ผลการวิจัยพบว่า "แค่เดิน 10 นาที" หลังอาหาร สามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้จริง!

LIEKR:

เรามาเดินหลังทานอาหารกันเถอะ!

        บ่อยครั้งหลังรับประทานอาหารจนอิ่มแล้วก็ไปนั่งเล่นดูละครบนโซฟาจนเผลอหลับไป...แต่เพื่อนๆรู้ไหมว่า รูปแบบชีวิตประจำวันของเรากำลังเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานจากการไม่ออกกำลังกาย แล้วควรทำอย่างไรดี?

        หลายคนสงสัยว่าหลังรับประทานอาหารอาจรู้สึกง่วง แล้วจะเดินได้ไหม แต่ความจริงคุณสามารถตื่นตัวได้หลังทานอาหารเช่นกัน ที่สำคัญยังดีต่อระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย

 

Sponsored Ad

 

        ไม่นานนี้ในวารสารเกี่ยวกับโรคเบาหวาน (Diabetologia) ได้นำเสนอผลการศึกษาเรื่องนี้ โดยกล่าวถึงการดูแลตัวเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานว่า นอกจากต้องควบคุมอาหารที่รับประทานแล้ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็จำเป็นเช่นเดียวกัน การเคลื่อนไหวสามารถช่วยเผาผลาญน้ำตาลกลูโคสได้ และยังช่วยเพิ่มขีดจำกัดการสะสม glycogen ที่กล้ามเนื้อ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่อีกด้วย

 

 

Sponsored Ad

 

        ผลการวิจัยนี้ใช้การออกกำลังกายเป็นหัวข้อการศึกษาหลัก และศึกษาผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานระดับ 2 หรือ T2DM ที่ได้ออกกำลังกาย โดยใช้ผู้ป่วย T2DM 41 รายที่มีอายุเฉลี่ย 60 ปี และเป็นโรคเบาหวานมานานเฉลี่ย 10 ปี ใช้เวลาทดลองนาน 30 วันต่อกลุ่ม โดยมีเงื่อนไขการออกกำลังกาย 2 รูปแบบ ดังนี้ กลุ่มแรกเดินให้ได้รวมกันวันละ 30 นาที กลุ่มถัดไปหลังทานอาหารเสร็จทุกมื้อ 5 นาที ให้เดินนาน 10 นาที โดยค่าเฉลี่ยเวลาการเดินของแต่ละกลุ่มคือวันละ 30 นาทีเท่ากัน แตกต่างกันเพียงรูปแบบการเดิน ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มหลังได้ค่าเฉลี่ยระดับในเลือดต่ำกว่ากลุ่มแรก และยังพบว่าการเดินหลังอาหารมื้อเย็นได้ผลดีกว่ามื้ออื่น สรุปได้ว่าการเดินหลังอาหารมื้อเย็นได้ผลดีที่สุด

 

Sponsored Ad

 

แล้วถ้าหากเดินนานขึ้นจะได้ผลมากขึ้นไหม?

        ผลการวิจัยศึกษาเพียงการเดินหลังอาหาร 10 นาที จึงไม่สามารถตอบได้ว่าถ้าหากเดินเพียงวันละครั้ง แต่ครั้งละ 30 นาทีผลจะเป็นอย่างไร หรือเดินนานขึ้นจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเราได้แต่หวังว่าจะมีผลงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาในอนาคต แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การเดินหลังอาหารก็ดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน เราหวังว่าทุกคนจะได้อ่านบทความนี้ เพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นกันนะคะ

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