"หนุ่ม กรรชัย" เปิดใจครั้งแรก แจงปมร้อน หลังมีข่าวลือโดนปลดฟ้าผ่า ยืนยันทุ่มเทเพื่อรายการมาก

LIEKR:

"เผลอ ๆ ว่าผมจะรักรายการนี้มากกว่าโหนกระแสด้วยซ้ำ ทั้งที่ไม่ใช่รายของผมเองด้วยนะ" หนุ่ม กรรชัย กล่าว

        จากกรณีปมร้อน พิธีกรผู้ประกาศข่าวดังกับผอ.ข่าวคนใหม่ ช่อง 3 หลัง เพจดังได้ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ต่อมาทางทีมข่าวสดออนไลน์ ก็ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวกล่าวถึงประเด็นร้อนนี้ว่า ได้มีการประชุมถึงการปรับรายการข่าว "เที่ยงวันทันเหตุการณ์" ที่มี "หนุ่ม กรรชัย" และ "หมวย อริสรา" เป็นผู้ดำเนินรายงาย 

        ซึ่งทางผอ.ข่าวคนใหม่ได้แจ้งในที่ประชุมว่าจะมีการปรับเนื้อหาของข่าวใหม่ ทั้งนี้ ทำให้เกิดความเห็นต่าง เนื่องจากไม่ได้เป็นแนวทางที่ "หนุ่ม กรรชัย" ตั้งใจทำมาโดยตลอด คืออยากให้เป็นกระบอกเสียงของชาวบ้าน จึงอาจจะทำในแนวทางใหม่ไม่ได้ ในขณะที่ทาง ผอ.ข่าว ได้พูดตอบกลับในเชิงว่า "ก็ไม่เป็นไรเอาไว้ค่อยมาร่วมงานกันใหม่" ทำให้บรรยากาศในที่ประชุมเกิดความตึงเครียดขึ้นมา ซึ่งเกิดข่าวลือว่าพิธีกรคนดังตัดสินใจที่จะย้ายช่อง และล่าสุด "หนุ่ม กรรชัย" ก็ได้เปิดใจที่แรกกับทาง ข่าวสดออนไลน์ ในทุกประเด็นที่มีการพูดถึงว่า

 

Sponsored Ad

 

กระแสข่าวที่เกิดขึ้นหลายคนค่อนข้างตกใจ ?

        หนุ่ม กรรชัย : "จากที่มีเพจหนึ่งลงทำนองว่า พิธีกรคนดัง จ่อโบกมือลาจอช่อง 3 แล้วมีการชี้ว่า คุณพ่อจอมโหน อยู่พระรามสี่ คือเขียนแบบนั้นก็คงไม่มีใคร คงจะมีคนเดียวนี่แหละ เราก็ยอมรับว่ามันมีการพูดคุยประชุมเกี่ยวกับเรื่องงานจริง ๆ ตามที่มีกระแสข่าวออกไป ส่วนว่ามีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น หรือจะมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้ชาวเน็ตติดตามมั้ย ตรงนี้เราต้องบอกก่อนว่าพอมันเป็นเรื่องของในที่ประชุม เลยเป็นเรื่องที่เราไม่สมควรเอาออกไปพูดข้างนอกอยู่แล้ว เพราะมันเป็นเรื่องของบริษัทของการทำงาน ควรจะอยู่แค่ภายใน แต่อันนี้หลุดออกมาข้างนอก บางทีก็เกิดมึนงงเหมือนกันในความรู้สึกของเรา แต่ถ้าจะถามว่ามันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือเปล่า ต้องตอบอย่างนี้ว่าคนเราทำงานอยู่ในองค์กรใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนเมื่อมีการทำงานกับคนหมู่มากเป็นธรรมดาที่ย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ไม่มีคนไหนหรอกที่ทำงานร่วมกันแล้วความคิดเห็นตรงกันเป๊ะทุกคน ฉะนั้นตอนประชุมอาจจะมีความเห็นต่างกันบ้าง"

 

Sponsored Ad

 

แล้วกับคำพูดที่ว่า "ก็ไม่เป็นไรเอาไว้ค่อยมาร่วมงานกันใหม่" อันนี้จริงเท็จยังไง ?

