เปิดชีวิต เมียหลวงยืนหนึ่ง "หนิง ปณิตา" เผชิญหน้ากับผู้หญิงของสามีไม่เว้นวัน ขอโฟกัสลูกแทน

LIEKR:

"ถ้าเขาอยู่แบบไม่ลามปาม หนิงโอเคนะ แต่ผู้หญิงที่ผ่านมาเจอแต่แบบแสดงตัวแล้วอยากจะเอาชนะ ด้วยทะเบียนสมรสที่เราถือ มันไม่มีวันชนะหรอก ทำยังไงก็ไม่มีวันชนะ..." / หนิง ปณิตา

    เป็นนักแสดงสาวที่มักจะได้รับฉายาว่า "เมียหลวงยืนหนึ่ง" สำหรับ หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ เรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนนี้ถูกจับตามองเรื่อง "ครอบครัว" อยู่เสมอ และในวันนี้ หนิงพูดได้อยากเต็มปากว่า "ตอนนี้เธอได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว"

    จากนางร้ายสู่การเป็นผู้จัดละคร 

 

Sponsored Ad

 

    "ตอนที่ตัดสินใจจะทำงานเบื้องหลัง มันเป็นเป้าหมายในชีวิตตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว หนิงเลือกเรียนนิเทศฯ เพราะอยากทำงานละคร แต่บังเอิญได้มาเป็นดาราก่อน" หนิงยังเล่าให้ฟังพร้อมกับหัวเราะตัวเองหน่อยๆ ว่า ไม่ได้อยากเป็นดารา เพราะรู้สึกว่าตัวเองขี้เหร่ เป็นดาราไม่ได้

    พอจะแต่งงาน ก็เริ่มวางแผนชีวิตหลังแต่งงาน และรู้ว่าตัวเองยังไม่ได้ทำงานที่ตัวเองรักและยังอยากทำอยู่ เลยลองมาทำงานเบื้องหลังดู แต่พอได้มาทำงานเบื้องหลัง หนิง ปณิตา ตอบแบบไม่อายเลยว่า "มันคนละแบบกับที่เรียนมาเลย ตอนแรกมองว่ามันคงไม่ได้ยาก เพราะคลุกคลีอยู่ในวงการมาหลายปี แต่พอทำเข้าจริงๆ มันไม่เป็นอย่างที่คิดเลยแม้แต่นิดเดียว" 

 

Sponsored Ad

 

    หนิงเล่าต่อว่า ทุกวันที่ทำงานมีปัญหาให้แก้ทุกวัน ท้อทุกวัน ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ความผิดพลาดหลายๆ อย่างเอามาปรับปรุง

    "ไม่มีวันไหนที่หนิงไม่มีน้ำตา ไม่มีวันไหนที่หนิงจะไม่ร้องไห้" หนิง ปณิตา ยอมรับว่า เพราะเป็นคนที่ทำอะไรจะตั้งใจสูงมาก และทุ่มสุดตัวเกินร้อย มันจึงมีความรู้สึกดดันตัวเองเกิดขึ้นในระหว่างที่ทำงานเป็นผู้จัดละคร แต่ถึงจะหนักหน่วงแค่ไหน เธอก็จะไม่ยอมแพ้และเดินหน้าสู้ต่อ

 

Sponsored Ad

 

    จากบทบาทการเป็นผู้จัดละคร แต่ หนิง ปณิตา ยังมีอีกบทบาทใหญ่ๆ ในชีวิตของเธอ นั่นก็คือบทบาทของการเป็นแม่ ซึ่งสาวหนิงได้แชร์วิธีการเลี้ยงลูกในแบบของเธอ ซึ่งหนิงบอกว่าเธอยึดเอาคุณแม่เป็นแบบอย่าง แม่เลี้ยงมาแบบไหน ก็เลี้ยงน้องณิริน ลูกสาวคนเดียวของเธอแบบนั้น 

    "เลี้ยงแบบธรรมชาติ เขาอยากทำอะไรให้ทำ ทำเสร็จแล้วถ้ามันไม่ใช่ก็ค่อยสอน หรือสิ่งไหนที่สอนแล้ว ว่าไม่ใช่ แต่เขายังดันทุรังที่อยากจะทำอยู่ก็ต้องให้เขาเรียนผิดเรียนถูก และเราก็คอยอยู่เป็นกำลังใจให้เขาข้างๆ และสิ่งหนึ่งที่เราต้องพยายามในการเลี้ยงลูกคือ ไม่ให้มีตัวตนของเราเข้าไปด้วย เลี้ยงลูกสมัยนี้ต้องฟังลูกเยอะๆ เพราะเหตุผลของพ่อแม่และเหตุผลของลูกมันเป็นเหตุผลของคนต่างวัย"

