หนุ่ม ป.โท เล่านาทีสู้โจร เอากระทะฟาดดับ ตร.ตั้งข้อหา-ผลชันสูตรชี้ขาดอากาศหายใจ

LIEKR:

ถ้าหากเจ้าของบ้านไม่สู้ ก็อาจเป็นฝ่ายโดนทำร้ายเสียเอง - นางนุดี ลีสุวรรณ เพื่อนบ้านกล่าว

    หนุ่มนักศึกษาปริญญาโท เล่านาทีเจอโจรขึ้นบ้าน ต่อสู้กับโจรไปด้วย คุยโทรศัพท์กับพ่อไปด้วย จับโจรเหวี่ยงโยนลงบันไดจากชั้น 2 เอากระทะฟาด และล็อกคอ เผยตอนสู้กันโจรหิวน้ำ ยังจะไปหยิบให้กิน

    จากกรณี นายทรงวุฒิ ปุณณรัตน์กุล อายุ 23 ปี นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง พบคนร้ายนอนหลับอยู่ภายในบ้าน หลังจากเข้ามาลักทรัพย์ และตื่นนอนเอามีดมาไล่ฟันตน จึงได้รีบวิ่งหนี พร้อมกับหาข้าวของอะไรมาป้องกันตัว จนไปคว้ากระทะเหล็กมาได้ และจัดการใช้กระทะนี้ฟาดหัวโจร พร้อมรัดคอจนเสียชีวิต ซึ่งในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนายทรงวุฒิ และตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายนั้น 

 

Sponsored Ad

 

    สำหรับความคืบหน้าในเรื่องนี้ รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ทีมผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ ตั้งอยู่ภายในซอยงามวงศ์วาน 18 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี พบว่าบ้านปิดประตูเงียบ และด้านนอกคล้องโซ่เอาไว้ โดย นายสหรัฐ ปุณณรัตน์กุล อายุ 56 ปี พ่อของนายทรงวุฒิ เล่าว่าย้อนถึงตอนเกิดเหตุว่า ตอนนั้นตนอยู่บ้านที่ จ.สระบุรี ลูกชายได้โทร. มาหา หลังเข้าบ้านไปพบความผิดปกติ ข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ลูกชายก็เดินขึ้นไปชั้น 2 พบว่าห้องนอนล็อกจากด้านใน จึงได้ไขกุญแจเข้าไป ตอนนั้นตนก็ยังอยู่ในสายและคุยกับลูกตลอด พอเปิดประตูไปก็เจอโจรนอนหลับอยู่ ข้างตัวมีมีดอีโต้ ลูกชายจะเข้าไปหยิบมีดและจับตัวโจร แต่โจรตื่นขึ้นมาสู้ 

 

Sponsored Ad

 

    เหตุการณ์หลังจากกนั้นชุลมุนวุ่นวายมาก นายทรงวุฒิเผชิญหน้ากับคนร้ายอยู่ในห้องนอน ส่วนพ่อก็ตะโกนออกมาจากโทรศัพท์ บอกให้คนร้ายยอม จะได้ไม่ต้องลงไม้ลงมือกันจนบาดเจ็บ แต่คนร้ายตะโกนตอบกลับว่าไม่ยอม หลังจากนั้นทั้งสองก็สู้กันอุตลุด นายทรงวุฒิคว้าร่างคนร้ายแล้วจับเหวี่ยงลงบันได้จากชั้น 2 กลิ้งลงมายังชั้น 1 

 

Sponsored Ad

 

    คนร้ายลุกขึ้น และพยายามวิ่งหนีออกไปหน้าบ้าน แต่เปิดประตูไม่ได้ เพราะล็อกกุญแจเอาไว้ นายทรงวุฒิวิ่งตามลงมาจะจับตัวคนร้ายให้ได้ คนร้ายก็ยังคงไม่ยอมให้จับและกวัดแกว่งมีดอีโต้สู้ นายทรงวุฒิมองหาอาวุธจะป้องกันตัว สายตามองไปเห็นกระทะเหล็ก 1 ใบ เลยคว้ามามาป้องกันตัว 

