เผย "เจ็บหน้าอก" ไม่ใช่สัญญาณเดียวที่ทำให้รู้ว่าเป็นโรคหัวใจ อาจมีเจ็บแบบนี้ด้วย?

LIEKR:

ผู้หญิงทั้งหลายควรตรวจสุขภาพด้วยนะ

    เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบตัน จะทำให้เลือดและออกซิเจนส่งผ่านเข้าไปยังหัวใจได้ยาก หากหัวใจขาดออกซิเจนอาจเกิดอันตรายได้ ฉะนั้นแอดมินจึงขอให้ทุกคนใส่ใจอาการเหล่านี้ที่แอดกำลังจะพูดถึงด้วย

    อาการหัวใจวายที่พบบ่อยที่สุดคือ “อาการเจ็บหน้าอก” ความเจ็บปวดชนิดนี้เป็นความเจ็บปวดชนิดหนึ่งที่ถูกบีบอัดหรือถูกกดทับด้วยของหนัก ๆ มันมักจะเกิดขึ้นเมื่อต้องออกแรงมาก ๆ หรือหลังอาหารที่กินอิ่ม

 

Sponsored Ad

 

    หากว่าตอนแรกดีดี แต่จู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึก "เจ็บหน้าอกรุนแรง" ภายในสองสามวินาที คุณจำเป็นต้องกังวลว่า กำลังเสี่ยงต่อการเป็น การฉีกเซาะของเอออร์ตา ( Aortic dissection) หรือไม่? 

 

Sponsored Ad

 

    อาการปวดอาจลุกลามไปจนถึงบริเวณคอ,คาง,แขน,ไหล่,แผ่นหลัง เป็นต้น ผู้ป่วยอาจมีอาการหายใจติดขัด เริ่มหายใจอ่อนแรง  บางคนอาจรู้สึกเวียนหัว อยากอาเจียน เหงื่อแตกร่วมด้วย  หากคุณรีบวางมือจากงาน และพักผ่อนทำร่างกายให้อบอุ่น อาจช่วยให้อาการเหล่านี้หายไปได้

    อย่างไรก็ตามแพทย์ยังเตือน อาการของโรคหัวใจวายในผู้ป่วยเพศหญิงจะค่อนข้างไม่ปกติ ดังนั้นให้ระวังสัญญาณเตือนดังต่อไปนี้

 

Sponsored Ad

 

    หากคำเตือนต่อไปนี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ควรจดบันทึกเวลาและอาการที่เกิด จากนั้นไปขอความช่วยเหลือจากแพทย์เพื่อประเมินความเป็นไปได้ที่จะเกิดโรคหัวใจ

    สัญญาณแรก รู้สึกช่วงนี้อ่อนล้าผิดปกติ

 

Sponsored Ad

 

    ออกกำลังกายตามปกติ ก็รู้สึกเหนื่อยง่าย

    แม้ว่าจะไม่มีกิจกรรมใด ๆ แต่ก็ยังรู้สึกหมดแรง นอนพักผ่อนก็ไม่ดีขึ้น ที่สำคัญนอนไม่ค่อยหลับ

    สัญญาณที่สอง เหงื่อแตก หายใจลำบาก
    อาจเกิดขึ้นเมื่อฉันไม่ได้วิ่งหรือทำกิจกรรมที่หักโหม ก็รู้สึกหายใจไม่ออก มีเหงื่อท่วมตัว หากนอนราบอาการยิ่งร้ายแรงขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    สัญญาณที่สาม ฉันรู้สึกปวดแขน ปวดหลัง ปวดคาง ปวดบริเวณต้นคอ

    อาการปวดแบบนี้ไม่มีเหมือนกับการปวดกล้ามเนื้อ แต่ปวดเป็นจุดๆ บางครั้งไม่ได้ออกแรงมากก็ทำให้รู้สึกจู่ ๆ ก็ปวดขึ้นมา อาจเป็นเพราะแขนทั้งสองข้างเจ็บอยู่  (โดยปกติเพศชายมักปวดบริเวณแขนซ้าย) อาการนี้อาจทำให้คุณต้องตื่นกลางดึก

    หากคุณมีอาการข้างต้นดังกล่าว อาจไม่รุนแรง แต่แนะนำให้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลดีกว่า  อย่าปล่อยให้อาการหนักกว่านี้แล้วค่อยไปหาหมอ

ที่มา : ettoday

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