 

Sponsored Ad

 

    แม้ความเป็นแม่จะเหนื่อยและหนักมาก แต่เป็นบทบาทที่หนิงมีความสุข มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่และมีความสุขมากๆ ซึ่งหนิงเล่าถึงเรื่องนี้ด้วยรอยยิ้มที่ฉาบบนใบหน้าตลอดเวลา

    เพราะหนิงเคยมีปัญหาเรื่องความรักกับสามี จิน ธรรมวัฒนะ กับเรื่องผู้หญิงอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่เจ้าตัวเล่าเอง หรือมีข่าวอักษรย่อออกมาให้คนคาดเดา ทุกคนก็จะพุ่งเป้าที่เธอ แต่ทุกครั้งที่มีปัญหาเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนว่า หนิงจะรับมือกับมันได้ดีและทำให้ครอบครัวอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ จนทำให้เธอได้รับฉายาว่า "เมียหลวงยืนหนึ่ง"

 

Sponsored Ad

 

    "เวลาคนมองและยกให้เป็นเมียสายสตรอง หรือที่เรียกเมียหลวงยืนหนึ่ง หนิงจะแอบกดดันนะ เพราะเอาจริงๆ หนิงยังเอาตัวไม่รอดเลย (หัวเราะ)

    แต่คำคำนี้ก็เป็นเกราะให้เวลาที่ทำพลาดก็คุ้มกันไม่ให้หนิงพลาดเรื่องนั้นอีก หรืออะไรที่คนยินดีกับเรา เราก็ต้องยิ่งรักษาคำนั้นเอาไว้ให้ดี แต่ชีวิตของคนเราไม่มีใครเพอร์เฟกต์ เพียงแต่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิต ถ้าเราผิดพลาด ให้เรายอมรับจากใจว่าเราพลาด แก้ไข อะไรที่ดีอยู่แล้วก็อย่าไปเหลิงมัน และทำให้สิ่งที่ดีอยู่มันดียิ่งๆ ขึ้นไป แค่นี้แหละชีวิตของคนเรา"

 

Sponsored Ad

 

    "หลังๆ บางทีจะทะเลาะกัน ก็จะคิดว่าเดี๋ยวก็ต้องดีกัน จะทะเลาะทำไม หรือบอกตัวเองว่าถ้าคำนี้พูดไปจะทะเลาะกัน ก็อย่าพูดเลย ถอย บอกกับตัวเองว่า ถ้าอีก 1 ชั่วโมงยังรู้สึกอยู่จะพูด ผ่านไปมันก็ยังอยู่ ก็บอกตัวเองว่า อีกชั่วโมงค่อยพูด สรุปความรู้สึกมันหายไปเอง ก็เลยไม่ต้องพูด เหมือนเราถอยตัวเองให้ช้าลง"

    "ตอนที่มีปัญหาหนักๆ เราคุยกันแทบอยากเลิกกันเลย ตั้งคำถามกันว่า เลิกกันดีกว่ามั้ย หรือต่างคนต่างอยู่ดีกว่ามั้ย หรือว่าต่างคนต่างอยู่และช่วยกันดูแลลูก และแต่ละคนจะไปมีชีวิตยังไงก็แล้วแต่ดีกว่ามั้ย และมันก็เคยลองทำนะ อยู่ในบ้านเดียวกันต่างคนต่างอยู่ แต่สุดท้ายแล้ว ความรู้สึกของลูก เราสัมผัสได้โดยที่เราไม่ต้องพูดกัน รู้ว่าลูกต้องการทั้งคู่ ก็เลยทำให้โฟกัสเราเปลี่ยนไป และทุกอย่างมันก็ดีขึ้น

Sponsored Ad

    หนิงเล่าต่อว่า แม้จะทะเลาะกันหนักแค่ไหน สามีจะพูดกับเธอเสมอว่า "ขอบคุณนะที่เข้ามาในชีวิตเขา ที่ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น" เป็นประโยคที่จินพูดกับหนิงเสมอ