    หลังจากวุ่นวายกันจนเหนื่อย คนร้ายบอกว่ารู้สึกหิวน้ำ นายทรงวุฒิก็ยังจะเดินไปหยิบน้ำมาให้ดื่ม แต่คนร้ายก็ยังลุกขึ้นมาสู้อีก นายทรงวุฒิจึงเข้าไปล็อกคอคนร้าย และพยายามกดตัวให้นอนลงกับพื้น สุดท้ายคนร้ายแน่นิ่งไป รวมเวลาต่อสู้กันทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง โดยสภาพเนื้อตัวของนายทรงวุฒิ ตั้งแต่คอลงมายันหน้าอก ก็เต็มไปด้วยรอยเร็วรอยมือของคนร้าย ตอนที่สู้กัน ส่วนนายสหรัฐ ผู้เป็นพ่อ ก็ได้รีบขับรถออกจากสระบุรีมาที่บ้านทันที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที 

 

Sponsored Ad

 

นายทรงวุฒิ ปุณณรัตน์กุล เจ้าของบ้าน สภาพคอและหน้าอกมีร่องรอยบาดแผล จากการต่อสู้กับคนร้าย 

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

 

Sponsored Ad

 

    จากการตรวจสอบข้าวของ พบว่ามีทรัพย์สินหายไปมีประมาณ 8-10 รายการ เป็นโทรทัศน์ เครื่องประดับ กล้องถ่ายรูป และเงินสด รวมมูลค่าหลายแสนบาท นอกจากนี้ยังพบกระเป๋าเดินทางที่ของคนร้าย ภายในมีทรัพย์นสินบางส่วน คาดว่าเตรียมจะหิ้วหลบหนีไป นายสหรัฐ เล่าต่อว่า ปกติลูกชายตนจะมาพักที่บ้านหลังนี้ในช่วงวันศุกร์และวันเสาร์ สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เข้ามาพักตามปกติ คาดว่าคนร้ายได้เข้ามาขโมยทรัพย์สินในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ตอนที่ไม่มีใครอยู่ 

    ตนคาดว่าคนร้ายน่าจะพาพวกมาที่บ้านอีกด้วย เพราะพบกระเป๋าเสื้อผ้าวางไว้ เหมือนกับย้ายบ้านมาอยู่ และพบถุงยางอนามัยถูกทิ้งไว้ อีกทั้งคนร้ายยังพบข้าวกล่องที่ซื้อตุนไว้ภายในบ้าน และเอาออกมาอุ่นกิน 

 

Sponsored Ad

 


นางนุดี ลีสุวรรณ เพื่อนบ้าน 

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

    ทางด้านนางนุดี ลีสุวรรณ ชาวบ้านใกล้เคียง เปิดเผยว่า ในช่วงเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย ตนคิดว่าเป็นเสียงคนข้างบ้านทะเลาะกัน เลยออกจากบ้านมาดู ก็เห็นบ้านหลังอื่นปิดประตูเงียบเชียบ เลยกลับเข้าบ้านไป สำหรับบ้านหลังเกิดเหตุ นายทรงวุฒิจะเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ และพักอาศัยช่วงสุดสัปดาห์ ส่วนวันธรรมดา ปกติจะไม่มีใครอยู่ แต่เมื่อประมาณ 2-3 วันก่อน ตนสังเกตเห็นความผิดปกติภายในบ้านหลังนี้ เพราะเห็นไฟที่ชั้น 2 เปิดทิ้งไว้ 

Sponsored Ad

    ตอนนั้นยังไม่ได้เอะใจ คิดว่าเจ้าของคงกลับมาพัก แต่ก็ไม่เห็นใครเข้าออก พอมาทราบเรื่อง ก็ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะตนอยู่ที่นี่มากว่า 10 ปี ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ตนมองว่ามันเป็นเรื่องสุดวิสัย เพราะถ้าหากเจ้าของบ้านไม่สู้ ก็อาจเป็นฝ่ายโดนทำร้ายเสียเอง 

