มหาเศรษฐีอันดับ1 ของพม่า ทุ่มเงินหลักสิบล้านจ้าง "คนไทย" รังสรรค์งานวิวาห์หรูกลางสวนป่า

LIEKR:

ฝีมือคนไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก !!

    อลังการงานสร้าง งานวิวาห์ของ Thet Hnin Hlaing และ Ptz Phyo Tay Za (เพ เพียว เทซา) ทายาทมหาเศรษฐี อันดับ 1 ของพม่า สุดยอดงานดีไซน์จากฝีมือของคนไทย โจ้-ชยวัสส์ ปัญจภักดี แห่ง Rainforest The Wedding 

    สมกับเป็นงานวิวาห์ของลูกชาย ทายาทมหาเศรษฐี อันดับ 1 ของพม่าเลยจริงๆ เพราะงานนี้บ่าวสาวได้เนรมิต National Kandawgyi Botanical Gardens ในพินอูลวิน (เมเมียว) ให้กลายเป็นงานแต่งสุดอลัง ที่บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความโรแมนติก อบอวลไปด้วยดอกไม้สีขาวนานาพันธ์ุ 

 

Sponsored Ad

 

    โดยการตกแต่งภายในงานทั้งหมดนี้มาจากผลงานการดีไซน์และเดคคอเรชั่นของ คุณโจ้-ชยวัสส์ ปัญจภักดี เวดดิ้งแพลนเนอร์ชื่อดังของไทยอย่าง Rainforest The Wedding  ซึ่งงานนี้เขาได้บินไปที่พม่าเพื่อลงมือและควบคุมเองทุกขั้นตอน

    ทั้งนี้คุณโจ้ยังได้ให้สัมภาษณ์กับทีมงานของแพรวดอทคอม ถึงดีเทลการตกแต่งทุกขั้นตอน ตั้งแต่ธีมงาน การเลือกใช้ดอกไม้ และขั้นตอนการทำงานที่ทางทีม Rainforest The Wedding ได้เนรมิตให้พื้นที่โล่งในสวนพฤกษศาสตร์ให้สวยราวอยู่กับในเทพนิยาย ซึ่งคุณโจ้ได้เล่าถึงดีไซน์ในงานนี้ให้แพรวฟังว่า

 

Sponsored Ad

 

    สุดอลัง งานวิวาห์ ทายาทมหาเศรษฐี อันดับ 1 ของพม่า จากฝีมือดีไซน์ของคนไทย

    “ความที่สถานที่จัดงานมันเป็นสวนป่า สวนดอกไม้ ซึ่งทางครอบครัวของเจ้าบ่าวเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้ ที่นี่จะคล้ายๆ กับสวนกฤษดาดอยของเมืองไทยในสมัยก่อน เป็นสวนดอกไม้ที่เก็บเงินผู้มาเที่ยวชม มาพักผ่อน ถ่ายรูปเล่น มีสวนสัตว์อยู่ข้างใน มีสระน้ำอะไรต่างๆ และที่นี่ยังเป็นแลนด์มาร์คของมัณฑะเลย์ด้วยครับ ซึ่งถ้าพูดถึงสวนดอกไม้ในประเทศพม่า ที่นี่ก็จะเป็นสวนดอกไม้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศ

 

Sponsored Ad

 

    ทุกปีก็จะมีจัดเทศกาลดอกไม้ นำดอกไม้จากเมืองหนาวมาจัดโชว์ทุกปี โดยงานนี้เจ้าบ่าวเขาก็เลือกโลเคชั่นเองครับ จริงๆ สถานที่ทั้งหมดเป็นการเซ็ตขึ้นมาใหม่หมด จากพื้นที่โล่งๆ แม้แต่ไฟฟ้าที่จะใช้ก็ไม่มี ต้องใช้เครื่องปั่นไฟเข้าไปใช้ปั่นในการทำงานทั้งหมด

    แต่ที่นี้อากาศมันดีเกือบทั้งปี ไม่ร้อน อากาศเย็นสบาย ช่วงจัดงานคือเป็นช่วงที่หนาวมากๆ ช่วงหนึ่งของเมืองนี้เลย อากาศตอนกลางคืนอยู่ระหว่าง 8 องศา กลางวันก็ประมาณ 17-18 องศา มันก็เลยจัดงานเอ้าท์ดอร์ได้ดี”

.

