กลายเป็นประเด็นที่คนให้ความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์ไปในทันที เมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแบรนด์กระเป๋าสัญชาติไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก Boyy (บอยย์) ได้ลงคลิปวิดีโอโฆษณากระเป๋าชิ้นใหม่ของทางแบรนด์ แต่กลับถูกจวกหนักว่า ไม่สร้างสรรค์

    เดิมทีกระเป๋า Boyy (บอยย์) นั้น เป็นแบรนด์กระเป๋าที่มีเจ้าของเป็นคนไทยอย่าง คุณบอย วรรณศิริ คงมั่น มีฐานลูกค้าเป็นเหล่าผู้นิยมแฟชั่นและดาราคนดังทั้งในไทยและต่างชาติ ราคากระเป๋าตกอยู่ที่ใบละ 4-5 หมื่นบาท และโฆษณาชุดล่าสุดนี้ ก็ได้นำเสนอกระเป๋าโดยการนำไปวางถ่ายตามจุดต่างๆ ของกรุงเทพฯ

    โดยจุดต่างๆ ที่ใช้ในการถ่ายรูปมีทั้ง รถเข็นขายผลไม้ วินมอเตอร์ไซค์ ขอบหน้าต่างรถเมล์ ร้านขายพวงมาลัย ริมแม่น้ำที่มีเรือแล่นผ่าน วิววัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ท้ายรถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์ลงในอินสตาแกรมของเพจ ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าแสดงความเหลื่อมล้ำในสังคม

    หลายคนกล่าวว่า เป็นการนำเสนอที่ไม่สร้างสรรค์ ด้วยการนำเอากระเป๋าหรูราคาแพง ไปวางไว้ในวิถีชีวิตของชนชั้นกลาง ซึ่งไม่ใช่กลุ่มลูกค้าของกระเป๋าราคาระดับนี้เลย เหมือนแค่อยากนำความเหลื่อมล้ำของชนชั้นทางสังคมมาเป็นองค์ประกอบของการถ่ายรูปกระเป๋าเท่านั้น

    กระทั่งมีผู้ใช้อินสตาแกรมรายหนึ่ง ที่ระบุว่าเธอคือลูกสาวของพ่อค้าขายผลไม้ในภาพ กล่าวว่าพ่อของเธอได้รับค่าจ้าง 500 บาท เพื่อที่จะถูกใช้เป็นภาพพื้นหลัง และนึกว่ามาถ่ายรีวิวประเทศไทยแค่เท่านั้น

ความคิดเห็นจากอินสตาแกรม boyyboutique

    แม้จะมีความคิดไม่เห็นด้วยกับโฆษณาชุดนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่กล่าวว่า ทางแบรนด์อาจจะต้องการสื่อถึงการใช้กระเป๋าในชีวิตจริงได้ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็สามารถมีกระเป๋าแบรนด์นี้ได้ อีกทั้งยังนำเสนอวิถีชีวิตและเอกลักษณ์ของประเทศไทยให้ต่างชาติผ่านทางสื่อชิ้นนี้ด้วย

    หลังจากผ่านไปได้ไม่นาน คุณบอย วรรณศิริ คงมั่น ดีไซเนอร์เจ้าของกระเป๋าแบรนด์ Boyy ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางอินสตาแกรมตัวเองว่า คุณเป็นใครถึงมาอธิบายแคมเปญของเรา รู้จริงหรือว่าเดาเอา โฆษณาชิ้นนี้คิดโดยคนไทย ทำโดยคนไทย สิ่งที่คุณเขียนสะท้อนความคิดของคุณเอง ทีมงานไม่ได้คิดแบบนั้นเลย เพราะแนวคิดที่จะสื่อคือ ชีวิตประจำวันในกรุงเทพฯ หากไม่รู้ก็ควรถามก่อน ไม่ใช่คิดไปเอง

    ต่อมาเธอได้ลบข้อความดังกล่าว และลงโพสต์ใหม่ว่า แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่เกิดจากริมถนน เธอและสามีสร้างแบรนด์นี้มาด้วยกันจากศูนย์ พร้อมทั้งยังขอบคุณในคำวิจารณ์และผู้ที่คอยสนับสนุนเธอมาตลอด

    ซึ่งทางอินสตาแกรมของทางแบรนด์ Boyy ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ขอโทษจากใจจริงถ้าหากทำให้รู้สึกว่าแบรนด์ดูถูกพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ใช้แรงงาน หรือเล่นสนุกกับชนชั้นในสังคม แต่ทางแบรนด์ตั้งใจพูดถึงสังคมและความมีชีวิตชีวาที่ทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนใคร และพยายามยกระดับคำว่า Made in Thailand

    ระหว่างการถ่ายทำนั้น ทางทีมงานก็ได้มอบค่าตอบแทนให้กับทุกคนเป็นค่าเสียเวลา แต่บางคนไม่รับ ทีมงานก็ได้อุดหนุนสินค้าเป็นสินน้ำใจ พร้อมย้ำว่าให้ความสำคัญกับความคิดของทุกคน

    ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีคำแถลงจากทั้งดีไซเนอร์และทางแบรนด์เอง แต่หลายคนก็ยังกล่าวว่า จะขอโบกมือลาแบรนด์ดังกล่าวนี้ เนื่องจากอยากส่งสัญญาณให้แบรนด์ตระหนักถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมากขึ้น ก่อนที่จะถ่ายทอดผลงานออกมา

ภาพจากอินสตาแกรม boyyboutique

.

.

ที่มา : boyyboutique, kapook