หมอต่างชาติเผยโยคะ "บำบัดต้นคอ" 15 นาที บรรเทาอาการได้ดี ผมเองก็ทำประจำ

LIEKR:

หมอต่างชาติเผยโยคะ "บำบัดต้นคอ" 15 นาที บรรเทาอาการได้ดี ผมเองก็ทำประจำ

    ปัจจุบันผู้คนมักมีอาการปวดตามจุดต่างๆของร่างกายมากขึ้น เนื่องจากการอยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้องเวลานาน โดยเฉพาะ “ต้นคอ” ที่มีอาการปวดอยู่เสมอ เพราะคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักต้องก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือมากขึ้น 

 

    แล้วกล้ามเนื้อหลักที่ทำให้เกิดอาการหรือโ ร ค นี้คือส่วนใดบ้างล่ะ?

 

Sponsored Ad

 

    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ กล้ามเนื้อ สเตอร์โนไคลโดมาสตอยด์ (Sternocleidomastoid) เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ในส่วนนอกของลำคอ เป็นกล้ามเนื้อที่มีจุดเกาะต้น 2 จุด ได้แก่

    1.จุดเกาะต้นด้านกระดูกอก (sternal head) 

    2.จุดเกาะต้นด้านกระดูกไหปลาร้า (clavicular head) 

    กล้ามเนื้อส่วนนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงกับ ศีรษะ, หน้า, เบ้าตา, หู, ข้อต่อขากรรไกร, ต้นคอและหน้าอก

 

    ดังนั้นนายแพยท์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มแห่งชาติ นายแพทย์ วิคเตอร์ ( Dr. Victor) จึงมีท่าโยคะในการยืดไหล่และต้นคอเพื่อช่วยบรรเทาอาการมาฝาก ว่าแล้วไปทำตามกันเลย

 

Sponsored Ad

 

 

    1.ยืนหลังตรง สองขายืนกว้างระดับไหล่ มือขวาดึงมือซ้ายลงให้สุด โดยจะดึงจากทางด้านหลังลำตัว ส่วนมือซ้ายให้ผ่อนคลาย หายใจเข้า ค่อยๆยืดต้นคอไปทางด้านขวามือ จะทำให้รู้สึกต้นคอด้านซ้ายตึงๆ เมื่อยๆ

 

 

Sponsored Ad

 

    2. ต่อจากนั้นให้แหงนคางขึ้นบนให้สุด  หายใจเข้า-ออก ช้าๆนิ่งๆ ท่านี้จะทำให้รู้ตึงๆบริเวณต้นคอซ้ายด้านหน้า

 

    3.ขณะที่หายออก ค่อยลดระดับคางลงมา ในเวลานี้จะรู้สึกกล้ามเนื้อหลังคอด้านซ้ายถูกยืด ตึงๆ 

 

Sponsored Ad

 

 

    4.จากนั้นให้หันคอไปทางด้านขวาให้สุดเท่าที่จะทำได้

 

    5.ให้แหงนคางขึ้นไปทางด้านซ้ายโดยจะเอียงไปทางด้านหลัง ให้หันไปให้สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นลดระดับลงให้อยู่ในท่าเดิม แนะนำให้ทำซ้าย-ขวาข้างละ 15 ลมหายใจ เมื่อทำเสร็จจะรู้สึกได้ว่าต้นคอได้รับการผ่อนคลาย

 

 

Sponsored Ad

 

    นายแพทย์ วิคเตอร์ ยังบอกอีกว่า ควรหาเวลาว่างออกไปท่องเที่ยวธรรมชาติมากกว่านั่งก้มดูมือถืออย่างเดียว

    มีคนไ ข้ หลายคนที่เข้ามารับคำปรึกษา หมอจึงแนะนำให้ทำท่าเหล่านี้ตามแล้วรู้สึกดีขึ้น หมอเองบางครั้งถ้าเมื่อยก็จะทำเพื่อผ่อนคลายเช่นกัน แต่สำหรับคนที่มีปัญหาด้านต่างๆ หรือมี โ ร ค ส่วนตัวใดๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาก่อนจะดีกว่า


ที่มา:candymush

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