สาววัย 34 ปี ต้องจบชีวิตลง หลังทาน "เห็ดหูหนูดำ" แช่น้ำค้างคืน ผู้เชี่ยวชาญชี้ไม่ควรกินสดๆ

LIEKR:

ใครชอบทาน ระวังกันไว้ด้วยนะคะ

    ทุกท่านต่างทราบกันดีว่า "เห็ดหูหนูดำ" จัดว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพมาตั้งแต่ยุคจีนโบราณเลยก็ว่าได้ เพราะมันมีสรรพคุณที่โดดเด่นมากมาย ช่วยในการบำรุงร่างกาย แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับมีหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่ง กลับต้องเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้าใจ หลังรับประทานเห็ดหูหนูดำเข้าไป เพราะมันไม่ได้ถูกจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสม เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร เราลองไปฟังเรื่องราวของเธอพร้อมๆกันเลย

    เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวในประเทศจีนได้รายงานถึงข่าว ถึงการเสียชีวิตของหญิงวัย 34 ปี จากมณฑลกวางตุ้ง โดยเธอได้ซื้อเห็ดหูหนูดำแห้งมา แล้วแช่น้ำเอาไว้ ก่อนที่จะแบ่งมาส่วนหนึ่งเพื่อประกอบอาหารกินในวันนั้น

 

Sponsored Ad

 

    ทว่าอีกส่วนที่เหลือ เธอก็ได้แช่มันทิ้งไว้นานข้ามคืน โดยเธอกะว่าจะเอามันมาทำอาหารบริโภคให้วันถัดไป หลังจากนั้นเธอก็เริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน อุจจาระออกมาเป็นสีดำ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อไปเข้าตรวจ ทีมแพทย์วินิจฉัยว่าหญิงสาวมีภาวะตับวายเฉียบพลัน จนต้องเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู แต่ด้วยค่ารักษาที่ค่อนข้างสูง เธอจึงขอกลับไปพักฟื้นที่บ้าน

หลังจากกลับไปบ้าน ทางด้านครอบครัวของเธอก็คอยดูแลอยู่ตลอด ทว่าต่อมาอาการป่วยของเธอ ก็ส่งผลให้เกิดการทำงานผิดปกติของอวัยวะภายในหลายจุด และสุดท้ายเธอก็ได้จากโลกนี้ไป

 

Sponsored Ad

 

    ภายหลังทางทีมแพทย์กล่าวว่าพวกเขาพบสารพิษ Bongrek acid ภายในเลือดและปัสสาวะของเธอ ซึ่งเป็นสารพิษที่เกิดจากการก่อตัวของแบคทีเรีย Pseudomonas aeruginosa ในเห็ดหูหนูดำที่เธอแช่น้ำค้างคืนแล้วรับประทานเข้าไป

Sponsored Ad

    ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าตัวเห็ดหูหนูดำนั้น ไม่ได้มีสารพิษใดๆ ทว่าหากเราแช่มันไว้ในน้ำนานจนเกินไป ก็อาจทำให้เกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดผลเสียต่อร่างกายและอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

    ทั้งนี้พวกเขาก็แนะนำว่าการบริโภคเห็ดหูหนูดำ ควรแช่น้ำทิ้งไว้เพียง 1-2 ชั่วโมงก็พอแล้ว หรืออย่างไรก็ “ไม่เกิน 4 ชั่วโมง” ควรเลือกซื้อเห็ดหูหนูดำที่ไม่มีความเหนียวหนืดหรือมีกลิ่น ที่สำคัญคือควรต้องนำไปประกอบอาหารทุกครั้ง ไม่ควรรับประทานสดๆ

ที่มา: World of Buzz

บทความที่คุณอาจสนใจ