        หนุ่ม กรรชัย : "อย่างที่บอกไปว่าการทำงานร่วมกันของคนหมู่มาก ต้องมีภาวะของการเห็นต่างหรือมองอะไรไม่ตรงกัน ทีนี้ในมุมกลับเรื่องราวเหล่านี้ต้องบอกด้วยว่ามันยังไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเลย แค่คุยกันครั้งแรกเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของอนาคต เพราะทุกอย่างต้องถูกคิดให้มันตกตะกอนเสียก่อน วันนี้ยังไม่มีการตกตะกอนออกมาเลยว่าจะเป็นยังไง แค่เป็นการเสนอแนวทางในมุมมองความคิดเท่านั้นเอง ต้องมีการมาปรับจูนกันก่อนว่าจะเอายังไง ต่อไปในอนาคตถ้าเกิดว่าถึงเวลาแล้วมันไม่ใช่ตัวเรา เราก็ต้องกลับมาพิจารณาตัวเองว่ามันไปต่อไม่ได้ ตอนนั้นก็ค่อยไปว่ากันอีกทีในอนาคต แต่ยังไม่ใช่วันนี้"

 

Sponsored Ad

 

แสดงว่ามีคำพูดนั้นออกมาจริง ๆ ?

        หนุ่ม กรรชัย : "คล้าย ๆ ในทำนองนั้นครับ แต่คงไม่ได้ไปลงรายละเอียดอะไรมากมาย แล้วทั้งหมดทั้งมวล คือ ก็ยังไม่ได้มีการตกตะกอน คงจะต้องไปหาจุดกึ่งกลางให้เจอเสียก่อนว่าจะเอายังไง อย่างที่บอกว่ายังต้องมีการปรับจูนกัน เนื่องจากเป็นการพูดคุยกันแค่ครั้งแรก แล้วเราไม่เคยทำงานด้วยกันมาก่อน ฉะนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่าพี่เขาชอบทานอะไร เราเองชอบทานอะไร ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการปรับจูนกันอยู่"

รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เสียใจ หรือไม่พอใจกับคำพูดนั้นไหม ?

 

Sponsored Ad

 

        หนุ่ม กรรชัย : "ไม่หรอกครับ เราไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจหรือไม่ได้โกรธอะไรเลย อย่างที่บอกว่ามันเป็นแค่การคุยกันแค่เริ่มต้นครั้งแรก ยังไม่ได้มีการตกตะกอน เพราะว่าการจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการ หรือจะทำอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาในหนึ่งรายการเนี่ย มันต้องมีการวิเคราะห์ให้หลากหลายแง่มุม ฉะนั้นทุกคนที่สิทธิ์ที่จะโยนความคิดเห็นหรือแนวทางของตัวเองเข้าไปในที่ประชุมอยู่แล้ว เราก็โยนแนวทางของเราลงไป ทางฝั่งพี่เขาก็โยนแนวทางของเขามา คนโน้นคนนี้ก็โยนแนวทางมา มันไม่ได้ประชุมกันแค่ 2 คน ประชุมกันเกือบ 30 คน เยอะมากครับ"

 

Sponsored Ad

 

แล้วแนวทางของเราอยากให้รายการเป็นแบบไหน เห็นว่าอยากเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน ?

        หนุ่ม กรรชัย : "แนวทางของผมก็ตามข่าวที่ออกไปเลยครับ"

หลังจากที่มีกระแสข่าวออกไป ทางผู้ใหญ่ได้สอบถามหรือพูดคุยบ้างไหม ?

 

Sponsored Ad

 

        หนุ่ม กรรชัย : "คนโทร.มาเยอะ แต่เรายังไม่ได้คุยกับใครเลย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 พอเริ่มมีข่าวออกมาเยอะ ๆ ยอมรับว่าเครียดมาก นอนไม่หลับมา 2 คืน จริง ๆ เราเครียดมาตั้งแต่วันศุกร์ 21 สิงหาคม 2563 ที่มีข่าวออกมาแล้ว บอกเลยว่าผลกระทบมันกระทบไปในหลายภาคส่วน แล้วเราก็เป็นห่วงทางช่อง 3 และผู้ใหญ่หลาย ๆ คน เราเลยเครียดและรู้สึกไม่สบายใจ"

งงหรือไม่ว่าข่าวหลุดมาได้ยังไง ?

