หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ กับการที่ “1 ชีวิต” ซึ่งค่อยๆ โรยรา ต้องแบกรับภาระเลี้ยงอีก5 ชีวิตป่วยๆ ให้มีลมหายใจต่อไปได้ ยอมดิ้นรนทุกวิถีทาง แม้เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่กลับไม่เคยคิดแบมือขอใครกิน ทนต่อสู้กับจุดตกต่ำที่สุดของชีวิต จนหลุดพ้นจากความคิด “ฆ่าตัวตายยกครัว” มาได้ ความสุขในวันนี้ไม่มีอะไร นอกจากครอบครัวได้ กินอิ่ม-นอนหลับ เท่านั้นพอ 

        "ช่วงที่ป้าท้อ ป้าเหนื่อย ป้าเครียดมากๆ เชื่อไหมป้าเคยไปซื้อยาเบื่อหนูมานะ เอามาเคล้าอาหารแล้วแหละตอนนั้น กะให้ทุกคนในบ้านกินให้หมด ตอนแรกป้าจะมาผสมนมให้หลานคนที่พิการ ที่นอนป่วยอยู่กินก่อน 

        แต่พอป้าเดินเข้าไปใกล้เขา เขาก็ยิ้มให้ป้า เหมือนเขาดีใจจะได้กินอาหาร ป้าเห็นแบบนั้นก็เลยสะท้อนใจว่า เขาดีใจแบบนี้ แล้วเราจะมาฆ่าเขาลงได้ยังไง เท่านั้นแหละ ป้าก็กอดเขา แล้วก็ร้องไห้เลย เขาเองก็ไม่รู้นะตอนนั้นว่า ป้าร้องไห้เรื่องอะไร"

        ป้าณี-ปราณี หลักเพชร หญิงป่วยมะเร็งไทรอยด์วัย 60 เสาหลักหัวใจแกร่ง ชาวบ้านในอ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ผู้หาเลี้ยงอีก 5 ลมหายใจในครอบครัวอย่างสุดความสามารถมาตลอดทาง เปิดอกเล่าย้อนถึงช่วงชีวิตที่เคยคิดสั้นเอาไว้ ผ่านรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้าอยู่เต็มเปี่ยม “ป้าเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด แต่ป้าทนได้ ถ้าป้าไม่ทำแล้วคนในบ้านจะอยู่อย่างไร”

        กิจวัตรในทุก ๆ เช้า ป้าณีจะต้องตื่นตั้งแต่หัวรุ่ง ประมาณ 04.00 น. ลุกขึ้นมาหุงข้าวและจัดเตรียมยูกยาให้กับคนในบ้าน ประมาณ 05.00 น. ก็จะออกไปตามป่า ตามภูเขา เพื่อออกไปเก็บของป่าขาย จากนั้นก็จะปีนขึ้นไปบนต้นตาล ตัดใบตาล ลูกตาล เพื่อนำของป่าที่ได้ทั้งหมดกลับบ้าน และลงมือทำขนมตาล ช่วงบ่าย ๆ ก็จะนำผักที่เก็บได้และขนมไปขายที่ตลาดนัด รายได้ประมาณ 300-400 บาท/ครั้ง

        แม้เงินจะไม่ได้มากมายแต่ก็เป็นเงินที่จำเป็นต้องนำมาจุนเจือครอบครัว เพราะ...ชีวิตของสมาชิกในครอบครัว กำลังเผชิญกับโรคที่รุมเร้ารอต่างเฝ้าคอยอยู่ที่บ้าน

        แม่ของป้าณี อายุ 90 ปี ป่วยเป็นโรคชรา มีอาการหลงๆ ลืมๆ อยู่ตลอดเวลา ส่วนสามีป่วยเป็นโรคหัวใจ น้องสาวที่อายุ 52 ปี ป่วยเป็นโรคจิตเวช มีอาการทางสมองระดับกลาง ขณะที่หลานชายวัย 15 ปี ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อตั้งแต่กำเนิด ด้านหลานสาว อายุ 10 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจ และตัวป้าณีเอง ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ ซึ่งผ่านการผ่าตัดมาแล้ว 2 ครั้ง ที่รพ.รามาธิบดี

        ทั้ง 5 ชีวิตที่ต้องเจ็บป่วยและมีโรคประจำตัวไม่สามารถประกอบอาชีพอะไรได้เลย ดังนั้นจึงมีเพียงป้าณีที่ยังพอมีเรี่ยวแรง เป็นหัวเรือหลักทำงานทุกอย่าง เพื่อหาเงินมาซื้อข้าว ซื้อยา เป็นค่ารถพาทุกคนเดินทางไปโรงพยาบาล

        “ป้าเคยท้อเคยเครียดมาก วันหนึ่ง ๆ ป้าเองก็ไม่ค่อยได้กินอะไรหรอก เพราะก็หวังแค่อยากให้ทุกคนได้อิ่มท้อง กลัวว่าหลานจะเป็นอะไรไป แม้ว่าป้าจะเหนื่อย แต่ป้าก็ต้องทำ สู้เพื่อโอกาสรอด ป้าไม่อยากรอความหวัง ป้าก็จะทำไปแบบนี้จนตาย” ป้าณี เผยกำลังใจที่จะต้องอยู่ต่อให้ได้

        “เสน่ห์ปลายจวัก” คืออีกหนึ่งทางรอดที่ป้าณีหยิบมาใช้อย่างสุดความสามารถ โดยเฉพาะสูตรขนมไทยเฉพาะตัวอย่าง “ข้าวต้มมัด” และ “ขนมตาล” ที่หอบไปขายกี่ทีก็เป็นต้องเกลี้ยงทุกครั้ง โดยเฉพาะขนมตาลสูตรป้าณี ห่อใบตาลจากต้นแท้ๆ อย่างที่หาไม่ได้แล้วในยุคนี้

        เมื่อถามว่ายังอยากได้รับความช่วยเหลือด้านไหนอีกไหม ป้าปราณีก็ตอบทันทีเลยว่า “อยากได้นมให้หลาน น้องมันต้องกินนมคาร์เนชั่นกับเอนชัวร์ แล้วก็มีอาหารเสริมที่นานๆ ยายจะซื้อให้เขาที กับแพมเพิร์สที่ต้องใช้อยู่ประจำ” ส่วนความต้องการของตัวคุณป้าเองนั้น ตอบได้ทันทีว่าไม่เหลืออะไรแล้ว 

        “ตัวป้าเองไม่มีอะไรที่จะต้องการแล้ว มีแต่อยากให้หลาน ให้เขามีความสุข ยายก็ดีใจ ป้าปฏิญาณกับตัวเองว่า ป้าจะไม่คิดทำร้ายเขาอีก เหมือนอย่างที่เคยคิดจะใส่ยาเบื่อให้เขากิน และป้าจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด ป้าจะยอมอด เพื่อที่จะให้เขาอิ่ม”

ภาพจากฅนจริงใจไม่ท้อ

ภาพจากฅนจริงใจไม่ท้อ

ชมคลิปเพิ่มเติม

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก ฅนจริงใจไม่ท้อ, mgronline