ชายผู้ฉลาดที่สุดในโลก แต่กลับไม่มีความสุขในชีวิตเลย เพราะจุดเด่นที่เขามี

LIEKR:

สามารถอ่านหนังสือพิมพ์ได้ตอนอายุเพียง 18 เดือน

    หลายคนมักบอกว่าการเป็นคนที่ฉลาดนั้นเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากมี อยากได้  แต่เรื่องราวในวันนี้ของผู้ชายคนหนึ่ง เขากลับไม่มีความสุขกับความฉลาดที่เขามี เป็นเพราะอะไรไปดูกันเลย

 

    สื่อนอกเผย วิลเลียม เจมส์ ซิดิส (William James Sidis) ชายผู้ที่มีไอคิวสูงที่สุดในโลก โดยเขามีไอคิวอยู่ระหว่าง 250-300 เลยทีเดียว เขาเกิดในปีค.ศ.1898 (พ.ศ.2441) ที่สหรัฐอเมริกา โดยมีพ่อเป็นนักจิตวิทยา และมีแม่เป็นหมอ ซึ่งทั้งพ่อและแม่ก็ภูมิใจในความฉลาดของเขาอย่างมาก และได้ทุ่มเงินซื้อหนังสือและแผนที่มาให้เขาอ่าน เพิ่มความรู้

 

Sponsored Ad

 

 

    หลายคนมักบอกว่า “ความอัจฉริยะ” ของเขานั้นฉายแววเกินอายุของเขาจริงๆ  ขณะนั้นที่เขาอายุได้ 18 เดือน เขาก็สามารถอ่านหนังสือพิมพ์ the New York Times ได้แล้ว และเมื่อเขามีอายุได้ 6 ขวบ เขาก็สามารถพูดได้หลายภาษา ทั้ง ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย ฮีบรู ตุรกี และอาร์เมเนีย

 

 

Sponsored Ad

 

    ซิดิส สอบติดมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดขณะมีอายุได้เพียง 9 ขวบเท่านั้น แต่มหาวิทยาลัยยังไม่อนุญาตให้เขาเข้าเรียนจนกว่าเขาจะมีอายุ 11 ขวบ

    เมื่อเข้าไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เขาก็เก่งถึงขนาดบรรยายเนื้อหาของวิชายากๆ ให้นักศึกษาคนอื่นๆ ฟังได้ ซึ่งต่อมาเขาก็เรียนจบจากที่นี่ในปีค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น

 

Sponsored Ad

 

 

    เนื่องจากผลสอบวัดระดับไอคิวของเขานั้นได้สูญหายไปแล้ว ทำให้นักประวัติศาสตร์ต้องประเมินไอคิวของเขาด้วยตนเอง โดยที่ผ่านมา จากการประเมินระดับไอคิวของบุคคลดังในอดีต Albert Einstein มีไอคิวอยู่ที่ 160 Leonardo da Vinci 180 Isaac Newton อยู่ที่ 190

     แต่สำหรับ ซิดิส นั้น ระดับสมองของเขาอยู่ที่ 250-300 เลยทีเดียวแต่ถึงจะฉลาดมาก แต่ ซิดิส กลับมีปัญหาในการเข้าสังคม เขาอึดอัดที่จะต้องทนอยู่กับคนที่ไม่เข้าใจเขา 

 

Sponsored Ad

 

     ภายหลังจากเรียนจบจากฮาร์วาร์ดด้วยวัย 16 ปี เขาก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมอยากจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ หนทางเดียวที่จะมีชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ นั่นก็คือการใช้ชีวิตอย่างสันโดษ ผมนั้นเกลียดฝูงชนมาโดยตลอด”

    ในช่วงแรก เขาได้เป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ในสถาบันแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะลาออกไปเนื่องจากความกดดันที่ว่านักเรียนส่วนใหญ่ล้วนแต่อายุมากกว่าเขา ด้วยความที่เขาต้องการจะอยู่อย่างสันโดษ เขาจึงเลือกทำงานที่ไม่พิเศษอะไร เช่น เป็นพนักงานบัญชีธรรมดาๆ แต่เมื่อมีคนจำเขาได้ และเริ่มสนใจเขามากขึ้น จนทำให้เขารู้สึกอึดอัดอีกครั้ง สุดท้ายก็เลยตัดสินใจขอลาออกจากงานนั้นไป

 

Sponsored Ad

 

    ค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) ได้มีนิตยสารฉบับหนึ่งเขียนข่าวถึงเขา เขาจึงทำการฟ้องร้องนิตยสาร ซึ่งศาลก็ได้ยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า “เมื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ เขาก็จะต้องเป็นบุคคลสาธารณะไปตลอด” เพราะสาเหตุนี้เองก็เลยทำให้เขารู้สึกอึดอัดในชีวิตมาโดยตลอด และพยายามปลีกตัวออกมาอยู่อย่างสันโดษ แต่ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถหลบหลีกไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง มีคนจำเขาได้มากขึ้นเรื่อย ส่งผลให้เขารู้สึกไม่มีความเป็นส่วนตัว

    ในปีค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) เขาก็จากโลกนี้ไปก่อนวัยกอันควร ด้วยภาวะเลือดออกในสมองขณะเขามีอายุเพียง 46 ปีเท่านั้น 

    น่าสงสารคนที่มีอนาคตไกลอย่างเขา กลับต้องมาเครียดกับจุดเด่นของตนเองซะงั้น!

ที่มา : blockdit ประวัติศาสตร์ไทยและเทศ&ภาพเก่าในอดีต

บทความที่คุณอาจสนใจ