หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        ตอนอายุ 12 คุณกำลังทำอะไร? คุณคงจะคุยกับเพื่อนว่าเลิกเรียนแล้วจะไปเที่ยวไหนดี หรือกลับบ้านแล้วจะดูทีวีช่องไหน ยิ่งพอปิดเทอมก็ยิ่งดีใจ ไม่ต้องไปเรียน สามารถเล่นได้ทั้งวัน ชีวิตสนุกสนานไม่มีเรื่องให้ต้องเครียด แต่ที่เมืองไถจงมีเด็กชายวัย 12 ปีที่ต่างจากเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน เขาเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้ใครได้พบเห็นต้องสะเทือนใจ

        จากการรายงานของ SET news เด็กชายหลิววัย 12 ปีอาศัยอยู่กับพ่อ ย่าและพี่สาวที่กำลังเรียนชั้นมัธยมปลาย คุณย่าป่วย พ่อตามองไม่เห็นเพราะโรคเบาหวาน ทำให้ออกไปทำงานไม่ได้ ครอบครัวนี้อาศัยรายได้จากการขายของเก่า โดยมีสองพี่น้องเป็นเสาหลักของครอบครัว

        เด็กบ้านจนต้องเป็นผู้ใหญ่เร็วขึ้น ในขณะที่เด็กคนอื่นเที่ยวเล่นช่วงปิดเทอม สองพี่น้องก็ถือโอกาสเอาช่วงปิดเทอมที่ไม่ต้องไปเรียนทำงานเก็บเงิน พี่สาวไปรับจ้างทำงานอีกอำเภอหนึ่ง ส่วนน้องชายก็ช่วยคุณย่าเก็บขยะขาย สองคนทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวและหาค่าเทอม เช้าตรู่เด็กชายหลิวจะขี่จักรยานที่ซ่อมเองไปทั่วทุกที่เพื่อเก็บขยะ เช่นกระดาษและกระป๋องอลูมิเนียมที่เอาไปขายได้ ชาวบ้านแถวนั้นเห็นก็สงสาร จึงเก็บขยะรีไซเคิลเหล่านี้ไว้ให้ 

        รายได้ต่ำสามารถสมัครเป็นครอบครัวรายได้ต่ำได้ คุณพ่อเป็นหนี้เพื่อหาค่าใช้จ่ายในบ้าน ต้องเอาค่าประกันรักษาพยาบาล 1 ล้านของคุณย่าไปใช้หนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์สมัคร แต่พนักงานพอรู้เรื่องราวของพวกเขา ก็พยายามช่วย ด้วยความช่วยเหลือของสโมสรการกุศลและสโมสรไลออนส์ ทำให้เด็กชายหลิวได้รับทุนการศึกษา 4 หมื่น รวม 3 ปี ช่วยแบ่งเบาภาระให้สองพี่น้องได้บ้าง 

        เนื่องจากขยะรีไซเคิลที่เก็บได้แต่ละครั้งทั้งสูงและหนัก นับเป็นความท้าทายยิ่งใหญ่ของเด็กชายที่หนักเพียง 30 กก. แต่เขาก็มองโลกในแง่ดี คิดว่าการหาเงินได้ถือเป็นเรื่องน่าดีใจ 

        และปฏิเสธความปรารถดีของผู้คนที่จะให้เงิน “ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือครับ ผมอยากอยู่ให้ได้ด้วยการหาเงินด้วยตัวเอง ถ้าอยากให้ขยะผมติดต่อผมมาได้เลย” เด็กชายหลิวกล่าว

ชมคลิป..

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

        อายุแค่นี้แต่มีความพยายามอย่างมาก ไม่ยอมแพ้ความยากลำบากของชีวิต เชื่อว่าเขาจะต้องมีอนาคตแบบที่ต้องการแน่นอน ชาวเนตเห็นเขาทั้งขยันทั้งกตัญญูก็เข้ามาคอมเม้นท์ให้กำลังใจ : “เด็กกตัญญูต้องได้รับการตอบแทนแน่ๆ”, “เด็กดี ผ่านการฝึกแบบนี้ ในอนาคตต้องได้ดีแน่ๆ”, “เด็กดีหนูเยี่ยมมาก สู้ๆ” สองพี่น้องเป็นเด็กจิตใจดีและเชื่อฟัง เชื่อว่าบททดสอบตอนนี้จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในอนาคตแน่ๆ

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR