คู่รักออกตามหาลูกชายแท้ๆวัย 19 ปี แต่พอเจอตัวกลับเปลี่ยนใจ ไม่ยอมรับซะงั้น

LIEKR:

เหมือนถูกทิ้งอีกครั้ง เห็นใจหนุ่มคนนี้จัง

    คุณคิดว่าระหว่าง “พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรา” กับ “พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามา?” ใครมีพระคุณมากกว่ากัน สื่อต่างประเทศเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ในนครเซียงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อ 19 ปี ก่อนนายหลิว ยี่กง และนางซือ หงเหลียน ได้ทอดทิ้งลูกชายแท้ๆ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ พวกเขากลับพยายามที่จะตามหาลูกชายคนนี้ ทว่าเมื่อเจอลูกชายแล้วกลับปฏิเสธที่จะยอมรับเขา


(นายหลิว ยี่กง กับภรรยา นางซือ หงเหลี)

 

Sponsored Ad

 

    ในปี 2001 ตอนนั้นนายหลิว ยี่กงกับภรรยา นางซือ หงเหลียนได้กำเนิดบุตรชาย ฮัน ชวีนซิง ณ ลานกว้างย่านดังแห่งหนึ่ง ขณะกำลังทำงาน หลังจากที่พาไปโรงพยาบาลก็ตรวจพบว่า ทารกเป็นไข้หวัดใหญ่ และมีโรคปอดบวมอีกด้วย หลังจากตรวจร่างกายทารก หมอก็วินิจฉัยว่า เด็กทารกคนนี้อาจไม่สามารถมีชีวิตรอดได้

 

    เมื่อทั้งคู่ทราบดังนั้นแล้วก็ตัดสินใจทอดทิ้งลูกชายแท้ๆ ของตนเอง หลังจากเหตุการณ์นี้ ทั้งสองก็ได้แต่งงานกันและมีลูกชายหญิงด้วยกัน อย่างละ 1 คน ชีวิตสุขสบาย แต่ทั้งสองก็ลืมลูกชายคนแรกของพวกเขาไม่ได้  ดังนั้นในช่วงวันที่ 18 ตุลาคม ปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา พวกเขาก็ตัดสินใจออกตามหาลูกชายคนแรกของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการปิดประกาศ หรือออกสื่อโทรทัศน์มากมาย 

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้พวกเขายังเดินทางไปยังกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ เพื่อนำผลตรวจเลือด DNA ของลูกชายไปตรวจหาเพื่อเปรียบเทียบอีกด้วย ตอนที่ออกสื่อให้สัมภาษณ์นั้น นางซือ หงเลียน พูดอย่างจริงใจว่า “ลูกรักของแม่ ตอนนี้ก็อายุเกือบจะ 20 ปีแล้ว น้องชายและน้องสาวคิดถึงลูกมากนะ และแม่ก็คิดถึงลูกมากนะเช่นกัน ตลอด 20 ปีที่ผ่านมานี้พวกเราพยายามตามหาลูกเสมอ แต่ก็ไม่มีเบาะแส”

 

Sponsored Ad

 

    ที่จริงหลังจากที่พ่อแม่คู่นี้ทอดทิ้งลูกชายฮัน ชวีนซิงไป ก็ได้ชาวสวน จากเมืองจี่เยียน มณฑลเหอหนาน นามว่า ฮัน ผิงจวินอุปการะ รับเลี้ยงตลอดมา นายฮันก็รีบติดต่อไปยังพ่อแม่ที่แท้จริง ในตอนนี้เอง ลูกชายของเขาฮัน ชวีนซิงจึงรู้ความจริงว่า ที่แท้เขาเป็นลูกที่ถูกรับเลี้ยงเท่านั้น เพราะในตอนนั้นเพื่อรักษาความสามัคคีและสงบสุขภายในครอบครัว นายฮัน จึงไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้ว่า ลูกชายคนนี้เขาอุ้มมาเลี้ยง ซึ่งไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆ แม้กระทั่งลูกสาวของนายฮันก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ จนกระทั่งเรื่องแดงขึ้น 

 

Sponsored Ad

 

