LIEKR:
เราทราบกันดีว่าคนไทยนั้นได้ออกไปทำงานต่างประเทศกันเยอะมาก และการไปทำงานต่างประเทศบางคนก็ต้องคิดถึงอาหารไทย ซึ่งหาซื้อได้ยากมากในประเทศนั้น ๆ ล่าสุดก็มีหนุ่มชาวไทยที่ไปทำงานต่างแดนหันมาสร้างรายได้ด้วยการส่งออก "ต้มขี้เหล็ก" ไปขายต่างประเทศ ราคาสูงถึงกิโลละ 600 บาท
ซึ่งหนุ่มรายนี้ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับการส่งออกขี้เหล็กต้มในช่อง Boss Chanel เนื่องจากเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคคนไทยในต่างประเทศ เเละชาวต่างชาติ อย่างเมียนมา ลาว
Sponsored Ad
โดยหนุ่มรายนี้ได้นำเสนอว่า อันที่เห็นนี้ที่ต้มแล้วเนี่ยก็คือประเทศไทยส่งมายังประเทศเกาหลี วันนี้ประมาณ 70 กิโล คนไทยที่นี่ก็เยอะ แล้วก็จะมีต่างชาติ มีเวียดนาม, เขมร, กัมพูชาและอื่น ๆ อีก
นอกจากนี้ยังมีหนังวัวขายด้วย ขี้เหล็กต้มกิโลกรัมละ 600 บาท แบ่งขายถุงละครึ่งกิโลกรับก็ราคา 350 บาท เห็นตัวเลขแล้วอยากทำขายบ้างจัง เชื่อหรือไม่ว่า พอเจ้าใบขี้เหล็กต้มลงจากเครื่องมาถึงที่ร้านก็มีคนมาจองหมดแล้ว เรียกได้ว่าขายดีมาก ยังไม่ทันใส่ตู้เลยก็หมดเกลี้ยงซะแล้ว 70X600 = 42,000 บาท ได้ค่าขนมไปแล้วหลายหมื่น คิดดูถ้าแค่ทำเดือนละครั้งก็สบายแล้ว
Sponsored Ad
มาดูสรรพคุณของ ใบขี้เหล็ก กัน เป็นพืชผักสมุนไพรที่หาได้ง่ายตามตลาด นอกจากจะนำมาใช้ทำเป็นอาหารไว้รับประทานแล้ว ในตำราการแพทย์แผนไทยยังได้มีการใช้ประโยชน์ของต้นขี้เหล็กในหลาย ๆ ด้าน เช่น ใช้แก้อาการท้องผูก บำรุงโลหิต บำรุงน้ำดี ช่วยทำให้เจริญอาหาร ช่วยกำจัดรังแค ทำความสะอาดผมทำให้ผมชุ่มชื่นเงางาม เป็นต้น
Sponsored Ad
และนอกจากนี้ขี้เหล็กยังมีสาร “บาราคอล” (Baracol) ที่มีฤทธิ์ในการกล่อมประสาท และทำให้นอนหลับสบาย แต่ก็ใช่ว่ามันจะได้ผลอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะในกระบวนการปรุงอาหารให้ปลอดภัยก็ต้องต้มน้ำทิ้งเสียก่อน เพื่อลดความขมและความเฝื่อน ทำให้ความเป็นพิษและฤทธิ์ดังกล่าวลดน้อยลงไปด้วย
เป็นไงกันบ้างสำหรับช่องทางการหารายได้ของหนุ่มต่างแดน หากใครที่อยู่ต่างแดน ถ้าได้มีรายได้เสริมก็สามารถติดต่อลองเอาอะไรจากไทยไปขายได้นะคะ ถือเป็นอีกไอเดียที่ดีของคนไทยในต่างแดน หากใครอยากติดตามผลงานอื่น ๆ ในช่อง Youtube ของพี่เขาก็สามารถกดติดตามได้ตามลิ้งค์ที่ให้ด้านล่างเลยนะคะ
ชมคลิป
คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<
นอกจากนี้ยังมีล็อตเตอรี่ไทยขายอีกด้วย ซึ่งจะขายในราคาใบละ 180 บาท ฝากตรวจหรือซื้อไปลุ้นรางวัลที่ 1 เองได้เลย
ชมคลิป
คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<
ที่มา : Boss Chanel