"พีท ทองเจือ" เล่ามรสุมชีวิต สร้างหนังขาดทุน "เป็นหนี้ 60 ล้าน" ไม่มีแม้เงินจ่ายค่าไฟบ้าน !

LIEKR:

"พีท ทองเจือ" เล่ามรสุมชีวิต สร้างหนังขาดทุน "เป็นหนี้ 60 ล้าน" ไม่มีแม้เงินจ่ายค่าไฟบ้าน !

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    เป็นหนึ่งในคนบันเทิงที่ชีวิตผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย สำหรับอดีตพระเอก พีท ทองเจือ ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนพีทก็ได้เคยทำหน้าที่เป็นผู้กำกับและอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "Province 77" หรือ "จังหวัดที่ 77" มาแล้ว 

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พีท ทองเจือ ก็ได้ออกมาปอกเปลือกเล่าเรื่องราวชีวิตสุดทรหด และเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ที่ทำให้ขาดทุนจนหมดตัว ถึงขนาดไม่มีเงินจ่ายค่าไฟมาแล้ว ผ่านทางรายการ วันดีคืนร้าย 

 

Sponsored Ad

 

    โดย พีท ทองเจือ เผยว่า ในตอนนั้นมีการรวมตัวกับเพื่อน ๆ ที่ช่อง ทำหนังด้วยกัน เพื่อนเป็นคนต่างชาติ คนเขียนบทเป็นเม็กซิกัน เราทำหนังไทย มีการเทรลเลอร์ เมื่อทุกคนชอบก็เริ่มทำบท ทำสตอรี่บอร์ด และคุยกับนายทุน 

    ซึ่งตอนนั้นเรามีนายทุนคนไทยที่คุยไว้ มีผู้ใหญ่สนใจ เราก็บินไป-กลับอเมริกาอยู่เกือบ 1 ปี กระทั่ง 3 เดือนก่อนเปิดกล้อง อยู่ ๆ นายทุนก็โทร. มาบอกว่าขอถอนตัว อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่มีการอธิบายว่ามีปัญหาอะไร

 

Sponsored Ad

 

    ตอนนั้นทีมของผมอยู่แอลเล ซึ่งทุกอย่างต้องหยุดเพราะเราไม่มีเงิน แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนถ้าตั้งใจจะทำอะไร ต้องทำให้ได้ เราก็คิดกันทันทีว่าต้องเดินต่อไปอย่างไร

 

Sponsored Ad

 

    ในตอนนั้นภรรยาผมสะกิดบอกว่า เรามีเงินสดที่ไม่รวมทรัพย์สินอยู่ 10 ล้าน มันจะไปได้แค่ไหน เขาก็พร้อมสู้ จากนั้นผมเลยเปลี่ยนแผนทันที เลือกที่จะหอบหนังไปตระเวนตามสตูดิโอใหญ่ ๆ ทั้งหลาย เช่น  เซ็นจูรี่ 21 ฟอกซ์ และหลาย ๆ สตูดิโอ

    จนสุดท้ายก็ได้ไปเจอกับผู้ช่วยของ คุณเมล กิบสัน ซึ่งเมื่อเอาสตอรี่บอร์ดให้เขาดู เขาก็ถามว่ามาจากไหน ก็บอกว่ามาจาก Bangkok ไทยแลนด์ แล้วพอเราขับรถออกมา ไม่ถึง 10 นาที เขาบอกว่าให้กลับมาด่วน เพราะเขาไปเสิร์ชชื่อ พีท ทองเจือ มันขึ้นมาว่าเป็นซัมบอดี้ในเมืองไทย เขาบอกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันเกินลิมิตตัวเองรู้หรือเปล่า มันไม่มีทางเป็นไปได้ ผมก็บอกว่าผมสู้ จะกลับบ้านไม่ได้ถ้าทำไม่สำเร็จ เขาก็บอกว่าโอเค เขาช่วยได้ ในเรื่องเงินคงให้ไม่ได้ แต่ขอดูคอนแทคต์ทั้งหลายที่เคยติดต่อไว้ ทั้งบริษัทกล้อง บริษัทไฟ

 

Sponsored Ad

 

    จากนั้นเขาก็บอกว่าโอเค บริษัทนี้เป็นคู่ค้าเขาอยู่แล้ว งั้นใช้วิธีว่า ที่คุณเช่าไว้ ที่ดู ๆ คุณแค่ทำงานได้ เดี๋ยวทุกอย่างจะเพิ่มเป็นสเกลใหญ่ให้หมดเลย เหมือนอัปเกรด แต่ส่วนต่างให้บริษัทต่าง ๆ มาวางบิลให้กับเขา เขาไม่ให้เงินสด แต่เพิ่มมูลค่าให้ ถ้าไปที่เซต กองถ่ายของผม อุปกรณ์เครื่องมือ เครนใหญ่ทุกอย่าง ซูเปอร์ฮอลลีวูดเลย

 

Sponsored Ad

 

    พีท ทองเจือ เผยต่อว่า หลังใช้เงินไปจนเกือบหมด 10 ล้านแล้ว ตนก็เรียกทุกคนมาขอประชุม ว่าโอเคนะ ต่อจากนี้การเดินทางจะเป็นแบบที่คาดคะเนอนาคตไม่ได้ ต้องประเมินเหตุการณ์วันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง ตนไม่รู้ว่าวินาทีไหนจะล้ม หรือจะเดินต่อไม่ได้ แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกัน แต่จากวินาทีนี้ต่อไปถ้าใครไม่มั่นใจ ไม่สบายใจ หรือไม่อยากทำงานด้วยกัน ขออนุญาตให้เดินออกจากห้องนี้ไปเลย โดยที่เรายังเป็นเพื่อนกัน เพราะตนไม่แน่ใจว่าจะไปต่อได้แค่ไหน ตนโดนแกล้งสารพัด แล้วไม่มีใครเคลียร์ได้ มีแค่ผมคนเดียว ผมก็ขับรถจากกองไปหาเงินต่อ

