จากคู่จิ้นเป็นคู่รัก! "ณเดชน์" ยอมรับรัก "ญาญ่า" มั่นคงขึ้น แอบวาดฝันถึงวันแต่งงานแล้ว!

LIEKR:

จากคู่จิ้นเป็นคู่รัก! "ณเดชน์" ยอมรับรัก "ญาญ่า" มั่นคงขึ้น แอบวาดฝันถึงวันแต่งงานแล้ว!

        ณเดชน์ คูกิมิยะ เผยรัก ญาญ่า อุรัสยา ไม่ได้โชว์หวานมากแต่ทำเป็นเรื่องปกติ รับมั่นคงกว่าเดิมหลังปรับจูนกันได้ มีวาดฝันถึงวันวิวาห์และการมีลูกในอนาคต

         เป็นคู่จิ้นฟินเว่อร์ที่พอกลายเป็นคู่จริงแล้วก็ยิ่งฟินสุด ๆ สำหรับคู่ของพระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ และนางเอกสาว ญาญ่า อุรัสยา ที่ตอนนี้เปิดเรื่องความรักให้แฟน ๆ ได้ตามส่องกันมากขึ้น แถมมีโมเมนต์หวาน ๆ มาให้ได้ฟินกันอยู่ไม่ขาด แม้ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าความรักเหมือนจะสะดุด แต่พอเคลียร์กันได้ก็ดูจะรักกันมากกว่าเดิม เพิ่มเติมอีกนิดด้วยความมั่นคงขึ้น จนแฟนคลับอดลุ้นถึงข่าวดีวันวิวาห์ของทั้งคู่ไม่ได้ 

 

Sponsored Ad

 

         ล่าสุด หนุ่มณเดชน์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องความสัมพันธ์ตนพยายามทำทุกอย่างให้สม่ำเสมอ เวลาผ่านไปเร็วมาก อะไรที่ทำได้ก็ทำไปเลยและทำให้ดีที่สุด ณ วันนั้น ที่ผ่านมาอาจหลงลืมไปบ้าง แต่พอได้ปรับจูนกันก็ทำให้รู้ว่าต้องแก้ไขตรงไหน เวลามองกลับไปเห็นความผิดพลาดที่ทั้งเสียเวลาและทำร้ายจิตใจ แต่ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี 

 

Sponsored Ad

 

         ส่วนที่หลายคนมองว่าตอนนี้หวานกันมาก ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้หวานมาก แต่อาจเพราะไม่เคยเห็นกันมากกว่าเลยรู้สึกพิเศษ จริง ๆ เราหวานกันในระดับหนึ่ง มีทำเซอร์ไพรส์ให้บ่อย มีรายละเอียดเยอะ แต่ก็มีความเป็นผู้ชายอยู่ ถ้าใครมีแฟนคงเข้าใจ ผู้ชายคือผู้ชาย คิดน้อย ไม่ค่อยใส่ใจความรู้สึกอีกฝ่าย ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ผู้หญิงคิด แต่ระหว่างทางเราก็โตขึ้นเรื่อย ๆ ได้เรียนรู้ความต้องการอีกฝ่าย จนตกผลึกแล้วว่าเราต้องเข้าอกเข้าใจกันและกัน รู้แล้วว่าเขาชอบอะไร อยากมีความสัมพันธ์แบบไหน ซึ่งพอปรับกันแล้วทุกอย่างก็โอเค ถ้าให้ระบุความสัมพันธ์ของเราเป็นสี คงเป็นสีรุ้ง เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์แต่ละวัน มีสีสัน และมั่นคงกว่าที่ผ่านมา 

 

Sponsored Ad

 

        งานนี้ หนุ่มณเดชน์ ยังได้เผยถึงเรื่องอนาคตของทั้งคู่ด้วยว่า ตนมีความฝันเยอะ และถึงขั้นคิดแล้วว่าอายุเท่านี้ เงินที่มีทั้งหมดจะบริหารยังไง ตนมองว่าการแต่งงานเป็นแค่ลายลักษณ์อักษร ทุกคู่อยากมีงานแต่งงานที่สวยงาม อยากได้งานแต่งแบบไหน อยากมีลูกกี่คน คิดได้ ฝันได้ แต่ต้องเอาตัวเองออกมา เพราะไม่อย่างนั้นเราจะยึดติด และต้องไม่ลืมว่าที่ผ่านมาเราแก้ปัญหาด้วยความเข้าใจ ด้วยการให้กำลังใจกัน 

 

Sponsored Ad

 

        สำหรับเรื่องหลังแต่งงานเรามีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น รู้จักนิสัยกันมากขึ้น ก็ต้องยึดตรงนี้เป็นหลักด้วย ถ้ามีลูกต่อให้มีพี่เลี้ยง เราก็ต้องมีเวลาให้ลูกเต็มที่ เราต้องดูแลลูกของเราเพราะนั่นคือหน้าที่ ไม่อยากเป็นพ่อแม่ที่ให้คนอื่นเลี้ยงลูกเรา ถ้าเลือกที่จะมีลูกก็ต้องมีเวลาให้เขา ถ้าทำตรงนี้ไม่ได้ก็ไม่มี ตนไม่ได้กลัวเลยว่าถ้าแต่งงานหรือมีลูกแล้วงานจะน้อยลงหรือภาพลักษณ์จะเป็นยังไง ตนรู้สึกว่าเราไม่ควรเสียดายอะไรที่ไม่ใช่คุณค่าจริง ๆ ของชีวิต 

.

.

.

ข้อมูลและภาพ จาก dailynews

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