เมื่อเร็วๆนี้ ชนเผ่าเซนติเนลเริ่มเป็นที่รู้จักแก่ชาวโลกมากขึ้น หลังพวกเขาก่อเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอเมริกาไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่โลกภายนอกพยายามติดต่อพวกเขา 

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 1991 หรือเมื่อ 27 ปีที่แล้ว มีหญิงสาวคนหนึ่งทำในสิ่งที่ทั้งโลกต้องสะพรึง เมื่อเธออาสาลงเรือล่องเข้าไปในเขตแดนเกาะนอร์ทเซนติเนล ซึ่งเป็นที่อยู่ของชนเผ่าเซนติเนลที่เหลือรอดจากโลกเก่า และอันตรายมากที่สุดในโลก และเธอก็เป็นมนุษย์จากโลกภายนอกคนแรก ที่ชนเผ่าให้การต้อนรับอย่างเป็นมิตร เพราะหลังจากเธอแล้ว การพยายามติดต่อจากโลกภายนอกก็เป็นอันล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน และนี่คือเรื่องราวของเธอ...

 

 

    Madhumala Chattopadhyay นำทีมสำรวจออกเดินทางด้วยเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว - เพื่อติดต่อกับชนเผ่าเซน ติเนล และตีแผ่ชีวิต ความเป็นอยู่ของชนเผ่าที่ตัดขาดจากโลกภายนอก ในบทสัมภาษณ์หนึ่งที่เธอกล่าวไว้มีใจความว่า "ตลอดการทำวิจัย 6 ปีของฉันกับชนเผ่าแถบทะเลอันดามัน ไม่เคยมีสักครั้งที่พวกเขาทำร้ายเราเลย พวกเขาอาจจะดูโลว์เทคโนโลยี แต่เรื่องการเข้าสังคม การจัดระเบียบภายในเผ่านั้น พวกเขาไปไกลกว่าเรามาก"

 

 

    ชนเผ่าเซนติเนลอาศัยอยู่บนหมู่เกาะอันดามัน ในมหาสมุทรอินเดีย พวกเขาไม่เหมือนชนเผ่าอื่นที่มีพื้นเพใกล้เคียงกันอย่างเผ่าออนช์ ชอมเพน และจาราวา ตรงที่วิธีการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ซึ่งชนเผ่าจาราวาถือเป็นเผ่าที่มีความศิวิไลซ์ และเข้ากับโลกใหม่ได้มากกว่าใครเพื่อน ขณะที่เผ่าเซนติเนลจะเป็นเผ่าที่โดดเดี่ยว ปลีกวิเวกและอันตรายมากที่สุดแทน

     การไปเยือนเกาะนอร์ทเซนติเนลนั้น นอกจากจะอันตรายแก่ชีวิตแล้ว ยังถือว่าผิดกฎหมายอีกด้วย เนื่องจากรัฐบาลอินเดียประสบผลล้มเหลวในการติดต่อกับชนเผ่าเซนติเนลหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเลิกติดต่อ เลิกยุ่งกับพวกเขาพร้อมประกาศให้เกาะนอร์ทเซนติเนล เป็นสถานที่หวงห้าม ไม่ให้เรือเดินสมุทรล่องเข้าไปใกล้ เพราะนอกจากจะเป็นอันตรายต่อตัวผู้เดินทางเข้าไปแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อตัวชนเผ่าเองอีกด้วย เนื่องจากอาจไปแพร่เชื้อโรคที่ไม่รู้จักให้กับคนบนเกาะได้

 

 

     และเมื่อเร็วๆนี้ สื่อใหญ่ๆทั่วโลกต่างรายงานข่าวการเสียชีวิตของมิสชันนารีหนุ่ม นาม จอห์น โช ผู้พยายามขึ้นไปบนเกาะเพื่อติดต่อสื่อสารกับชาวเซนติเนลจนถูกพวกเขาสังหารในที่สุด ข่าวนี้เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ชาวเซนติเนลไม่ต้องการผูกมิตรกับโลกภายนอก

 

 

    เรื่องราวอันน่าทึ่งของชนเผ่าเซนติเนลได้ติดอยู่ในใจของเด็กหญิงวัย 12 ปีชื่อ Madhumala Chattopadhyay เธอมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าว่าจะต้องเจอกับพวกเขาตัวเป็นๆให้ได้ เธอเข้าศึกษาต่อในคณะมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยโกลกาตา เธอให้เหตุผลในการเรียนวิชานี้ว่า "เพื่อเป็นใบเบิกทางไปหาชนเผ่าออนช์ และต่อด้วยเผ่าเซนติเนลสุดอันตราย"

    และเชื่อหรือไม่ เธอทำสำเร็จครับ!! โดยเคล็ดลับมัดใจชาวเซนติเนลของเธอคือมะพร้าว ทันทีที่เรือคณะเดินทางของ Madhumala เข้าเขตเกาะนอร์ทเซนติเนล เธอและคณะเดินทางรีบโยนมะพร้าวลงทะเลทันที เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าพวกเธอมาอย่างสันติ ผ่านไปไม่นานชาวเซนติเนลเริ่มเข้ามาใกล้ทีมสำรวจ แล้วหยิบมะพร้าวไปคนละลูกสองลูก เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่มีท่าทีคุกคาม Madhumala จึงโยนมะพร้าวให้อีกแล้วค่อยๆลงจากเรือเข้าไปหาชาวเซนติเนล 

 

 

    จนถึงวันนี้ การติดต่อชนเผ่าเซนติเนลของเธอถือเป็นการติดต่อจากโลกภายนอก ที่ประสบความสำเร็จครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า กุญแจสู่ความสำเร็จในการติดต่อกับชาวเซนติเนล คือผู้หญิง

 

 

    หลังจากครั้งแรกประสบความสำเร็จ Madhumala ก็ไม่รอช้า จัดทีมสำรวจออกเดินทางไปหาพวกเขาอีกครั้งหลังห่างจากครั้งแรกไม่นานเท่าไรนัก และครั้งนี้ยิ่งกว่าครั้งก่อนเป็นไหนๆ เพราะเธอเล่าว่าชาวเซนติเนลเริ่มเป็นมิตรกับพวกเธอมากขึ้น ถึงขนาดปีนขึ้นมาบนเรือและเลือกลูกมะพร้าวเก็บกลับไปด้วยตัวเองเลยทีเดียว 

    นอกจากชาวเซนติเนลแล้ว Madhumala ยังเดินทางไปเยี่ยมชนเผ่าจาราวา เพื่อเผยแพร่เรื่องราวจากโลกภายนอกให้พวกเขาได้รับฟังอีกด้วย ปัจจุบัน Madhumala ทำงานที่กระทรวงรัฐบาลกลางในกรุงเดลี รับศึกกับกองเอกสารราชการ และน้อยคนนักที่จะรู้ว่า เธอคือผู้ที่ทำให้โลกต้องฮือฮา กับผลงานการติดต่อกับชนเผ่าจากโลกเก่าที่ทุกวันนี้ ไม่มีใครทำได้เหมือนเธออีกเลย...

.

.

ข้อมูลและภาพจาก Boredpanda, Probashionline