เป็นบุญตาเหลือเกิน เผยภาพ "วังศุโขทัย" ที่ประทับของ "พระองค์หญิงสิริวัณณวรีนารีรัตน์"

LIEKR:

เป็นบุญตายิ่งนัก

        วังศุโขทัยตั้งอยู่มุมถนนขาวและถนนสามเสนเป็นวังที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา ในครั้งนั้นสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง ในรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวังศุโขทัยพระราชทานเป็นของขวัญในการอภิเษกสมรสของกรมขุนสุโขทัยธรรมราชากับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ เมื่อปี พ.ศ. 2461 โดยได้รับพระราชทานนามวังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า "วังศุโขไทย"

 

Sponsored Ad

 

        วังศุโขทัยได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์แบบที่สุด ในด้านการก่อสร้าง โดยประยุกต์ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตก ด้านรูปแบบตัวอาคารและตกแต่งด้วยศิลปะแบบไทย ประกอบด้วย ตำหนัก 3 หลัง คือ ตำหนักใหญ่ ตำหนักไม้ ตำหนักน้ำ ภายในพระตำหนักมีระเบียงทางเชื่อมระหว่างตำหนัก ซึ่งเป็นการออกแบบก่อสร้างตามอย่างตะวันตก หากแต่ใช้ไม้เป็นวัสดุแกะสลักลวดลายตามชายคาแบบไทยอย่างสวยงาม ในช่วงที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถประชวร มักจะเสด็จมาพักผ่อนพระอิริยาบถที่ตำหนักน้ำซึ่งตั้งอยู่ริมคลองสามเสนอยู่เป็นประจำ

 

Sponsored Ad

 

        เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงขึ้นครองราชสมบัติ แล้ว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ได้เสด็จไปประทับที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตระยะหนึ่ง แล้วเสด็จกลับมาประทับที่วังศุโขทัยอีกครั้ง ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 หลังจากนั้นประมาณปีเศษ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จไปประทับที่ประเทศอังกฤษ จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484

 

Sponsored Ad

 

        ช่วงนั้นวังศุโขทัยตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และใช้เป็นสถานที่ราชการ จนกระทั่งสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีเสด็จกลับมาประทับที่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ แล้วจึงได้เสด็จมาประทับที่วังศุโขทัยอีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2511 จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมพ.ศ. 2527และก่อนหน้าที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรจะรับการอัญเชิญขึ้นทรงราชย์ พระองค์ได้ประทับ ณ ที่นี่ แต่ต่อมาได้ย้ายที่ประทับไปที่พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิตโดยปัจจุบันเป็นที่ประทับของพระเจ้าหลานเธอ

 

Sponsored Ad

 

        พระตำหนักใหญ่เป็นพระตำหนักที่ประทับ ก่ออิฐฉาบปูน มีความสูง 2 ชั้นส่วนยอดจั่วประดับด้วยไม้จำหลัก ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของรูปทรงหลังคาที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 พระบัญชรเป็นบานกระจก ตอนบนไม่มีกันสาด พระทวารเป็นบานไม้ลูกฟัก ภายในมีการตกแต่งฝ้าเพดานเฉพาะส่วนที่เป็นห้องสำคัญ

 

Sponsored Ad

 

        ตำหนักไม้เป็นตำหนักที่ประทับชั่วคราว บางครั้งใช้เป็นที่รับแขกหรือพระประยูรญาติที่เสด็จมาประทับก่อสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง รอบ ๆ ตำหนักมีเฉลียงเดินได้เกือบรอบ ฝาผนังเป็นแบบฝาไม้บังใบตีทางนอน มีคร่าวไม้อยู่ด้านนอก

        ตำหนักน้ำอยู่ริมคลองสามเสน เป็นตำหนักโปร่ง ๆ มีห้อง 2 ข้าง ตรงกลางเป็นทางลงสู่คลองสามเสน พระทวารและพระบัญชรเป็นบานเกล็ดไม้ ที่ชายคาตำหนักมีไม้จำหลักลายอยู่โดยรอบ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก วิกิพีเดีย

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