ลูกสาวเปิดใจทั้งน้ำตา ปัด ยั ก ย อ ก เงินอาม่า เล่าเหตุการณ์ หนังคนละม้วน !

LIEKR:

ลูกสาวเปิดใจทั้งน้ำตา ปัด ยั ก ย อ ก เงินอาม่า เล่าเหตุการณ์ หนังคนละม้วน !

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปข่าวได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    จากกรณี นางฮวย ศรีวิรัตน์ และ นางสาวมินตรา ศรีวิรัตน์ หลานสาว ผู้รับมอบอำนาจ พร้อมด้วย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เดินทางไปที่ศาลแพ่งพระโขนง เพื่อยื่นฟ้องธนาคารแห่งหนึ่ง และพนักงานของธนาคาร เป็นจำเลย ที่ 1-5 และมีจำเลยที่ 6 เป็นบุตรคนที่ 2 ของนางฮวยเอง ว่า ยั ก ย อ กเงินเกือบ 300 ล้าน ไปจากบัญชี ซึ่งเมื่ออาม่าทวงถามลูกสาว ก็ได้รับคำตอบว่า เงินใช้ไปหมดแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

    ความคืบหน้า วันนี้ นางมาวดี ศรีวิรัตน์ อายุ 53 ปี ลูกสาวของอาม่า ซึ่งปัจจุบันได้เปิดรีสอร์ตอยู่ที่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เปิดใจกับทีมข่าว ทั้งน้ำตาว่า ตนไม่เคย โ ก ง เ งิ น อาม่า ไม่เคยแม้แต่จะคิด ยิ่งเห็นหลานๆ และทนายพาอาม่าออกมาแบบนี้ ก็รู้สึกเสียใจมาก

 

Sponsored Ad

 

ภาพจาก kapook

    ที่ผ่านมา ตนอยู่กับแม่ตลอด ดูแลใกล้ชิดตอน ป่ ว ย จะไปไหนก็ต้องรีบกลับ พอแม่ย้ายไปอยู่กับครอบครัวพี่ชาย ก็เริ่มเกิดความวุ่นวาย เข้ามายุ่งเรื่องเงินของครอบครัว เพราะคิดว่าตนได้เงินมากกว่า ทั้งๆ ที่ มรดก ก็แบ่งกันชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ มีมือที่ 3 ที่ทำให้อาม่า รับข้อมูลที่ผิดเพี้ยน 

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้ นางมาวดี ยังอ้างด้วยว่า ช่วงหลังที่อาม่าไปอยู่กับครอบครัวพี่ชาย ตนไปเยี่ยม ก็ถูกกีดกัน ล่าสุดปีที่ผ่านมา ตนจะไปบอกอาม่าว่า ลูกตนจะแต่งงาน แต่กลับไม่ให้พบ ปิดประตูโรงงานไม่ให้ตนเข้า 

    ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่า ตนเบิกเงินของอาม่าเกือบ 300 ล้านบาท จริงๆ แล้ว อาม่า ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น ช่วงปี 2556 ที่อาม่าป่วย มีเงินในบัญชีประมาณ 100 กว่าล้าน ซึ่งตอนนั้นอากงก็ยังมีชีวิตอยู่ พออาม่าป่วย ตนก็ดูแล ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก ซึ่งตนใช้บัตรเครดิตของตัวเอง จ่ายไปกว่า 300,000 บาท จนวงเงินในบัตรเต็ม จึงบอกอาม่าว่า ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้ว ต้องใช้เงินจากบัญชีอาม่ามาจ่าย ซึ่งก็เป็นเงินของโรงงาน ที่ตนก็ดูแลอยู่ด้วย

 

Sponsored Ad

 

    แต่ระหว่างนั้น อาม่า เริ่มเซ็นชื่อไม่สะดวก จึงปรึกษาอาม่า แพทย์ และธนาคาร ก่อนจะมีการเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกถอนเงินเป็นการพิมพ์ลายนิ้วมือ ซึ่งตอนนั้นอาม่า ก็มีสติครบถ้วน และยินยอมให้ดำเนินการ รวมทั้งการสั่งจ่ายเช็คค่าใช้จ่ายของทางโรงงาน เงินเดือนพนักงาน ซึ่งทั้งหมด อาม่าจะเป็นคนสั่ง ตนก็แค่รับคำสั่งมา 

    ต่อมาปี 2559 อากงเสียชีวิต อาม่าก็มาอยู่ที่โรงงาน โดยมีครอบครัวพี่ชายดูแล จากนั้นก็เริ่มเกิดปัญหา และตนถูกกีดกันไม่ให้เจออาม่า ทำให้ตนย้ายมาอยู่ที่เพชรบุรี จนถูกฟ้องเนรคุณในปี 2560 ซึ่งตนเป็นฝ่ายชนะ

 

Sponsored Ad

 

    สำหรับรีสอร์ตที่ชะอำ เป็นของลูกชายของตน ส่วนตน มีรายได้จากอพาร์ตเมนต์ และจากการดูแลรีสอร์ตช่วยลูกชาย ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็เตรียมทนาย เพื่อสู้คดีเช่นกัน

    อย่างไรก็ตาม นางมาวดี บอกด้วยว่า แม้จะมีการฟ้องร้องกัน แต่ในเรื่องความสัมพันธ์ ยังห่วงแม่ อยากจะรับแม่มาอยู่ด้วย เพราะที่ผ่านมา ดูแลกันมาตลอด ไม่รู้ว่า การไปอยู่แบบนั้น จะมีความเครียดหรือไม่

 

Sponsored Ad

 

ภาพจาก kapook

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<<<<

ข้อมูลและภาพจาก Thairath

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