เปิดอีกมุม "แต๋ม-ชรัส เฟื่องอารมย์" ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย ใช้ธรรมะดูแลกายใจ !

LIEKR:

เปิดอีกมุม "แต๋ม-ชรัส เฟื่องอารมย์" ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย ใช้ธรรมะดูแลกายใจ !

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ   

    หากย้อนเวลาของวงการเพลงไทยสากลกลับไปในยุค 80 เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักเจ้าพ่อเพลงรักน้ำเสียงละมุน อย่างคุณ แต๋ม ชรัส เฟื่องอารมย์ ซึ่งเคยฝากผลงานเพลงทรงคุณค่าเอาไว้มากมาย เช่น เพลง รู้อยู่แก่ใจ, ทั้งรู้ก็รัก, ผีเสื้อ,เพราะฉะนั้น และอีกหลายเพลงคุณภาพที่ใครหลายคนยังไม่ลืมเลือน แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 30 ปีแล้วก็ตาม

    ทีมงาน เคยได้มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่มใหญ่หัวใจโรแมนติกวัย 67 ปีท่านนี้ ที่ถึงจะอยู่ในช่วงอายุที่เจ้าตัวเอ่ยปากว่าเป็นช่วงเกษียณ แต่ก็ยังคงมีงานร้องเพลงคอนเสิร์ต ให้เราได้ติดตามผลงานกันอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเมื่อได้เห็นเขาตามสื่อต่างๆ ทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า อายุที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ทำให้ชายผู้นี้ดูหนุ่มแน่นน้อยลงเลย

 

Sponsored Ad

 

    “ผมเริ่มหันมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจังในวันที่เพื่อนๆและคนรอบข้างเริ่มล้มป่วย เริ่มตายจากไปทีละคน ทำให้มานึกได้ว่า เราเองก็อายุเท่านี้แล้ว จะทำอย่างไรที่จะชะลอความแก่และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆให้ถามหาช้าที่สุด” คุณแต๋มเกริ่นก่อนจะเล่าถึงการใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขและแข็งแรงของตนไว้ดังนี้

ใช้ธรรมะดูแลทั้งกายใจ

 

Sponsored Ad

 

    คุณแต๋มเล่าให้ฟังว่า เขาได้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของชีวิตเพราะธรรมะ การได้ไปปฏิบัติธรรม ทำสมาธิและสวดมนต์นั้น ช่วยให้มีสติ จิตใจสงบ และได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ทั้งยังช่วยขจัดความขุ่นมัวในจิตใจได้ด้วย ซึ่งคุณแต๋มบอกถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติธรรมว่า

    “พอได้นั่งสมาธิ ได้กำหนดลมหายใจ และทำจิตให้นิ่งแล้ว เราจะรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้รู้สึกโกรธ ไม่พอใจ หรือรู้สึกกลัดกลุ้ม เมื่อรู้ใจตนเองก็จะปล่อยวางเรื่องต่างๆได้ง่ายขึ้น พอไม่เก็บไปเครียด ไปวิตกกังวล สุขภาพใจก็จะดี และช่วยให้ร่างกายนั้นดีตามไปด้วย”

 

Sponsored Ad

 

มีมรณานุสติ

    เมื่ออายุดำเนินมาเลยวัย 60 คุณแต๋มแนะนำถึงสิ่งแรกที่พึงกระทำ คือ การมีมรณานุสติ เข้าใจธรรมชาติของชีวิตว่า มีเกิด แก่ เจ็บ และตาย ซึ่งช่วยให้เขามองความตายเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้วันนี้พรุ่งนี้ จึงช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างรอบคอบมากขึ้น

    “พอมีสติรับรู้ว่าตอนนี้แก่แล้ว และอีกหน่อยก็ต้องตาย ผลพลอยได้ของการรับรู้นี้คือ ทำให้เราหันมาสนใจสุขภาพและร่างกายมากขึ้น ผมออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ ทำกิจกรรมที่ชอบอย่างปลูกต้นไม้ และเลิกลงทุนหรือทำธุรกิจ ไม่ขวนขวายหาความร่ำรวย คือใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับช่วงอายุ ก็ทำให้เราอยู่อย่างเป็นสุขในวัยนี้” 

 

Sponsored Ad

 

รักษามิตรภาพ

    อีกสิ่งหนึ่งที่คุณแต๋มแนะนำคือ การคบเพื่อนในวัยเดียวกันไว้ พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ คอยถามไถ่ทุกข์สุข และทำกิจกรรมที่ชอบร่วมกัน เพราะการมีเพื่อนจะช่วยให้ไม่โดดเดี่ยวอ้างว้าง และได้มีกิจกรรมทางสังคมด้วย

 

Sponsored Ad

 

    “รักษาเพื่อนที่มีเอาไว้เป็นเรื่องไม่เสียหาย จะได้พบปะพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันได้ และผมว่าการคบเพื่อนที่อยู่ในวัยเดียวกันนั้นดีนะ เพราะจะพูดคุยกันถูกคอ เข้าอกเข้าใจกัน คือคุยกันรู้เรื่อง” คุณแต๋มแนะนำ

และก่อนจะร่ำลา คุณแต๋มได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า...

 

Sponsored Ad

 

    “ไม่ว่าอยู่ในวัยไหนหรือนับถือศาสนาใด ผมอยากให้ลองศึกษาคำสอนของศาสนานั้นๆดู ทุกศาสนาสอนให้เราคิดดีทำดีอยู่แล้ว และคำสอนเหล่านั้นย่อมก่อให้เกิดผลดีแก่ชีวิต เมื่อมีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจก็จะช่วยให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”

    เมื่อในหัวใจมีธรรมะ  เราก็จะไม่ทุกข์ร้อนไปกับสิ่งต่างๆรอบตัวและเมื่อจิตใจสงบ  ชีวิตก็จะเป็นสุขนั่นเอง

ชมคลิป ชรัส เฟื่องอารมย์

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 379

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