 

Sponsored Ad

 

    “ช่วงเช้าก็จะมีหมอก มีเมฆสวยงาม ตอนกลางคืนอากาศก็จะเย็นสบาย เย็นถึงขั้นหนาวจะต้องมีเครื่องทำความร้อนตั้งอยู่ในเต็นท์ แต่เต็นท์ก็จะเป็น Open-air มีเครื่องทำความร้อน เพื่อลดความหนาวให้บริเวณที่แขกนั่งรับประทานอาหาร”

 

Sponsored Ad

 

    “ส่วนคอนเซ็ปต์งานจริงๆ แล้ว ถ้าตามคอนเซ็ปต์ มันไม่ใช่ชื่อของธีมงานนะครับ ผมพยายามเน้นไปที่ความยิ่งใหญ่ ความแกรนด์ที่อยู่ในความเรียบง่าย เพราะฉะนั้นเราก็พยายามที่จะเอาสิ่งต่างๆ ที่มันมีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ ซึ่งงานนี้ผมใช้ดอกไม้ที่มาจากต่างประเทศน้อยมาก คือมีบ้างแค่ ช่อบูเก้ เซ็นเตอร์พีช อะไรที่เป็นเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าดูภาพรวมของงานที่เห็นอยู่จะเป็นดอกไม้ท้องถิ่นประมาณ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์

    งานนี้ผมใช้ดอกไม้ประมาณ 10 กว่าตัน เป็นดอกไม้ที่เขาปลูกไว้รอบๆ  คือเมืองนี้เป็นเมืองเกษตรกรรมเหมือนเชียงใหม่ อย่างที่แม่ริมก็ปลูกดอกไม้ส่งมาขายที่กรุงเทพ ที่นี่ก็เหมือนกัน ที่นี่ก็จะเป็นแหล่งใหญ่ของการปลูกแอสเตอร์ หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่าดอกมัม ก็คือดอกไม้ตระกูลดอกเบญจมาศ”

 

Sponsored Ad

 

    “ส่วนอีกชนิดคือ คริสแซนติมั่ม หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ดอกเก๊กฮวย ซึ่งคนพม่าเนี่ยจะใช้ดอกแอสเตอร์หรือดอกมัมไว้ถวายพระ เพราะว่าคนพม่ายังนับถือศาสนาพุทธเยอะมาก ยังมีการไปวัดไปวา วัยรุ่นก็พากันไปเข้าวัด แล้วเขาก็จะมีดอกไม้ไปไหว้พระกัน

    ดอกมัมถือว่าเป็นดอกไม้ยอดนิยมระดับต้นๆ ของประเทศพม่าเลย คนพม่าแทบจะไม่เอาดอกไม้ชนิดนี้มาจัดงานแต่งงานเพราะว่ามันเป็นดอกไม้ประจำถิ่นที่คนเห็นกันจนชิน ในขณะที่ผมไป ผมก็อยากจัดดอกไม้ที่มันมีความแกรนด์ มีความเรียบง่าย ก็เลยเอาดอกแอสเตอร์มาจัดเป็นทุ่งดอกไม้แบบที่เห็นในงาน”

Sponsored Ad

.

    “ในส่วนของเดคคอเรชั่นก็จะเป็นดอกไม้ท้องถิ่น แล้วด้วยสถานที่จัดงานเป็นป่าสนเจ้าสาวก็อยากได้ลูกสนมาประดับในส่วนของการตกแต่งโต๊ะอาหาร แม้แต่ช่อบูเก้เธอก็ยังขอให้มีพวกลูกสนอะไรแบบนี้อยู่ด้วย ส่วนดอกไม้บางชนิดผมก็เดินไปตัดเอาในสวนเขาเลย เพื่อเอามาใช้ในงาน เพราะว่าที่นี่นอกจากจะเป็นสวนดอกไม้แล้ว เขายังมีโซนที่เอาไว้เพาะพันธุ์ดอกไม้ที่ปลูกเอาไว้หมุนเวียนเปลี่ยนโชว์ทั้งปี เพราะฉะนั้นบางอย่างก็จะหยิบในสวนมาใช้”

    ดอกไม้จากไทยคือเราขนจากไทยไปเลยใช่ไหมคะ

    “ส่วนใหญ่เขาออเดอร์ให้ แต่เราใช้น้อยมาก ก็จะมีแค่กล้วยไม้สีขาวที่เป็นสกุลหวายสั่งมาจากไทย แต่เราใช้อยู่ไม่ถึง 100 กำ เพราะว่างานนี้เราอยากจะเน้นของพม่า ผมเห็นเพราะว่าตรงนั้นคนเกษตรกรปลูกดอกไม้เขาเยอะมาก ถ้าใช้ไม่พอเราสามารถสั่งเขาตัดแล้วมาส่งได้เลย คือมันใช้ปริมาณเยอะมาก

    เพราะฉะนั้นควรมีดอกไม้ท้องถิ่นไว้น่าจะปลอดภัยที่สุด เพราะว่าจากสถานที่จัดงานไปที่ตัวเมืองมัณฑะเลย์ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งที่นั่นก็ไม่ได้มีดอกไม้ให้เลือกมากมาย อย่างดอกไม้นอกถ้าไม่พรีออเดอร์เอาไว้เนี่ย จะไม่สามารถหาซื้อได้เลย ส่วนใหญ่ดอกไม้จะต้องเป็นพรีออเดอร์ อย่างที่บอกว่าในสวนเขาปลูกดอกไม้เมืองหนาว เช่น ดอกกล้วยไม้ตะกูลซิมบีเดียมหรือดอกไม้แพงๆ บางชนิดก็จะปลูกอยู่ในสวนเช่นกัน เราก็สามารถไปตัดมาใช้ได้เลย”

