แม่หน่อย พูดถึง "สินสอดแพนเค้ก" ลั่นเลี้ยงลูกเหมือนนางฟ้า เอาไปก็ต้องอยู่สบาย (คลิป)

LIEKR:

แม่หน่อย พูดถึง "สินสอดแพนเค้ก" ลั่นเลี้ยงลูกเหมือนนางฟ้า เอาไปก็ต้องอยู่สบาย (คลิป)

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

    เรียกได้ว่าวินาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักนางเอกสาว แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ปังไปซะหมด และล่าสุด แพนเค้ก กับ คุณแม่หน่อย ได้ไปออกรายการหนึ่งพร้อมกันและคุณแม่ได้ถูกถามถึงค่าสินสอดของแพนเค้กขึ้นมาว่า ถึงร้อยล้านไหมประมาณเท่าไหร่ โดยแม่หน่อยก็ตอบมาประมาณว่า คุณดูซิค่ะว่าดิฉันเลี้ยงลูกมายังไง ค่าเทอมเท่าไหร่ ไปซัมเมอร์ที่ต่างประเทศเท่าไหร่ 

    ช่วงนี้กระแสเรื่องเงินสินสอดกำลังมาแรง หลายคนเลยจับตามองว่าคู่รักคู่ไหนจะเรียกสินสอดกันยังไง และคู่ไหนจะตกลงปลงใจจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์บ้าง ล่าสุด นางเอกสาว แพนเค้ก เขมนิจ พร้อมด้วยคุณแม่หน่อย ได้มาอัปเดตเรื่องการงานและความรักกับ สารวัตรหมี ในรายการ คุยแซ่บShow ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, เบนซ์ พรชิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร

 

Sponsored Ad

 

เรื่องงานเป็นยังไงบ้าง ? 

    แพนเค้ก : กำลังถ่ายซีรีส์ศรีอโยธยาอยู่ค่ะ

ตอนนั้นที่ตัดสินใจย้ายค่ายเพราะอะไร ? 

 

Sponsored Ad

 

    แพนเค้ก : คือทุก ๆ อย่างมันต้องมีการเปลี่ยนแปลง เรารู้สึกว่าเราก็เรียนรู้ตรงนั้นมาแบบเต็มที่ในระยะเวลาหนึ่งแล้ว จริง ๆ ณ ตอนนั้นเราคิดว่าเราควรจะเป็นฟรีแลนซ์ ลองได้ทำงานอื่น ๆ กับคนใหม่ ๆ ที่ใหม่ ๆ ก็คงจะลองแบบนั้นดู แล้วเป็นช่วงเวลาพอดีที่ทรูเค้ามาคุยกัน เลยได้มีโอกาสเจอบ้านหลังใหม่ที่มีมุมมองคล้ายกัน และมาทำงานร่วมกันค่ะ

พอมีคนทักว่า ออกมามันจะไม่ดัง ไม่เปรี้ยง ใจเราหล่นไหม ? 

 

Sponsored Ad

 

    แพนเค้ก : ก็มีตุ๊บเหมือนกัน เพราะเรารู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลง มันต้องโอเคสิ เพียงแต่ว่ามันอยู่บนความคาดหวังของคนเยอะเหมือนกัน พอย้ายมาแล้วทุกอย่างจะต้องเปรี้ยง งานจะต้องดัง ต้องถูกใจฉันจริง ๆ ซึ่งงานที่ทำกับทรู มันจะไม่ใช่งานที่หวือหวา แต่เป็นงานที่ต้องใช้เวลาอย่างฟิล์มซีรีส์ แต่ทางทรูจะมีหลายหน้ามาก ทั้งเรื่องของธุรกิจ เรื่องของการศึกษา คือเค้าทำหลายอย่างมาก เราก็ได้ไปร่วมเรียนรู้ประสบการณ์หลายอย่างมากค่ะ มันเป็นอะไรที่ใหม่มาก แต่ที่ผ่านมาเราก็ต้องต่อสู้กับเสียงของคนตลอดเวลา แต่แพนก็ต้องกลับมาถามตัวเองว่าใจเราว่ายังไง เพราะหลายครั้งที่ใจเราเฟลเหมือนกัน

 

Sponsored Ad

 

โดนดูถูกบ้างไหม ตอนที่เราย้ายไป ? 

