"น้องเทนนิส" เตรียมรับทรัพย์! หลังทุ่มเทฝึกซ้อม จนคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์

LIEKR:

ใจฟูมากค่ะ นาทีน้องถือธงชาติวิ่งรอบสนาม ช่วยอัดฉีดให้นักฬาและโค้ชเยอะๆหน่อยนะคะ

    เป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติเลยทีเดียว หลังน้องเทนนิส พาณิภัค วัย 23 ปี ฮีโร่คนเก่งตัวแทนนักกีฬาไทย สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิก หลังเอาชนะ อาดรีอานา เซเรโซ นักกีฬาดาวรุ่งจากสเปนได้สำเร็จ 

    สำหรับชัยชนะในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่น้องเทนนิสจะได้รับเหรีญทองแห่งความภาคภูมิใจแก่วงศ์ตระกูล แต่ยังเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับเงินรางวัลก้อนโต ยกสถานะให้นักกีฬากลายเป็นมหาเศรษฐีได้ภายในข้ามคืนอีกด้วย

 

Sponsored Ad

 

    ซึ่งมีหลายหน่วยงานออกมาประกาศอัดฉีดกันแบบเต็มที่เป็นเงินมหาศาล โดยเบื้องต้น คาดว่าเงินรางวัลที่น้องเทนนิสจะได้รับเมื่อกลับถึงไทย น่าจะมีมากถึง 14 ล้าน จากหน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้

 

Sponsored Ad

 

    - กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประกาศอัดฉีดเงินรางวัล 12 ล้านบาท ให้นักกีฬาที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก โดยแบ่งรับเงินได้ 2 ทางเลือก คือ

    1. แบ่งรับเป็น 2 งวด งวดแรกเป็นเงิน 6 ล้านบาท และแบ่งจ่ายรายเดือนรวม 6 ล้านบาท คิดเป็นเงินทั้งหมดที่จะได้รับ 12 ล้านบาท

    2. หากเลือกรับเงินอัดฉีดเป็นเงินก้อนเดียว ในครั้งเดียว จะได้รับเงินอัดฉีดที่ 10 ล้านบาท

    - สหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ ร่วมกับชมรมกอล์ฟหลักสูตรสมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เพื่อความมั่นคงขั้นสูง ประกาศอัดฉีดเงินรางวัลร่วมกัน 1 ล้านบาท แก่นักกีฬาที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก

 

Sponsored Ad

 

    - รศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดี ม.กรุงเทพธนบุรี (มกธ.) ผู้สนับสนุนคนสำคัญคนหนึ่งของน้องเทนนิส ประกาศมอบเงินสด 1 ล้านบาท ให้น้องเทนนิส เพื่อเป็นการตอบแทนและเป็นรางวัลที่น้องอดทนพยายามฝ่าฟันอุปสรรคจนก้าวขึ้นมาถึงจุดสูงสุดในวันนี้ และหากนักกีฬาทีมชาติไทยคนอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักศึกษาของ ม.กรุงเทพธนบุรี สามารถคว้าเหรียญทองกลับมาได้ ก็จะมอบเงินสด 1 ล้านบาท ให้กับทุกคนเช่นเดียวกัน

 

Sponsored Ad

 

    ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้น้องเทนนิส พาณิภัค มีเงินรางวัลอัดฉีดการันตี เมื่อเดินทางกลับถึงเมืองไทยเบื้องต้นที่ 14 ล้านบาท และอาจมีเพิ่มได้อีกหากมีภาคเอกชนหรือภาครัฐรายใดต้องการสนับสนุนเพิ่มเติม

.

 

Sponsored Ad

 

.

.

.

.

ชมคลิป น้องเทนนิสขอบคุณแฟนๆ ทุกคน

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : ไทยพีบีเอส, เดลินิวส์

บทความที่คุณอาจสนใจ