ทำงานเหนื่อยกันมาทั้งปี มนุษย์เงินเดือนหลายคน คงลุ้นกันว่าจะได้เงินโบนัสเท่าไร แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ บางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้ แต่เมื่อหากยังได้รับโบนัส หลายคนคงอยากบอกความสำเร็จในหน้าที่การงานให้คนในครอบครัวรู้ เหมือนกับเจ้าของกระทู้นี้ ที่เงินก้อนหนึ่งแล้วไปบอกแม่ แต่แม่ดันไปบอกป้า ก่อนที่ป้าจะซักไซร้ ทวงขอเงินหลานมาตลอด

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

    โดยเธอได้เผยข้อความว่า.. สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะเล่าเรื่อง "เงินโบนัส" ของมนุษย์เงินเดือนที่ได้รับช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยเราได้เป็นเงินก้อนหนึ่ง ซึ่งประมาณค่าได้เกือบๆแสนบาท เราตั้งใจแบ่งส่วนแบ่งนี้คือ1.ใช้หนี้ที่มีอยู่ปัจจุบัน 2. แบ่งให้พ่อ แม่และย่า 3.ซื้อของที่อยากได้ 4.เก็บเงินไว้เป็นเงินเก็บส่วนตัว

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

       แต่เมื่อได้เงินนั้นมาแล้ว เราก็แบ่งตามที่แจ้งไปเบื้องต้น แต่ลักษณะญาติกาฝาก ก็เข้ามาทันที เมื่อแม่เราไปบอกป้าว่า เราได้เงินโบนัส XX,XXX บาท ซึ่งแม่บอกว่าให้ป้าด้วย แต่เนื่องด้วย ป้าไม่เคยให้อะไรเราหรือทำให้เรารู้สึกว่าคือญาติ แต่ไม่ใช่บุคคลที่สนิทมากและไม่ถึงขั้นว่าช่วยส่งเสียการเรียน-การทำงานให้เรา แม้แต่บาทเดียว นอกจากชอบมาขอหยิบยืมแม่เราเป็นประจำ รวมถึงญาติคนอื่นๆด้วย ซึ่งก็เอ่ยปากขอเงินเราที่ได้รับมา

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

    เมื่อป้าและญาติพี่น้องได้ขอเงินส่วนนี้ เราจึงต้องบอกไปว่า "ไม่มีเงินแล้ว..เก็บฝากเงินนั้นไปหมดแล้ว" แต่ใช่ว่าจะจบ กลับมาขออย่างนั้น จนญาติคนอื่นๆเขาเห็นและก็ได้ต่อว่าป้าเราว่า "ทำไมต้องไปขอเงินเขา เขามีเงินก็ปล่อยให้เขาเก็บไป ให้ไม่ให้ก็เรื่องของเขา" ซึ่งป้าก็ยังขอแบบนี้ จนเราเดินหนี และพอเจอเราก็บอกว่า "เอาเงินมาสิ" 

    ตอนนี้เรารู้สึกเงินโบนัสที่ทำงานทั้งปีคือเงินของเรา การให้เงินบุคคลใดที่เป็นเงินโบนัสหรือเงิน เนื่องในโอกาสพิเศษใดๆมันคือความพึงพอใจและความปรารถนา มากกว่าการให้เพราะอยู่ในโครงสร้างสถานะญาติ พี่น้องที่ต้องให้ทุกคน ซึ่งส่วนนี้เราไม่เห็นด้วยที่จะให้ เพราะทุกคนเขาจะมองเห็นคุณค่าเรา เฉพาะเงินเท่านั้น ไม่มีเงินก็มาขอ มายืมหรือให้เลี้ยงข้าว จนมันเคยตัว และยิ่งถ้ามาขอยืมเงินก็ยิ่งได้คืนยาก เมื่อบุคคลนั้นคือญาติตัวเอง

    ทั้งนี้ เราอยากจะรู้ว่าท่านอื่นๆ คิดเห็นและจัดการอย่างไรบ้างคะ สำหรับเงินโบนัสที่ได้หรือเงินอื่นๆ แบ่งญาติพี่น้องไหมคะหรือจัดการกับญาติกาฝากแบบนี้อย่างไรดีคะ

ความคิดเห็นชาวเน็ต  

สิทธิของเรา

.

    อย่างไรก็ตาม มันขึ้นอยู่กับความพอใจของเราว่าจะให้หรือไม่ให้ ไม่จำเป็นต้องแจงเหตุผล ขณะเดียวกันชาวเน็ตแนะ "มีครั้งแรกอาจจะมีครั้งต่อ ๆ ไป ยืนหยัดความคิดของคุณไว้ ควรบอกแม่ด้วยว่าเรื่องนี้คราวหน้าอย่าบอกใครหนูเดือดร้อน" , "ถ้ามาตามตื้อมากๆ ก็ให้ไป 500 พอ"

ที่มา : สมาชิกหมายเลข 787339