    แพนเค้ก : มีอยู่แล้ว ต้องมีคนพูดอยู่แล้ว มันเป็นการต่อสู้อยู่ข้างใน เราก็พยายามบอกตัวเองว่าเรามาในที่ที่ดี และเราอยู่กับคนที่เค้าอยากให้เราทำงานด้วย ก็เลยรู้สึกว่า เราต้องเดินหน้าต่อ เราก็ต้องแข็งแรงที่จะทำงานต่อไป สิ่งที่คนเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เค้าคาดหวังก็ได้ แต่ว่ามันเป็นชิ้นงานที่มีคุณภาพ แล้วก็ต้องบอกว่า ของดีต้องใช้เวลานิดหนึ่ง

 

Sponsored Ad

 

มีคนถามมาอีกว่า ปีนี้จะหมดสัญญาจะอยู่ต่อหรือจะเป็นฟรีแลนซ์ ? 

    แพนเค้ก : ต้องบอกว่าที่นี่มีความสุขจริง ๆ ที่ได้ทำหลายอย่างมาก ก็เลยไม่ได้มองว่าจะเหลือเวลาเท่าไร เพราะยังสนุกกับงานที่ทำอยู่ สิ่งที่เค้าแพลนไว้ก็เยอะมาก ตั้งแต่ที่เข้ามาเค้าก็บอกไว้แล้วว่า เดือนนี้จะทำอะไร เพราะตั้งแต่ทำงานมา ไม่เคยมีใครบอกเราเลยว่าจะให้เราทำอะไร ไม่เคยมีใครแพลนไว้ให้เลย ก็เลยคิดว่าอย่างน้อยทุกอย่างมันต้องใช้เวลาเรียนรู้หมด มันจะมาปุ๊บปั๊บรับโชคเลยไม่ได้ทั้งหมด คิดว่า ณ ตอนนี้ก็ยังอยู่กับทรูค่ะ

 

Sponsored Ad

 

    พี่หมีแนะนำอะไรเราบ้าง ช่วงเวลาที่แย่ ๆ ?  

แพนเค้ก : เค้าก็ให้กำลังใจนะคะ คืออยู่กับเรามาในหลาย ๆ ช่วงเวลาที่เราเปลี่ยน แต่สุดท้ายเค้าก็บอกเรานะว่า สุดท้ายแล้วเราอยากจะทำอะไร ก็ต้องค่อย ๆ เรียนรู้ไป

เวลาเหนื่อยเค้าจะทำยังไง ? 

Sponsored Ad

    แพนเค้ก : จะพาไปกินข้าว พาไปทำกิจกรรมนู่นนี่นั่น เหมือนเอาใจมากกว่าให้กำลังใจค่ะ

กลัวอาถรรพ์เลข 7 ไหม ? 

    แพนเค้ก : ไม่ถึงกับกลัว แต่ก็ไม่อยากถึงกับคิดว่ามันไม่ใช่หรอก เหมือนเรารู้จักกันมาในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่มันเต็มที่มาก เพราะฉะนั้นการที่จะเกรงใจกันเหมือนเดิม มันก็จะลดน้อยลง ถามว่าดีมั้ย มันก็ดีเหมือนเดิม แต่มันก็ต้องปรับตัวกันตลอดเวลา

คบกันมาปีที่ 7 แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมแต่งงาน แม่ไม่ให้แต่งหรือเปล่า ? 

    แพนเค้ก : ไม่ ๆ ค่ะ เรายังอยู่ในระยะเวลาที่ชิล ๆ กันอยู่มั้งคะ แล้วพี่หมีเค้าก็ทำงานที่ตรงกับความถนัดด้วย เราก็บอกว่าให้ทำให้เต็มที่ไปเลย ไม่ต้องห่วง

แม่หวงลูกสาวไหม ? 

    แม่หน่อย : หวงไม่เท่าไร คือแม่ฟรีสไตล์อยู่แล้ว แต่แม่อยากให้เจอคนที่ดีและมีเมตตาต่อกัน

มีข่าวพาดหัวว่า แม่ไม่ยอมให้แต่งงาน ? 

    แม่หน่อย : คือแม่เคยขอโทษพี่หมีนะ ว่าพี่หมีแม่ขอโทษจริง ๆ ว่าถ้ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับเรื่องแต่งงาน แล้วทำให้ฝ่ายชายจะต้องแบบว่า คือเราให้เกียรติเค้าไง ในสังคมเราเป็นเรื่องปกติ ในสังคมของราชการเราจะต้องให้เกียรติเค้า

มีพาดหัวว่า จะแต่งงานต้องจบ ดร. ? 

    แพนเค้ก : อีกหลายปีเลยค่ะ กว่าจะจบ (หัวเราะ)

    แม่หน่อย : คือแม่ก็อยากให้ทั้งสอง ตัวพี่หมีเองก็เหมือนกับว่าหน้าที่การงานก็เหมือนลงตัว ไม่ต้องมากังวลอะไรทั้งสิ้น ส่วนแพนก็เป็นผู้ใหญ่เต็มที่ งานตรงนี้ก็โอเคแล้ว พร้อมก้าวไปสู่บทบาทใหม่แล้ว ซึ่งบังเอิญตัวพี่หมีเองก็เป็นคนที่รักและมุ่งมั่นกับงานด้วยกันทั้งคู่ เพราะฉะนั้นเค้าก็เลยไม่มีที่จะคิดว่าเมื่อไรจะมาขอสักที หรือว่ารอไม่ไหวแล้วนะ แม่ก็เลยแฮปปี้ไง

คนข้างนอกมองว่า แม่ไม่ปลื้ม ?