 

Sponsored Ad

 

    "ผมทำทุกอย่าง ง่าย ๆ ในหนังเป็นฉากที่เราต้องใช้รถซิ่ง รถแข่ง 100 กว่าคัน แล้วจะไปหาที่ไหน มันใช้เงินมหาศาลมาก เราไปที่โน่นก็ซื้อรถฮอนด้ามาแต่งเป็นรถซิ่ง แล้วกลางคืนผมก็ปลอมตัวไปซิ่งบนถนน ด้วยความที่เราเป็นนักแข่งอาชีพแต่เขาไม่รู้ เราขับเก่งกว่าพวกเขา เราก็ชนะ เขาก็มาดูรถเรา ซึ่งรถเราไม่ได้มีของ ไม่มีอะไร ไม่ได้แต่งแรง แต่ฝีมือเราดีกว่า สุดท้ายก็รู้จักคนเยอะ วันมีตติ้งผมหยิบสตอรี่บอร์ดมาว่าผมมาทำหนัง ทุกคนก็เฮ้ย จริงเหรอ ทุกคนมาช่วยกัน ไม่มีใครคิดเงินเลย"

Sponsored Ad

     สำหรับรถที่เอาเข้าฉาก ก็เป็นของเพื่อนที่เพิ่งรู้จักหมดเลย และเราปลอมตัวไป มีรถโรลด์ไรเดอร์ ที่ตัวร้ายจะขับ ตนติดต่อไปหนังสือโรลด์ไรเดอร์ ไปหาเขาที่ออฟฟิศ เอาสตอรี่ให้เขาดู ตนไม่มีเงินแต่ผมอยากทำอย่างนี้ ๆ เขาก็ติดต่อรถที่เขาเรียกมาถ่ายปกให้ ไปคุยกับเจ้าของ เจ้าของเขาบอกว่าเขาชอบสิ่งที่เราพยายามทำ โอเค มาถ่ายให้ ไม่คิดตังค์ แล้วก็ไปเพลย์บอย เอามิสเพลย์บอยมา ก็ใช้วิธีเดิม เอาสตอรี่บอดร์ดให้เขาดู

     ทั้งนี้ กว่าจะผ่านมาได้ จนกระทั่งขายเมืองนอก ขาดทุนตอนนี้อยู่ประมาณ 15 ล้าน จาก 60 ล้าน เราไม่ได้ขายบ้านหรือขายอะไร โชคดีที่เราอยู่เมืองนอก จนมาถึงเมืองไทย ก็อยู่ที่บ้านไม่ได้ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ต้องไปอาศัยบ้านภรรยา ประกอบกับตอนนั้นภรรยาเริ่มตั้งท้องด้วย แต่มีวันนึงเขาดันไปยกแพ็กน้ำ เขาเลือดไหล ไปหาหมอ หมอบอกว่าเหมือนน้องจะหลุด ที่บ้านก็อยู่ลำบาก เลยย้ายไปอาศัยบ้านพ่อตาแม่ยาย เริ่มต้นชีวิตใหม่

    ปรากฏว่าช่วงนั้นตนมาเป็นซัพพลายเออร์บริษัทรถยนต์ ตอนนั้นสั้น ๆ เลย เรามีเพื่อนคนหนึ่งเป็นคนฮ่องกง เอาเรื่องดริฟท์ติ้ง ซิ่งสายฟ้า ที่ เจย์ โชว เล่นเข้ามา แล้วเขาไปขอสปอนเซอร์บริษัทรถยนต์บริษัทนึง ปรากฏว่าได้สปอนเซอร์ แต่โจทย์คือต้องขนรถทั้งหมดจากบริษัทไปโชว์หน้าโรง ทั้งหมดประมาณ 20 โรงในเมืองไทย เพื่อนก็โทร. มาว่าทำยังไงดี เขาเป็นคนฮ่องกงพูดไทยไม่ได้ รถประมาณโรงละ 5 คัน มีโรงที่ต้องนำรถไปเป็น 20 โรง ต้องทำยังไง แล้วเขาให้งบคันละ 400 บาท ในการขนไปและขนกลับ ตนก็บอกว่าเดี๋ยวตนรับเอง เพราะเราอยากได้เงิน

    "พอเริ่มทำปุ๊บ เริ่มเจอบริษัท เขาเห็นเราบู๊มาก ก็เริ่มคุย เขาออกรถกระบะรุ่นใหม่มา ด้วยความเป็นนักแข่งอาชีพ ผมก็บอกว่านอกจากคุณออกทีวี ยิงสื่อวิทยุ ออกหนังสือโน่นนี่นั่น สิ่งที่คุณต้องทำคือเอารถไปอยู่ในสนามแข่งให้ได้ เพื่อให้โชว์สมรรถนะ เขาก็เริ่มตกหลุมเรา ให้งบมาและให้รถมาทำทีมแข่ง พอเริ่มทำทีมแข่ง เราก็เริ่มทำโรดโชว์ ภายใน 2 ปี ผมก็ฟื้นขึ้นมากะทันหัน รายได้เข้าปีหนึ่งเกือบ 20 ล้าน แล้วก็เริ่มมีน้องคนแรก มีชีวิตที่เป็นครอบครัวที่คืนชีพขึ้นมา" พีท ทองเจือ เผย

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<<<<

ข้อมูลและภาพจาก วันดีคืนร้าย

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