    นายฮันตั้งใจเลี้ยงดูลูกชายคนนี้ดั่งลูกแท้ๆ เพื่อจะสามารถสื่อสารกับลูกชายที่พิการหูหนวกและเป็นใบ้ เขาลงทุนไปเรียนภาษามือกับลูกชาย ต้องผ่านความยากลำบากมากมายมาด้วยกัน นายฮันรักลูกชายมาก ถึงขนาดไม่กล้าตี แต่ใช้ความรักในการอบรมเลี้ยงดู แถมยังซื้อบ้าน 3 ห้องนอน 2 ห้องรับแขก ซึ่งถือเป็นบ้านที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ตั้งอยู่ในเมืองอีกด้วย ตอนแรกนายฮันคิดว่า การที่ลูกชายได้พบหน้าพ่อแม่แท้ๆ นั้นก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ใครจะรู้ว่าสุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าใจและผิดหวังอย่างมาก

 

Sponsored Ad

 

(ลูกชาย - นายฮัน)

     นั่นเป็นเพราะว่า ตำรวจได้นำหัวบุหรี่ที่ฮัน ชวีนซิงสูบไปตรวจ DNA พบว่าตรงกับที่นายหลิว ยี่กง และนางซือ หงเหลียน ให้มา แต่ทว่าพวกเขากลับโมโห และพูดว่า “ก็แค่บุหรี่อันเดียวจะสามารถพิสูจน์อะไรได้ว่านี่คือลูกชายของเราจริง อย่าเอาลูกใครก็ไม่รู้มาแทนที่ เพื่อปลอบใจเราหน่อยเลย”

    เมื่อนายฮันได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโมโหมาก ตนเองเลี้ยงลูกชายคนนี้มาอย่างดี ไม่ให้ใครรังแกตลอด 19 ปี รู้ไหมว่าเด็กคนนี้มีความหวังมากแค่ไหนที่ได้รู้ว่า พ่อแม่แท้ๆ ของเขามาตามหาเขาแล้ว วันๆ ได้แต่พูดว่าจะไปอยู่เซี่ยงไฮ้กับพ่อแม่แล้ว ไปมีชีวิตใหม่ แต่สุดท้ายเรื่องกลับจบลงแบบนี้

 

Sponsored Ad

 

    สื่อแต่ละแห่งต่างพากันสงสัยและพากันคาดเดาว่า อะไรทำให้พ่อแม่คู่นี้ตัดสินใจไม่เชื่อว่านี่คือลูกชายที่พลัดพรากจากกันมากเมื่อ 19 ปีก่อน หลายคนบอกว่า อาจเป็นเพราะพวกเขามาทราบภายหลังว่า ลูกชายพิการ ทั้งหูหนวกและเป็นใบ้ก็เป็นได้ 

(พ่อแท้ๆ)

Sponsored Ad

    หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ นายฮันตัดสินใจที่จะไม่ให้ลูกชายกลับไปหาพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาอีก และให้ตัดขาดการติดต่อ เพราะพ่อแม่ของเขาไม่ยอมรับลูกชายคนนี้ หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมรับ แถมยังพูดทำร้ายน้ำใจลูกชายของตนเองอีกด้วย  

    นายหลิว ยี่กง คุณพ่อแท้ๆ ออกมาบอกว่า จะให้ลูกชายไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ 1 อาทิตย์ แต่นายฮันกลับไม่ยอม และกลัวว่า ถ้าไปแล้วจะถูกพูดทำร้ายจิตใจ จึงไม่ยินยอมให้เขาไปเด็ดขาด และทั้งสองฝ่ายยังได้ลงนามเซ็นสัญญาตัดขาดความเป็นพ่อแม่ลูกกับบ้านนั้น ให้ใช้ชีวิตของใครของมันตามเดิม อย่าได้มีอะไรเกี่ยวข้องอะไรต่อกันและกันอีกต่อไป

    หลังจากข่าวเรื่องราวนี้จบลง ก็ทำให้คนทั้งประเทศต่างพากันรู้สึกสงสารลูกชายของเขาเป็นอย่างมาก ที่พ่อแม่แท้ๆ มาตามหา แต่สุดท้ายกลับไม่ยอมรับในตัวเขา เหมือนถูกทอดทิ้งรอบ 2  ยังจำคำถามตอนต้นเรื่องได้ไหมใครมีพระคุณมากกว่ากัน จากนี้เรื่องนี้คุณคิดว่าใคร?.... เพราะอะไร??

ที่มา : teepr | เรียบเรียงโดย Liekr

บทความที่คุณอาจสนใจ