สาวเจอแมลงในอาหาร แต่ยังทนกินต่อ สุดท้ายต้องนอนรพ. เผยไม่คุ้มกันสักนิด

LIEKR:

สุขภาพเราสำคัญที่สุด

        ดารานักร้องและพิธีกรชื่อดัง เถาจิงหยิง ชาวไต้หวันเธอมีผลงานเป็นพิธีกรรายการมากมาย ข่าวเกี่ยวกับเธอตั้งแต่เข้าสู่วงการบันเทิง แต่งงานกับพระเอก และชีวิตหลังแต่งงานของเธอกลายเป็นที่สนใจของแฟนคลับ เพราะเธอไม่เคยมีข่าวแง่ลบออกมาให้เห็นเลย ทำให้มีผู้คนมากมายประทับใจในชีวิตของเธอ และพยายามเรียนรู้การใช้ชีวิตและการเลี้ยงลูกจากเธอ

        สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อนักข่าวสัมภาษณ์ถามถึงประสบการณ์ทำงานในวงการบันเทิง เธอตอบว่า “ช่วงอายุ 30 ปี ในตอนนั้นเธอยุ่งกับการทำงานมาก จนไม่มีเพื่อน ไม่มีชีวิตเป็นของตนเอง ทุกเวลามีแต่งาน” นี้คือความรู้สึกจากใจของเธอ

 

Sponsored Ad

 

        สื่อท้องถิ่นเผยในช่วงเวลานั้นเถาจิงหยิงยุ่งกับการทำงานมาก บางครั้งยุ่งจนไม่มีเวลากินข้าว มีอยู่ครั้งหนึ่งขณะกำลังกินข้าวกล่องที่ทีมงานจัดเตรียมนั้น จู่ ๆ เธอก็มองไปเห็นมีแมลงสาบอยู่ในอาหารของเธอ แต่ต้องทำใจเขี่ยมันทิ้ง จากนั้นก็กินส่วนที่อยู่อีกด้าน เพราะจะต้องถ่ายเทปต่อไปแล้ว สื่อยังบอกอีกว่าทีมงานหาข้าวกล่องอันใหม่ให้ไม่ทันจริง ๆ

 

Sponsored Ad

 

        ทุกวันเธอเหมือนกำลังวิ่งแข็งกับเวลา ทำให้สุขภาพร่างกายของเธอทนรับไม่ไหวในระยะยาว เธอบอกอีกว่าจะไม่มีวันลืมเหตุการณ์ในวันนั้นที่ “ถูกนำส่งโรงพยาบาล ในวันนั้นเธอได้จัดวางตารางวันเต็มทั้งวัน ทำให้ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเธอ ซึ่งแลกมาด้วยโรคต่าง ๆ เธอต้องนอนโทรมอยู่ในห้องพักผู้ป่วย

        ในตอนนั้นเองทำให้เธอคิดได้ และคิดใคร่ครวญว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต เพราะประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอตื่นตัว ยิ่งเมื่อได้เห็นบิลค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวที่เรียกเก็บจากโรงพยาบาล ทำให้เธอพบว่าจำนวนตัวเลขในนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นวันที่ไปอาบแดดจัดริมชายหาดบาหลีได้  ดังนั้นเธอจึงเข้าใจตัวเลือกต่อไปในชีวิตว่าจะต้องทำอย่างไร!

 

Sponsored Ad

 

        หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอไม่รีบร้อน วางแผนตารางงานแบบพอดี ที่สำคัญต้องทำงานอย่างมีความสุข เธอยังบอกอีกว่า “เวลาทำงานเธอเหมือนรถไฟฟ้าความเร็วสูง ต้องเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่พอกลับบ้านก็จะให้เวลากับลูกและสามีด้วยความอดทน”


 

Sponsored Ad

 

        เธอกล่าวทิ้งท้ายว่า “ตอนนี้ตนเองกำลังเรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจ คำนึงถึงผู้อื่นและเพื่อนร่วมงาน เกี่ยวกับสถานการณ์ในที่ทำงานที่เกิดขึ้นกะทันหัน เช่นเดียวกัน หากคุณสามารถรอความผิดพลาดของบุตรหลานอย่างอ่อนโยน คุณก็ควรปฏิบัติต่อลูกคนอื่นได้เช่นกัน”

.

ที่มา : Lookforward | เรียบเรียงโดย ป๋าเถิกเปิดกรุ

บทความที่คุณอาจสนใจ