        หนุ่ม กรรชัย : "งงมาก เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องในที่ประชุม ไม่ควรหลุดออกมาได้ แล้วพอหลุดออกมาก็ดันมากระทบตัวเราอย่างมาก ส่วนตัวไม่ได้อยากให้กลายเป็นความหมางใจ เพราะว่าสิ่งที่ออกมามันเป็นข้อความเหมือนว่าหมางใจ ซึ่งจริง ๆ มันยังไม่ได้ไปถึงขั้นหมางใจอะไรกันเลย แค่พูดคุยแต่แนวทางความคิดเห็นอาจจะแตกต่างกันบ้างเท่านั้นเอง"

Sponsored Ad

แล้วกับทาง "หมวย" อริสรา กำธรเจริญ พิธีกรคู่ในรายการ ได้พูดคุยกันไหม ?

        หนุ่ม กรรชัย : "จริง ๆ กับหมวยเราก็คุยกันตลอดอยู่แล้ว วันนั้นในที่ประชุมหมวยก็อยู่ด้วย ถามว่าแนวทางของหมวยกับเราไปทิศทางเดียวกันมั้ย ต้องบอกอย่างนี้ดีกว่าว่าเรากับหมวยตั้งใจทำรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ แบบถวายชีวิต อย่างเราเองทุ่มเทกับรายการนี้มาก ถึงขนาดที่ตัวเราไม่เคยไปส่งมายู (ลูกสาว) ไปโรงเรียนเลย เพราะว่าเราทุ่มเทกับงานมาก ตื่นตี 5 ครึ่ง เพื่อออกไปทำงาน เพราะอยากจะฟังแต่ละข่าวที่เข้ามาด้วยตัวเอง อยากคุยกับแหล่งข่าวหรือคนที่มีปัญหาเอง รายการออกอากาศตอน 11 โมง หลายคนถามว่าทำไมต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง อย่างที่บอกว่ามันมีช่วงแก๊ปเวลาไม่ได้นานมากนักในการที่เราจะทำข่าวเรื่องราวเหล่านี้ เลยมีความจำเป็นที่เราต้องรู้เอง แล้วก็ไปเตรียมงานเพื่อเข้าประชุมตอนเช้าเวลา 8 โมงครึ่ง เราทำอย่างนี้ทุกวันจนสุดท้ายแล้วทุกอย่างมันดีขึ้น ตอนที่เริ่มทำกันใหม่ ๆ เรตติ้งอยู่ที่ 0.5 วันนี้มันเป็นเรื่องที่เรากับหมวยดีใจกันมากเลย เรตติ้งบางวันมันขึ้นไปประมาณ 2 กว่า แต่ถ้าเป็นปกติของทุกวันจะอยู่ที่ประมา 1.2-1.3-1.4 เราแฮปปี้กับมันมาก แต่เราจะไม่หยุดในการที่จะทำให้มันดีขึ้นไปอีก เลยคิดว่าแนวทางของเรากับหมวยน่าจะมาทางทิศทางเดียวกัน ผมรักรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์มาก พยายามทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างให้คนรักและชื่นชอบรายการนี้ ซึ่งมันก็พิสูจน์ขึ้นมาให้เห็น ผมเลยรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างจะละเอียดอ่อนกับรายการนี้มาก เผลอ ๆ ว่าผมจะรักรายการนี้มากกว่าโหนกระแสด้วยซ้ำ ทั้งที่ไม่ใช่รายของผมเองด้วยนะ เรียกว่าทุ่มเทมาก ๆ ตื่นตี 5 ครึ่ง ไม่ได้ไปส่งลูก ต้องทิ้งชีวิตทุกอย่าง พอวันนึงมันมีปัญหาของการเห็นต่าง เลยอาจจะรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างจะอ่อนไหวพอสมควร แต่แน่นอนว่ามันก็ต้องหาจุดกึ่งกลางให้เจอ"

พอเกิดข่าวนี้ออกมา แล้วในการทำงานร่วมกันต่อไปจะมีปัญหาไหม ?

