าออกไป เหมือนขับเข้าไปในพายุ แล้วสภาพเด็ก 10 ขวบแต่ละคน พอเจอพายุมันเกินแกงทั้งนั้น ออก้าตกน้ำแต่ก็ไต่ขึ้นมาได้ แล้วก็สู้ต่อได้ เราบอกว่าโอเคแค่นั้นพ่อพอใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องได้ที่ 1

 

Sponsored Ad

 


เมื่อถามว่า แล้วมีการปลุกไฟน้องออก้ากันยังไงบ้าง?

    แม่จูน เผยว่า ปลุกไฟเหรอ ไม่ต้องเลย พอตื่นปุ๊บเขาก็ร้องจะไปสนามแล้ว ไปถึงขาแตะอเมริกาถ้าแม่ซ้อมได้เลยไหม โอ้ย! ตายแล้ว ออก้า ถามว่ามันดีไหม มันดีที่เขาอินมาก ๆ ตรงนี้ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อลูกไป เรามีหน้าที่หาอาหารการกินประเคน จะกินอะไรบอก ต้องมีแรง ต้องนอนหลับ ไปอยู่นู่นเจ็ทแลคอีก

เมื่อถามว่า เปิ้ลเสียน้ำตาเพราะลูกสานฝันเราด้วย?

 

Sponsored Ad

 

    เปิ้ล ตอบว่า คิดว่าพ่อแม่ทุกคนเจอเหตุการณ์แบบนี้เสียน้ำตากันทุกคน มันเป็นสิ่งที่เราในครอบครัวทุ่มเทกันมาตลอดตั้งแต่ออก้าอายุ 6 ขวบ เขาเริ่มแข่งตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เขามีความใฝ่ฝันว่าอยากจะไปชิงแชมป์โลก เราก็ยังคิดนะว่าเดี๋ยวพ่อจะพาออก้าไปแข่งชิงแชมป์โลกตอนอายุ 14-15 รอโตกว่านี้อีกหน่อย แต่เผอิญฟ้าลิขิต ทางสมาคมเจ็ตสกีและการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ส่งจดหมายมาว่าออก้าได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนทีมชาติในปีนี้

    ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่อะไรหรอก ที่ 1 สละสิทธิ์ เพราะเขาอายุ 13 แล้ว น่าจะเกินในรุ่นที่เขาอยากได้ ก็เลยตกมาเป็นที่ 2 ของประเทศ คือ ออก้า เราไปเป็นรองเลย เป็นรองตั้งแต่รองแชมป์ประเทศไทย แล้วก็เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเจ็ตสกีไทยและเด็กที่สุดในการแข่งขันเจ็ตสกีโลก เราก็เห้ย! ลูกเราเด็กสุดเลย แต่ถามว่าไหวไหม เรามั่นใจว่าออก้า เขากินนมแพะมาตั้งแต่เด็กเขาแข็งแรงมาก ด้วยนิสัยเขาด้วย

 

Sponsored Ad

 

    อีกอย่างเป็นการสานฝันเราด้วย เพราะเราเองก็เคยแข่งเวทีนี้ ได้แชมป์โลกมาเหมือนกัน เมื่อ 20 กว่าปีแล้ว ตอนนั้นเราเคยฝัน คิดเล่น ๆ ว่าถ้าเราเป็นพ่อ แล้วพาลูกมาแข่ง แล้วเราคอยอยู่เคียงข้างเขา แข่งด้วย มันคงเป็นอะไรที่แปลกสำหรับเรา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เจอจูนเลย ชีวิตยังดีอยู่ (หัวเราะ) พี่เปิ้ลว่าพี่เปิ้ลโชคดีมาก เราเชื่อว่าพ่อแม่หลาย ๆ คนอยากให้ลูกเป็นนั้นเป็นนี่ 

    แล้วก็พยายามที่จะผลักดันให้ลูกเป็นให้เหมือนสิ่งที่พ่อแม่อยากให้เป็น แต่บางคนก็ประสบความสำเร็จ บางคนก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เราโชคดีที่ออก้า เขาเกิดขึ้นมาแล้วเขารักเจ็ตสกีเลย เขาบ้าโดยกำเนิด เขาบ้ามาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เอะอะก็ร้องแต่จะไปซ้อม ถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะไปแข่ง เขาเกิดมาเป็นอย่างนั้นเอง เราก็เลยโชคดีตรงนั้นที่เราไม่ต้องไปคะยั้นคะยอมาก

 

Sponsored Ad

 

ฝันต่อไปของครอบครัวกับออก้า?

