ย้อนประวัติ "มะนาว ม่ายขันหมาก" สาวราชบุรีที่ถูก "ภาคิน" เท จนเธอต้องขึ้นเวทีทั้งชุดเจ้าสาว ประกาศผ่านไมโครโฟนขออภัยแขกที่มาร่วมงานทั้งน้ำตา ก่อนผันตัวเองเป็น "นาว โซฮอท" เน็ตไอดอลขายยาลดความอ้วน ก่อนได้มารู้จักกับ "เดียร์ แม่มณี" เข่าวงการเงินออมจนถูกจับได้ว่าเป็นลูกโซ่ จับตาแม่ทีมหนีหาย ลูกทีมจะเป็นยังไงต่อ?

    ชีวิตเปลี่ยนไปหลังเธอเลือกที่จะก้าวเข้าสู่วงการเน็ตไอดอล ใช้ชื่อว่า "นาว โซ ฮอท" เป็นนางแบบให้กับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยี่ห้อหนึ่ง และเริ่มต้นขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความอ้วนในเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีลูกค้าสนใจสั่งซื้อจำนวนมาก ก่อนที่เธอจะขายผลิตภัณฑ์โลชั่นน้ำหอมเพิ่ม 

    กระทั่งได้มารู้จักกับ "แม่มณี" น.ส.วันทนีย์ หรือ เดียร์ ทิพย์ประเวช ที่ออกเครื่องสำอางชื่อ Manila และหลายธุรกิจ ต่อมาแม่มณีบอกว่าตนมีโครงการออมเงิน เปิดรับคนทั่วไปมาฝากเงินกับเธอ ได้ดอกเบี้ยถึง 93% เหตุที่ได้ดอกเบี้ยสูง เพราะเธอนำเงินเหล่านั้นไปลงทุนร้านทอง แบรนด์เครื่องสำอาง และสร้างภาพยนตร์

    แม่มณีชวนมะนาวมาร่วมออมเงินกับเธอ ต่อมามะนาวจึงตั้งตนเป็น “แม่ข่าย” โพสต์ชวนคนมาออมเงิน โดยหักเปอร์เซ็นต์ดอกเบี้ย 43% ไว้กินเอง เหลือให้ลูกค้า 50%  ซึ่งเธอจะได้ส่วนแบ่งจาก น.ส.เดียร์กินดอกเบี้ย 

    ช่วงแรก ๆ ลูกค้าได้เงินและดอกเบี้ยตามนั้นจริง ทำให้เกิดความเชื่อใจ ฝากเงินเพิ่มขึ้น บางคนเป็นหลักล้าน และเมื่อมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมากมาย ถึงเวลาจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยกลับเริ่มบ่ายเบี่ยง อ้างว่าเช็คไม่เข้า ปรับปรุงระบบใหม่ ผลัดวันประกันพรุ่ง โดยมีข้ออ้างถ่วงเวลาไปเรื่อย ๆ อาทิ บัญชีถูกอายัด มีคนตามฆ่าตน ฯลฯ

    คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายร่วมพันล้าน ผู้เสียหายจำนวนหนึ่งไปแจ้งความ ตำรวจจึงออกหมายจับแม่มณีและแฟนหนุ่มทันที

    ด้านมะนาวเองก็ไม่ได้จ่ายเงินให้ลูกค้าเช่นกัน ยอดความเสียหายเฉพาะกลุ่มที่เธอเป็นแม่ข่าย 71 ล้านบาท ทำให้มะนาวถูกกดดันทวงถามอย่างหนัก จนเธอไล่บล็อกผู้เสียหายจำนวนมาก

    ต่อมาเริ่มมีผู้คนตั้งข้อสังเกตว่า มะนาวใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย ซื้อรถยนต์ด้วยเงินสด ทำตัวติดหรู ซื้อทองให้แม่ใส่เต็มตัว และยังทำศัลยกรรมใบหน้าหลักล้านบาท จึงทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเธอเอาเงินของผู้เสียหายไปใช้จ่ายหรือไม่

    และในขณะที่ผู้เสียหายเดือดร้อนและตกที่นั่งลำบาก  บางคนนำเงินเก็บมาทั้งชีวิตมาออมกับมะนาว บางคนจำเป็นต้องหาเงินไปจ่ายค่าผ่าตัดให้แม่ แต่มะนาวยังคงใช้ชีวิตหรูหราอยู่ จึงเกิดคำถามว่า ในเมื่อมีเงินทำไมไม่ทยอยคืนให้ผู้เสียหายบ้าง

    จนล่าสุดมะนาวออกมาปฏิเสธว่า เงินของลูกค้าที่รับมาเธอส่งให้แม่มณีทั้งหมด ส่วนเงินที่ใช้จ่ายส่วนตัวเป็นเงินที่ได้จากธุรกิจอาหารเสริมของเธอเอง จึงถือเป็นคนละส่วนกัน มะนาวบอกว่าเธอเป็นเพียงคนกลาง รับเงินมาแล้วส่งต่อ ดังนั้นเธอจะจ่ายเงินคืนให้ผู้เสียหายได้ก็ต่อเมื่อแม่มณีจ่ายเงินเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้โกงและไม่ได้หนี

    มะนาวยังยืนยันว่าไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับแม่มณี เธอเองก็เป็นผู้เสียหายคนหนึ่งด้วยเช่นกัน แต่ที่ไม่ไปแจ้งความเพราะตนมองว่าเงินอยู่ที่ใครก็ต้องไปคุยกับคนนั้น ไม่ใช่ไปคุยกับตำรวจ

    มะนาวกล่าวทิ้งท้ายในรายการ “โหนกระแส” ว่า   “ทุกอย่างมีเวลาของมันอยู่ ทุกคนมองข้ามความโลภของตัวเอง ทุกคนอยากได้ดอก แต่เวลาเกิดปัญหา 2-3 วันก็รอไม่ได้”

    สุดท้ายเมื่อเกิดเรื่องราวออมเงินแม่มณี ถูกแฉว่าเป็นขบวนการแชร์ลูกโซ่ กลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปราบอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ก่อนหน้านี้ ทำให้หัวหน้าขบวนการอย่าง น.ส.เดียร์ หลบหนีเข้ากลีบเมฆไปแล้ว งานนี้ก็ต้องคอยดูว่า น.ส.มะนาวจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร

.

.

.

.

ข้อมูลและภาพจาก Manow Jutathip Nimnual