หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

    เรียกได้ว่าเป็นเรื่องสาวสุดโกลาหลเลยทีเดียว จากกรณีที่หมอนวดสาวคนสวย เข้าร้องขอความเป็นธรรม ลอบมีสัมพันธ์กับลูกค้าจนท้อง ก่อนลูกค้าจะมาพาตัวลูกไป เชื่อเป็นลูกของตน ด้านสามีไม่เคยรู้ว่าเคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน 

    เพจข่าว ชุมชนข่าวขอนแก่น ได้รายงานเรื่องราวของ น.ส.เฌอญาดาหรือ เอ๋ (นามสมมติ) วัย 32 ปี ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายดลผู้เป็นสามี วัย 40 ปี เข้าแจ้งความว่า น้องจันทร์เจ้าลูกสาววัย 3 ปี ถูกลูกค้าชายคนดังกล่าวลักพาตัวไป 

    โดยนางสาวเอ๋ ได้เล่าว่าตนนั้นอยู่กินกับ นายดล สามี ได้ 1 ปีกว่า ก็เดินทางเข้าไปทำงานที่ร้านสปา อาบ อบ นวดในกทม. โดยทำหน้าที่เอนเตอร์เทนลูกค้า ส่วนสามีทำงานรับเหมาก่อสร้าง ระหว่างที่ตนทำงานก็นรู้จักกับนายอาร์ต อายุ 38 ปี ลูกค้าประจำ ที่ชอบแวะเวียนมาที่ร้านอยู่บ่อยๆ จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง เผลอใจมีเพศสัมพันธ์กันถึง 3 ครั้ง 

    ซึ่งแต่ละครั้ง นางสาวเอ๋จะกินยาคุมฉุกเฉินเสมอ แต่ต่อมาเธอเกิดตั้งครรภ์ ซึ่งสาวเอ๋ก็บอกให้สามีทราบ แต่เจ้าตัวยังไม่พร้อมมีลูก ตอนนั้นต้องการเอาลูกออก แต่ตนหาทางออกไม่ได้ จึงได้ไปปรึกษานายอาร์ต ซึ่งนายอาร์ต บอกว่าไม่ต้องทำแท้ง จะดูแลช่วยเหลือเอง หลังจากนั้นก็มีการดูแลจนคลอดลูก

    แต่ต่อมาเนื่องจากมี โ ค วิ ค จึงทำงานไม่ได้ สาวเอ๋จึงพาลูกกลับบ้านที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งนายอาร์ต ก็เป็นเจ้าบุญทุ่มใจป๋าเปิดร้านสปาให้ พร้อมซื้อรถยนต์ให้อีก 1 คัน แต่เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิดตัวลง เพราะวิกฤตปัจจุบัน ตลอดเวลาที่อยู่ขอนแก่น นายอาร์ตก็ยังไปมาหาสู่กับสาวเอ๋ โดยที่สามีไม่ทราบเรื่อง 

    เมื่อร้านสปาปิดตัวลง ก็มีความคิดอยากกลับเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ จึงนำลูกสาวไปฝากเลี้ยงที่ เนอสเซอรี่ โดยจะจ่ายค่าเลี้ยงดูลูกให้ครูเดือนละ 23,000 บาท ซึ่งในช่วงแรกก็จ่ายเงินให้ครูทุกเดือน แต่ช่วงหลังทำงานไม่ได้ จึงโอนจ่ายบ้าง แต่ไมได้จ่ายเป็นก้อน ก่อนตัดสินใจขายรถเก๋ง เอาเงินมาจ่ายให้ครู จากนั้นครูได้เลี้ยงลูกให้จนถึงวันที่ลูกหายตัวไป

     นางสาวเอ๋ ยอมรับว่า เคยพานายอาร์ตไปดูเนอสเซอรี่ 1 ครั้ง เพราะคิดว่าผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก อยากพบเจอจึงพาไปดู หลังจากนั้นตนก็กลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ และย้ำกับครูตลอดว่าห้ามให้ลูกสาวห่างสายตาหรือไปกับใครเด็ดขาด ส่วนนายอาร์ตก็หายไป กระทั่งมาลักพาตัวลูกสาวไป

    ก่อนล่าสุด เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 นางสาวเอ๋ ได้รับหมายเรียกจากศาลเยาวชนและครอบครัว ทราบว่านายอาร์ตยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อเป็นผู้ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว โดยต้องเดินทางไปที่ศาลในวันที่ 8 เมษายน 2564 ตนจึงรีบไปหาลูกสาวที่เนอสเซอรี่  ซึ่งเมื่อไปถึง ครูบอกว่า ลูกสาวหายตัวไป ขณะที่ครูนั่งถางหญ้าในบ้าน เมื่อรู้ว่าลูกสาวหายตัวไป จึงรีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนที่เอาตัวลูกสาวไป เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

    ด้าน นายภูวดลผู้เป็นสามี เผยว่า ตนนั้นไม่เคยรู้เรื่องที่ภรรยาคบหากับลูกค้าเลย ตนทราบเรื่องทุกอย่างตอนมีหมายเรียกมาที่บ้าน ทั้งนี้ตนไม่ได้ตกใจอะไร เพราะเรื่องผ่านมาแล้ว ตอนนี้ห่วงลูกมากที่่สุด เชื่อว่านายอาร์ต เป็นคนพาลูกสาวไปเนื่องขณะเข้าแจ้งความนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาบอกว่า ครูกับนายอาร์ต อุ้มน้องจันทร์เจ้าพร้อมเอกสาร การตรวจดีเอ็นเอ และสำนวนฟ้องมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันด้วยกัน 

    และระบุว่านายอาร์ต คือบิดา และเป็นผู้ปกครองดูแลบุตรเพียงผู้เดียว โดยบอกว่าตนและภรรยาไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะครูไม่ได้แจ้งให้พ่อแม่ทราบ เมื่อทราบเช่นนั้น ตนจึงติดต่อกับครู แต่ครูปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่อง และครูจะติดต่อกับนายอาร์ตให้นำน้องจันทร์เจ้ามาคืน แต่เมื่อติดต่อนายอาร์ตได้ นายอาร์ตบอกว่าไม่คืน และขอให้ทนายจัดการกับเรื่องทุกอย่าง ขอให้ไปคุยกันที่ศาลเท่านั้น จึงเชื่อมั่นว่า น้องจันทร์เจ้าอยู่กับนายอาร์ต

    ด้าน พ.ต.อ. พิชัยภูษิส จารุพงศ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวว่า ทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอศาลออกหมายจับนายอาร์ตมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาโดยปราศจากเหตุอันควรพรากเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดาและผู้ดูแล 

    ซึ่งหากจับกุมตัวได้ก็จะนำตัวมาสอบสวน เนื่องจากว่า การที่นายอาร์ตมีการยืนฟ้องบิดา มารดาของน้องจันทร์เจ้า และว่าตัวเองเป็นผู้ปกครองเพียงคนเดียวนั้น  อยู่ในขั้นตอนของศาลออกหมายเรียก และยังไม่ทราบว่า ใบตรวจดีเอ็นเอที่ได้มานั้นของจริงหรือไม่ นายอาร์ตไม่ควรจะชิงลงมือหรือกระทำการใด ๆ ที่เกี่ยวกับชีวิตและร่างกายหรือการลักพาตัวเด็กไปจากพ่อ แม่ ผู้ดูแล โดยเด็ดขาดเพราะการกระทำที่เกิดขึ้นนั้นผิดกฎหมาย จึงขอศาลออกหมายจับนายอาร์ตมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : เฟซบุ๊ก ชุมชนข่าวขอนแก่น