บริเวณร้านขายกล้วยทอดป้าขวัญใจ ริมถนนพุทธบูชาเลียบริมแม่น้ำน่าน เขตเทศบาลนครพิษณุโลก พบเป็นเพิงไม้มุงด้วยสังกะสีเปิดขายกล้วยทอด เผือกทอด มันทอด มีป้ายติดเต็มไปหมด สร้างความแปลกใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จนผู้ที่สัญจรผ่านไปมาต่างแวะมาไถ่ถามและขอถ่ายรูป

        นางขวัญใจ พูพุ่ม อายุ 63 ปี อยู่บ้าน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งกำลังสาละวนเปิดร้านและตั้งน้ำมันเพื่อทอดกล้วยขายให้กับลูกค้า โดยบริเวณด้านหน้าร้านมีป้ายที่เขียนด้วยปากกาเมจิกติดเอาไว้จำนวนมาก อาทิ “ขโมยจ๋าขอคืนเถอะ ร่มหาย” ประชดโจรหลังถูกขโมยร่มบังแดด

        ด้าน นางขวัญใจ พูพุ่ม หรือป้าขวัญใจ เปิดเผยว่า ตนเองเปิดร้านขายกล้วยทอดมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ทุกวันตั้งแต่ตี 4 จะเดินทางจากบ้านพักมาเปิดร้านบริเวณดังกล่าวเพื่อขายกล้วยทอด เผือกทอด มันทอด โดยจะขายไปถึงเวลาช่วงเย็นจนกว่าจะขายหมด

        และด้วยสภาพอากาศที่ร้อนในช่วงนี้จึงตัดสินใจซื้อร่มบังแดดมาหนึ่งอันด้วยการผ่อนเงินกับคนขายวันละ 50 บาท เป็นเงินจำนวน 1,800 บาท หลังจากนั้นก็ได้ใช้ร่มบังแดดตั้งไว้หน้าร้านทุกวัน และจะเก็บร่มหลังจากปิดร้านแล้ว โดยเอาไปแอบไว้หลังร้าน แต่เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะตนเองมาเปิดร้านตามปกติกลับพบว่าร่มบังแดดที่เพิ่งซื้อมาหายไป สอบถามคนละแวกใกล้เคียงก็ไม่มีใครเห็น จึงคาดว่าน่าจะถูกโจรขโมยไปอย่างแน่นอน

        ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกขโมยโต๊ะวางของไปแล้วรอบหนึ่ง จึงตัดสินใจเขียนป้ายติดประชดโจรให้เห็นใจเอาร่มกลับมาคืนด้วย เพราะเดือดร้อนไม่มีร่มบังแดด เวลาทอดกล้วยทอดขายก็ร้อน แถมแดดยังส่องหน้าร้านไม่มีร่มบังแดด จนเหงื่อไหลไคลย้อยไปหมด ถ้าหากโจรยังไม่เอาร่มบังแดดมาคืนจะเขียนป้ายแ ช่ ง โจรให้มี อั น เ ป็ น ไ ป ด้วย ทุกวันนี้ค้าขายก็ยากลำบากอยู่แล้ว กำไรแต่ละวันก็ได้น้อยยังต้องมาถูกโจรขโมยของไปอีก

        ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บริเวณร้านขายกล้วยทอดอีกแห่งย่านถนนเลียบริมแม่น้ำน่าน ก็ถูกขโมยถังแก๊สไปด้วย คาดว่าน่าจะเป็นรายเดียวกันนี้ที่ออกขโมยของในช่วงค่ำคืนกลางดึกปลอดคน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก เร่งสืบสวนติดตามหัวขโมยรายนี้เพื่อมาดำเนินตามกฎหมายต่อไป

ข้อมูลและภาพจาก matichon