"แอนนี่ บรู๊ค" เล่าชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยว เหลือเงิน 3พัน แอบไปทำงานเมืองนอก เพื่อหาเงินให้ครอบครัว

LIEKR:

"ทุกวันนี้ก็ยังมีคนถามว่า ใครเป็นพ่อ แต่แอนนี่ไม่เคยสนใจ ขอโฟกัสแค่ครอบครัวเท่านั้นพอแล้ว..." -แอนนี่ บรู๊ค-ทีมงานขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

       แอนนี่ บรู๊ค เผยชีวิต รั น ท ด เหลือเงินติดบัญชี 3,000 บาท ต้องบินไปร้องเพลงในผับต่างประเทศ หาเลี้ยงครอบครัว หนีตำรวจหัวซุกหัวซุน แถมมีคนเสนอเงินให้เป็น เ มี ย น้ อ ย

       เรียกว่าเป็นสุดยอดคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสายสตรองของน้อง “ฑีฆายุ” สำหรับ “แอนนี่ บรู๊ค” บอกเลยว่าเธอนั้นต้องสู้กับมรสุมชีวิตและเจอปัญหาหนัก ๆ มามากมาย จนหายหน้าหายตาไปจากวงการ เพราะต้องเป็นเสาหลักหาเงินเลี้ยงครอบครัว รวมถึงดูแลลูกชายและคุณแม่ที่ล้มป่วยอีกด้วย ล่าสุดวันนี้ รายการ DARASTORY บันเทิงเรื่องใหญ่ จะพาไปเปิดเรื่องจริงของ “แอนนี่” ผ่านรายการ

 

Sponsored Ad

 

ทำไมเลือกที่จะไปร้องเพลง ?

       แอนนี่ : คือตอนนั้นไม่มีงาน ไม่มีเงิน และลูกก็กำลังจะเข้าอนุบาลแล้ว จำได้ว่าเหลือเงินในบัญชี 3,000 บาท เราก็มองว่ามันน่าจะได้เงินเร็วและได้เงินเยอะ เราคิดว่าเราเป็นคนสนุกสนาน เอนเตอร์เทนเก่ง ก็น่าจะไปได้ในเวลาที่รวดเร็ว เพราะถ้าทำงานที่รอเงินเดือนกว่าจะได้ 30,000 ก็ต้องรอ 30 วัน

สถานที่ที่ไปร้องเพลงคือที่ไหน ?

 

Sponsored Ad

 

       แอนนี่ : เป็นผับ ก็จะมีนักร้องไทยทั้งหมด แล้วก็จะมีโมเดลเป็นคนไทย

ได้เงินเยอะไหม ?

 

Sponsored Ad

 

       แอนนี่ : ก็เราไปในฐานะวีซ่านักท่องเที่ยว อยู่ 15-20 วัน ก็ได้มา 50,000-80,000 แต่เราก็ต้องประหยัดมาก ๆ ต้องเตรียมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปเต็มกระเป๋าเลย ทำงาน 1 ทุ่ม จนถึงตี 4-5 เพราะที่นู่นผับเปิดได้ถึงเช้า

นอกจากร้องเพลงต้องทำอะไรอีกบ้าง เคยโดนลวนลามไหม ?

 

Sponsored Ad

 

       แอนนี่ : ร้องเพลงเสร็จก็ต้องไปเจอแขก เพราะเราร้องเพลงเราก็ต้องหาลูกค้ามาคล้องมาลัยให้เรา แต่ว่าที่นู่นจะยากหน่อย ส่วนเรื่องลวนลามก็มีบ้าง แต่ส่วนมากไม่ค่อยเจอ เพราะมันก็มีคนที่หวัง เช่น พยายามที่จะชวนออกไปข้างนอก ชวนกินข้าว

เคยมีประสบการณ์ที่ต้องหนีตำรวจไหม ?

 

Sponsored Ad

 

       แอนนี่ : มีค่ะ เคยเจอที่มาเลเซีย เขาเอารถสิบล้อมารอรับเลย เราเห็นเท่านั้นแหละก็รีบวิ่งหนีเลย เหมือนในหนังเลยค่ะ กลัวมาก เพราะถ้าโดนจับนี่คือเข้าคุกเลย ก็ไม่รู้ว่าร้านจะมาประกันตัวไหม จนวิ่งเข้าไปที่ตึกแล้วก็กดลิฟต์ขึ้นไป ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าคือที่ไหน จนไปเจอสระว่ายน้ำข้างบน ก็ถอดเสื้อผ้าแล้วกระโดดน้ำเลย

โดนเมาท์ว่าไปขายที่ต่างประเทศจริงไหม ?

 

Sponsored Ad

 

       แอนนี่ : หลาย ๆ คนเขาก็จะมองว่าคนที่ไปทำงานต่างประเทศนั้นไปขายแน่นอน เรียกว่าโดนตราหน้า นอกจากจะบอกว่าไปเรียนต่อค่ะ แต่เราไม่สนใจ ก็บอกไปว่าไปทำงานค่ะ เพราะเราไปทำงานจริง ๆ

เรารู้สึกยังไงบ้างกับอดีตและข่าวที่ผ่านมา ?

Sponsored Ad

      แอนนี่ : ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า ผิดแล้วจำ ไม่กลับไปทำซ้ำอีก ชีวิตเราเริ่มใหม่ได้ในทุก ๆ วัน ถ้าวันนี้มันแย่ ไม่เป็นไร ค่อยเริ่มใหม่เดี๋ยวก็ดี ถ้ามันมีปัญหาก็ค่อยแก้ไป ไม่จำเป็นต้องคิดมาก

มีคนมาติดต่อให้ไปเป็นเมียน้อยจริงไหม ?

      แอนนี่ : มีค่ะ เขาก็มาบอกว่าชอบเรามาก อยากให้คุณมาเป็นแฟน แต่มีค่าใช้จ่ายให้นะ เดือนละ 1-2 แสน และก็ขอมีอะไรด้วยเดือนละ 2-3 ครั้ง บอกชัดเจนมาก มีหลายคน คือเขาอินบ็อกซ์เข้ามา บางทีก็มีคนที่เคยรู้จักกันตามงานทักมาก็มี ตามประสาผู้ชาย แอนตอบกลับไปว่า ถ้าพี่มีเมียอยู่แล้ว สักวันหนึ่งเมียพี่ก็ต้องรู้

      แม้จะมีหลายคนเคยตั้งคำถามว่า ‘ใครคือพ่อ’ แต่แอนนี่ไม่เคยสนใจ พร้อมเดินหน้าต่อสู้กับทุกปัญหาของชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ ส่วน ‘น้องฑีฆายุ’ ก็เป็นเด็กที่เก่งและฉลาดสุด ๆ คอยอยู่เป็นกำลังใจให้คุณแม่แอนนี่มาตลอด ยังไงก็ขอเป็นกำลังให้คุณแม่แอนนี่อีกครั้ง

.

.

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ข้อมูลและภาพ จาก รายการ DARASTORY บันเทิงเรื่องใหญ่

บทความที่คุณอาจสนใจ