    “การที่เราใช้ดอกไม้จากท้องถิ่น ผมมองว่าเราก็ช่วยอุดหนุนเกษตรกร ผมชอบเอาของท้องถิ่นมาทำงานดีไซน์ เพราะผมรู้สึกว่ามันชาเลนจ์ พอทำออกมาแล้วมันมีอิมแพค เหมือนเราเคยเอาดอกคัตเตอร์มาทำภูเขา สมัยก่อน ก่อนที่ผมจะหยิบดอกคัตเตอร์มาทำ มันเป็นดอกไม้ที่ขายแทบไม่ได้ราคา ส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์ได้แค่การไหว้พระ กลายเป็นว่าประเทศเพื่อนบ้านที่มาตามงานของผมเขามาสั่งคัตเตอร์ทีละเป็นตันๆ แม้แต่ในประเทศไทยเองสั่งเป็นทีละ 2-3 ตัน เพื่อเอาไปจัดงาน ผมรู้สึกว่ามันโอเคสำหรับผม ที่ทำให้คนที่ปลูกดอกไม้มีกำไรเพิ่มขึ้นจากงานดีไซน์ของเรา เพราะฉะนั้นดอกไม้มันปลูกใหม่ได้ตลอด แต่เรื่องไม่มีรายได้มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา ถ้างานมันช่วยสร้างอาชีพผมถือว่ามันเป็นเรื่องที่ดี”

การเตรียมงานใช้ระยะเวลาเท่าไหร่

    “ทางบ่าวสาวติดต่อมานานประมาณหนึ่งครับ แต่เอาเข้าจริงๆ เรามีเวลาค่อนข้างจำกัดแค่ประมาณ 2 อาทิตย์ ในการสรุปทุกอย่าง ทำงานฉุกละหุกเหมือนกัน แต่ทีมโปรดักชั่นก็เป็นทีมจากพม่า โชคดีที่สถานที่จัดงานเป็นของเจ้าบ่าวเอง เรามีเวลาไปทำงานประมาณ 1 อาทิตย์ในการเซ็ตติ้งทุกอย่างรวมถึงดอกไม้ด้วย ซึ่งในส่วนของดอกไม้เราใช้เวลาจัดอยู่ประมาณ 4 วัน เพราะว่าเราทีมงานไปค่อนข้างจำกัด

    ซึ่งเรามีทีมไทยและทีมงานพม่า แต่ทีมพม่าส่วนใหญ่จะเป็นทีมโครงสร้าง แล้วก็จะเป็นกลุ่มแมนพาวเวอร์ที่จะมาช่วยทำความสะอาด ช่วยยกของ ย้ายของ เคลื่อนย้ายอะไรพวกนี้ ก็เป็นทีมพม่าที่มาซัพพอร์ตเรา ส่วนทีมออแกไนซ์จะมาจากพม่า แล้วก็จะมีทีมรันคิวที่มาเป็นแพลนเนอร์จากสิงคโปร์ ซึ่งแพลนเนอร์คนนี้เคยทำรายการ million dollar wedding planner ทางช่อง BBC ก็ถือว่าได้ทำงานกับมืออาชีพระดับโลก กับระดับท็อปของพม่าอีกงานหนึ่ง”

แอบกระซิบได้ไหมคะ ว่างานนี้ในส่วนของคุณโจ้ บ่าวสาวใช้งบเท่าไหร่

    “ประมาณ 8 หลักครับ เพราะมันต้องเซ็ตอัพถึง 3 ฟังก์ชัน อย่างตรงเต็นท์ที่เห็นมันสร้างขึ้นมาใหม่หมดเลย 8 หลักคือตัวเลขรวมๆ นะมันไม่ใช่ดอกไม้อย่างเดียว อย่างที่บอกว่าแพลตฟอร์มที่เห็นคือสร้างมาใหม่หมดเลย อย่างห้องน้ำก็สร้างขึ้นมาใหม่ เพราะจริงๆ มันคือสถานที่โล่งๆ ไม่มีอะไร”

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

    ทั้งนี้คุณโจ้ยังเผยอีกด้วยว่า ยังมีงานวิวาห์อย่างเป็นทางการของบ่าวสาวคู่นี้อีกครั้ง ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 โดยจะเป็นงานที่จัดขึ้นตามประเพณีของพม่า มีพิธีการคล้ายกับคนไทย มีการหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ มีการแต่งชุดตามวัฒนธรรมพม่า และมีเครื่องขันหมากวางอยู่บนโต๊ะอย่างสวยงาม นั่งทำพิธีกันบนเวที โดยงานวิวาห์สุดอลังการนี้จะจัดขึ้นที่ย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าของประเทศพม่า

ข้อมูลและภาพ จาก 

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