    แม่หน่อย : จริง ๆ แล้วพี่หมีเป็นคนที่แม่กลัวมาก เพราะเค้าเป็นคนที่มีคุณสมบัติที่ดีพร้อม จนเรากลัวว่าจะเสียลูกไปแน่นอน เวลาพวกผู้ใหญ่ที่พูดถึงแม่ เค้าจะบอกว่า ก็ปล่อยเค้าได้แล้ว ให้เค้าได้มีชีวิตเค้าสองคนได้แล้ว เพราะเค้าชอบบอกว่าเราตัวติดกันสองคน แม่ก็พูดไม่ออกเหมือนกัน แม่ก็เลยกลายเป็นว่า มารอยู่ตรงกลาง

แม่จะปล่อยไหม ? 

    แม่หน่อย : ตอนนี้แม่ขอบอกว่า แม่ไม่ไปไหนกับแพนเลย ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน

พี่หมีดูแลแม่ดีไหม ? 

    แม่หน่อย : ดีมาก ข้อเสียเค้าไม่ค่อยจะมี แม่ชั่งน้ำหนักแล้วว่าข้อดีเค้ามีมากกว่า แม่กลัวเค้าเดินมาคุกเข่าขอนะ กลัวจะมีวันนั้น เคยพูดกับแพนเหมือนกันว่าใครก็ตามที่มาขอแพน แม่ก็ไม่รู้จะไปทางไหนเหมือนกันนะ แต่วันนี้ยังมั่นใจว่า ทุกอย่างยังคงมีอะไรที่ทำให้เรายังต้องรอ

ถ้าเกิดวันที่พี่หมีมาขอล่ะ ? 

    แพนเค้ก : แพนยังไม่ได้นึกค่ะ ขอข้ามชอตนั้นไปก่อน ชิล ๆ แบบนี้โอเค คือไม่ได้จะไปไหนอยู่แล้วไง ก็ยังอยู่ตรงนี้ บอกเค้าตลอด

สินสอดประมาณเท่าไหร่ ถ้าสู่ขอจริง ๆ ? 

    แม่หน่อย : แม่พูดได้ว่าตอนที่แม่แต่งงาน ครอบครัวแม่เป็นข้าราชการทั้งคู่เหมือนกัน ณ จุดนี้ ครอบครัวพี่หมีก็เป็นข้าราชการเหมือนกัน เวลาที่เราจะมีเรื่องตกร่องปล่องชิ้น เราจะพูดกันว่า ให้ดูตามความเหมาะสม คือเราคบกันมาขนาดนี้แล้ว ฝ่ายชายก็จะรู้ดีว่าเราเลี้ยงดูลูกยังไง ก็จะได้ดูแลกันต่อไปได้สะดวก

เรียกสินสอดประมาณเท่าไหร่ ? 

    แม่หน่อย : แม่ก็ขอบอกตรง ๆ เลยนะว่า แม่เลี้ยงลูกมาเหมือนนางฟ้า ประคบประหงมอย่างดีที่สุด ก็หมายมั่นว่า ถ้าจะลงตัวลงเอยกับใคร เราก็ต้องหวังว่า ลูกจะต้องอยู่สุขสบายไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นสินสอดที่แม่จะต้องบอกคือมันจะต้องมีปัจจัยหลายอย่าง แล้วพ่อแม่ก็ไม่ใช่ว่าจะพูดพล่อย ๆ ออกไปได้ แต่ด้วยเกียรติของครอบครัวเรา แม่คงขอวัดใจกันดีกว่า วัดใจในที่นี้คือ ในเมื่อคุณรู้ว่าเรารักลูกเรา คุณจะดูแลเค้าเช่นไร และที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณคิดว่า คุณจะมีคนอื่นในชีวิตอีก ก็อย่าเอาลูกเราไปเลย เพราะมันสำคัญยิ่งกว่าเม็ดเงินค่ะ

มากกว่าหลักร้อยล้านไหม ? 

    แม่หน่อย : คุณดูสิคะว่าดิฉันเลี้ยงลูกมายังไง ค่าเทอมเท่าไหร่ ไปซัมเมอร์ที่ต่างประเทศเท่าไหร่


ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก คุยแซ่บShow

บทความที่คุณอาจสนใจ