    "ถ้าสมมตินะ ถ้าเขาอยู่แบบไม่ลามปาม และให้ความเคารพหนิง หนิงโอเคนะ แต่ผู้หญิงที่ผ่านมาเจอแต่แบบแสดงตัวแล้วอยากจะเอาชนะ มันไม่มีวันชนะหรอก ทำยังไงก็ไม่มีวันชนะ ด้วยกฎหมาย ด้วยทะเบียนสมรสที่เราถือ ไม่มีวันชนะ แต่ถ้าอยู่แบบสงบๆ รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร หนิงว่าก็พอรับได้นะ หนิงทำใจกับเรื่องนี้ไปเกินกว่าครึ่งแล้ว"

    ใครที่ติดตามชีวิตของ หนิง ปณิตา ก็พอจะรู้ว่าช่วงสมัยก่อนนั้น ตามจับกิ๊กของสามีบ่อยแค่ไหน หนิงบอกกับเราไปหัวเราะไปว่า "เมื่อก่อนบ่อยนะ ถี่ยิบ ลากเพื่อนๆ ไปด้วยกัน (หัวเราะ) แต่ไม่บอกนะว่าเป็นใครเดี๋ยวเป็นข่าวอีก แต่ตอนนี้ไม่ทำแล้ว เราลุยคนเดียวเลย

    แต่หลังๆ พอหนิงไม่ไปตามจับ ตามจิก มันก็ดีขึ้น บางทียังพูดทีเล่นทีจริงว่า จะมีก็หลบดีๆ นะ และที่จับได้ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะมาแสดงตัวให้หนิงรู้ หนิงถึงบอกไงว่าถ้าอยู่ในขอบเขตไม่ล้ำเส้นมันก็โอเค เพราะหนิงมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะแยะไม่มีเวลามาโฟกัสเรื่องนี้ ต้องดูแลลูก ทำงาน ดูแลคุณจิน ดูแลคุณแม่ ก็เหนื่อยแล้ว อย่าให้ต้องมากับเรื่องแบบนี้อีกเลย แก่มากแล้ว ไม่มีแรง"

    มีคนเข้ามาขอคำปรึกษาเยอะมาก ในไดเร็กไอจี ถ้ามีเวลาตอบก็จะคุย บางคนคุยจนเป็นเพื่อนกัน หนิงย้ำชัดว่าเธอมักจะใส่ใจกับเรื่องพวกนี้มากๆ เพราะมองว่า ชีวิตครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าสามารถช่วยให้ใครสักคนหนึ่งพยุงครอบครัวไปได้ หรือให้เขามีที่พึ่งทางใจได้เล็กๆ น้อยๆ มองว่ามันเป็นบุญมหาศาล เพราะมันส่งต่อไปถึงเด็กตาดำๆ ซึ่งตัวเธอนั้นมองว่าสังคมมันจะดีได้มันมาจากพื้นฐานของครอบครัวก่อน

    เด็กจะดีได้ก็มาจากครอบครัว ถ้าความอบอุ่นมันบังเกิดขึ้น เด็กก็จะไม่มีปัญหา ทุกวันนี้ที่เด็กมีข่าวก็มาจากครอบครัว ก็ให้กำลังใจไปหลายคนแล้ว คนที่มาคุยเขาไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากให้ใครสักคนรับฟัง และส่งกำลังใจให้ พร้อมกับบอกด้วยความภูมิใจนิดๆ และขำๆ หน่อย ว่า แก้ปัญหาได้ก็หลายคู่ เลิกกันไปก็มี คนไหนเลิกก็ส่งกำลังใจให้สตรอง คนไหนไปต่อได้เราก็ดีใจและยินดีด้วย

    ก่อนจะจากกัน หนิง ปณิตา เมียหลวงยืนหนึ่ง ยังคงยืนกรานว่า เธอนั้นไม่ได้สตรอง แต่โชคดีที่มีพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งเวลาหาทางออกไม่ได้ก็ไปปฏิบัติธรรม มันทำให้เธอนั้นช้าลง ใจเย็นขึ้น และมองอะไรหลายๆ อย่างไม่หลอกตัวเอง

    พร้อมกับทิ้งท้ายอีกว่า "ถ้าใครคิดถึงผลงานให้รอดูโซ่เวรีนะคะ ตอน 8 หนิงออกมารับเชิญนิดเดียว แต่รับรองแซ่บค่ะ บอกเลยว่าผัวข้าใครอย่าแตะ เมียหลวงยืนหนึ่ง และมีไดอะล็อกหนึ่งที่น่าจะถูกใจคนดู ไดอะล็อกนี้เอามาจากอินเนอร์ข้างในค่ะ (หัวเราะ)"

ที่มา : thairath

บทความที่คุณอาจสนใจ