        หนุ่ม กรรชัย : "จริง ๆ แล้วเราไม่เคยรู้จักพี่เขามาก่อน พี่เขาก็ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน อาจจะเคยได้ยินชื่อกันมา เพียงแต่เรายังไม่เคยทำงานด้วยกัน คนที่จะมาทำงานด้วยกันในช่วงแรก ๆ มันต้องมีการทำความเข้าใจทำความรู้จักก่อน ว่าแต่ละคนชอบแบบไหน แล้วก็ปรับจูนกัน อีกอย่างเรื่องนี้ยังไม่มีการตกตะกอนอะไรเลย ส่วนในอนาคตเป็นเรื่องที่เราตอบไม่ได้จริง ๆ ว่ามันจะเป็นยังไง แต่สำหรับเราเองถ้าเกิดพยายามแล้ว เต็มที่แล้ว แล้วมันไม่โอเค เราก็ต้องกลับมาพิจารณาตัวเอง หมายความว่าเราต้องกลับไปถามว่ามันใช่ตัวเรามั้ย เป็นอย่างนี้มั้ย เราเดินมาถูกทางหรือเปล่า เป็นไปไม่ได้ที่เราจะดันทุรังทำไปแล้วยิ่งจะทำให้ทุกอย่างไม่ดีไปอีก แต่เราเชื่อและมั่นใจอย่างหนึ่งว่า จะยังไงก็แล้วแต่ท่ามกลางทุกสิ่งอย่างที่ออกมาตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเรา หรือทางพี่ผอ.เอง ไม่มีใครคิดร้ายกับช่อง 3 ทุกคนมีแต่มุมมองที่ดี ๆ ที่จะทำให้กับทางช่อง เพียงแต่อาจจะเป็นแนวที่เราเห็นต่างซึ่งก็ต้องปรับจูนเท่านั้นเอง"

ตามข่าวที่ออกมายังให้ชาวเน็ตติดตามด้วยว่า หนุ่ม กรรชัย จะแยกย้ายหรือไปต่อ ?

        หนุ่ม กรรชัย : "เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องในอนาคต ตอบไม่ได้จริง ๆ แต่วันนี้เรายังเป็นพนักงานช่อง 3 อยู่ ฉะนั้นเราก็จะใช้พลังกายและมันสมองของตัวเองทุ่มเทในการทำงานให้ช่อง 3 แต่ถ้าถามว่ามีคนมาจีบมั้ยมาคุยมั้ย คือมันไม่ใช่แค่วันนี้ กล้าพูดได้ว่ามีมาตลอด มันเป็นธรรมดาที่จะต้องเคยมีคนมาพูดคุยกับเรา แต่อย่างที่บอกว่า ณ วันนี้เรายังเป็นพนักงานของช่อง 3 อยู่"

ลือปลดฟ้าผ่า ?

        หนุ่ม กรรชัย : "ไม่ได้มีเรื่องแบบนั้นหรอกครับ ไม่มีใครปลดใคร เพราะทุกคนมีวุฒิภาวะในการพูดคุยกันอยู่แล้ว มันเป็นแค่ความคิดเห็นที่เห็นต่างก็แค่มาปรับจูนหาตรงกลางให้เจอเท่านั้นเอง"

พอเป็นแบบนี้กลัวว่าจะไปกระทบกับรายการ โหนกระแส ที่ตัวเองทำไหม ?

        หนุ่ม กรรชัย : "ไม่กลัวนะครับ ในส่วนของโหนกระแสเป็นรายการที่ผมทำเองครับ"

กำลังใจจากแฟน ๆ รายการมีเข้ามาเยอะไหม ?

        หนุ่ม กรรชัย : "อันนี้บอกตรง ๆ เลยว่าไม่กล้าอ่าน ไม่อยากอ่าน ทั้งที่ตัวเองทำงานอยู่ในวงการนี้และอยู่ในโซเชียลนะ แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วกลับไม่กล้าอ่าน แต่ก็มีคนรอบข้างที่อ่านแล้วมาบอกว่าทุกคนเป็นกำลังใจให้ ขออนุญาฝากผ่านทางข่าวสด แล้วกันว่า ขอบคุณมากจริง ๆ ที่รักผม มันชื่นใจ แต่ก็อาจจะมีบางคนที่ไม่ได้ชื่นชอบเราบ้าง อันนี้เราก็ยอมรับเพราะไม่มีใครจะมารักเราได้ทั้งหมด แต่ก็ขอบคุณทั้งมุมติ มุมชม มุมรัก มุมไม่รัก ทุกอย่างคือเดี๋ยวจะไปอ่านทั้งหมด พอดีมันเกิดเหตุการณ์หมาด ๆ เลยยังไม่กล้าอ่านอะไร เราไม่อยากพูดคำว่า...ขอบคุณที่เข้าใจผม แต่อยากพูดว่าขอบคุณที่รักผม เพราะมันมากกว่าคำว่าเข้าใจอีกนะ ขอบคุณที่รักผมจริง ๆ ให้กำลังใจ และเข้าใจแนวทางของผม"

ที่มา : khaosod

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