    เปิ้ล นาคร เผยว่า  ตอนนี้ออก้าเขามีหน้าที่ใหม่แล้ว คือรักษาแชมป์โลกให้กับประเทศไทยให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราไม่รู้ว่าเราจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน เขาเองเขารักตรงนี้ เชื่อว่าในอนาคตคงจะสร้างตำนานเป็นนักแข่ง เพราะเขาเริ่มต้นมาตั้งแต่เด็กไง แล้วเริ่มต้นจากรุ่นโปร เป็นรุ่นใหญ่ที่สุดในโลก ในรุ่นใหญ่สุดในประเทศไทยเรายังไม่เคยได้ ก็ฝันเอาไว้ว่าวันนึงจะมาได้ที่ออก้า เขาต้องทำได้


Sponsored Ad

เมื่อถามว่า การแข่งขันการซ้อมมีกระทบการเรียน?

    แม่จูน เผยว่า โรงเรียนดีมาก เขาเข้าใจ เขาสนับสนุนกีฬาอยู่แล้ว ไปตอนที่โรงเรียนเปิดเทอมนี่แหละ ก็คุยกับทางโรงเรียน เขาก็บอกว่าไปทำหน้าที่เลยเดี๋ยวกลับมาเดี๋ยวเป็นหน้าที่โรงเรียนจัดการให้ เดี๋ยววันจันทร์ก็ไปโรงเรียนตามปกติแล้ว

    เปิ้ล นาคร กล่าวว่า ก็ขอขอบคุณทุก ๆ ฝ่าย สมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะคิงพาวเวอร์ น่ารักมาก ๆ ที่สนับสนุนมาตั้งแต่ต้นจนถึงตรงนี้ และอีกหลายๆท่าน ออก้าประสบความสำเร็จได้เพราะมีหลาย ๆ ฝ่ายทุ่มเทให้ 100% และที่สำคัญคือขอขอบคุณแรงเชียร์จากพี่  เราตกใจมาก ตกใจจริง ๆ ที่มีการแชร์กันทุกช่องทาง

    มันทำให้กีฬาเจ็ตสกีของเราเติบโต และไม่ใช่เฉพาะแต่กีฬาเจ็ตสกี ผมเชื่อว่ามันจะเป็นแรงผลักดันให้กีฬาทุกประเภท ให้พ่อแม่ ผู้ใหญ่ทุกคนหันมามองว่าจากนี้ไปเยาวชนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่เราจะต้องส่งเสริม สนับสนุนและผลักดัน เยาวชนมีไว้สนับสนุนไม่ได้มีไว้ฆ่า ตอนนี้เราต้องเริ่มสนับสนุนเขาจากตรงนี้ก่อน ผู้ใหญ่สบายแล้วก็ปล่อยให้เป็นผู้ใหญ่ไปเถอะ เป็นยังไงก็เป็นอย่างงั้นแล้ว เยาวชนนี่แหละที่เราจะต้องสนับสนุนกันเต็มที่


ได้เงินรางวัลไหม?

    เปิ้ล นาคร บอกว่า เงินรางวัลชิงแชมป์โลกไม่ได้ แต่เหมือนสมาคมจะอัดฉีดให้ทีหลัง ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ ก่อนหน้านี้ไม่มี เรามาด้วยตัวเอง และคิงพาวเวอร์ที่สนับสนุนออก้ามาโดยตลอด เอาตรง ๆ ชิงแชมป์โลกมีรุ่นจูเนียร์รุ่นเดียวที่ไม่มีเงินอัดสนับสนุน แต่เดี๋ยวปีหน้าเขาคงเปลี่ยนนโยบายกันแล้ว เพราะจริง ๆ แล้วกีฬาควรจะสนับสนุนกันตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่ใช่ไปสนับสนุนตอนผู้ใหญ่ แล้วเว้นเด็กไว้


เด็กไทย เก่ง ๆ เยอะ แต่ขาดทุนทรัพย์และโอกาส?

    เปิ้ล นาคร เผยว่า ใช่ สำคัญมากๆเลยแหละ เราโชคดีนะที่เราได้สปอนเซอร์จากคิงพาวเวอร์ ไม่งั้นเราคงเหนื่อยกันมาก ควักเงินกันเยอะเหมือนกัน


ค่าใช้จ่ายในการพาออก้าไปแข่งจนได้แชมป์ พ่อแม่หมดตัวไปขนาดไหน?

    เปิ้ล นาคร เผยว่า เป็นล้านนะ ค่าส่งเรือ ค่าที่พัก ค่าเครื่องบิน มันไม่ง่ายเลย

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : Ple Nakorn, amarintv, วันบันเทิง oneบันเทิง

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