นายพงศ์ ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ที่ช่วยเข้าไปจับคนร้าย 

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

    ขณะที่ นายพงศ์ (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เข้าไปช่วยจับคนร้าย เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 21.00 น. ตนจูงสุนัขออกมาเดินเล่นในซอย ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติดี แต่เมื่อเดินผ่านบ้านหลังเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงคนร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงไปเดินเข้าไปเกาะรั้ว ตะโกนถามเข้าไปว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเสียงคนในบ้านตะโกนกลับมาว่ามีโจรขึ้นบ้าน และตอนนี้จับได้แล้ว 

    ตนจึงเปิดประตูเข้าบ้านไป ภาพที่เห็นคือ นายทรงวุฒิเอามือข้างหนึ่งกดคนร้าย และนอนทับตัวไว้ อีกมือหนึ่งก็ถือโทรศัพท์คุยกับพ่อ ตนเลยรีบเข้าไปหาเชือกมามัดตัวคนร้าย ตอนนั้นคนร้ายแน่นิ่งไปแล้ว ตนคิดว่าสลบไป และหลังจากนั้นประมาณ 10-15 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึง 

    นายพงศ์ เล่าต่อว่า นายทรงวุฒิเล่าให้ตนฟังว่าเข้ามาในบ้านแล้วพบข้าวของถูกรื้อค้น พอขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ก็เจอโจรนอนอยู่ในห้องนอน จึงเกิดการต่อสู้กัน ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี 2561 ก็เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว โจรแอบเข้าไปในบ้านที่ติดประกาศขาย หอบข้าวของมีค่าไปขาย และมาพักอาศัยอยู่ในบ้าน สำหรับกรณีที่คนร้ายเสียชีวิต ตนมองว่าเป็นการป้องกันตัว เชื่อว่าเจ้าของบ้านไม่ได้หวังเอาชีวิตคนร้าย 

    นายพงศ์กล่าวว่า ตอนนั้นนายทรงวุฒิก็เล่าให้ตนฟังว่าคนร้ายมีอาวุธมีด จึงเอากระทะมาป้องกันตัว และฟาดหัวคนร้ายไป ไม่ทราบว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตหรือไม่ ตอนเจ้าหน้าที่มาถึง ก็ได้มีการปั๊มหัวใจคนร้าย และตนก็ได้ยินกู้ภัยพูดว่าคนร้ายยังหายใจอยู่ แต่ต่อมาก็พบว่าเสียชีวิต 

นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

    สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม ให้ความเห็นว่า การรัดคอบริเวณหลอดลมนั้น หากออกแรงมากจนผู้ถูกรัดไม่สามารถหายใจได้ ประมาณ 10-15 วินาที ก็สามารถทำให้หมดสติ จนนำไปสู่การเสียชีวิตได้ และจากกรณีนี้ พบว่าคนร้ายตกจากบันไดจากชั้น 2 ลงมาที่ชั้น 1 อาจมีอาการบาดเจ็บบอบช้ำร่วมด้วย บวกกับสภาวะขาดอากาศ ก็ทำให้หมดสติได้ง่าย 


นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

    ทางด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ชี้ว่า กรณีนี้ถือเป็นการป้องกันทรัพย์สินภายในบ้าน ขณะที่คนร้ายเข้ามาในบ้านเพื่อหวังต่อทรัพย์ และเจ้าของบ้านได้ป้องกันตัว หากเจ้าของบ้านมีปืนและใช้ปืนยิงคนร้าย ก็ต้องดูว่ามีเจตนาอย่างไร หากคนร้ายจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย ถือว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัว แต่หากคนร้ายเห็นเจ้าของบ้านและวิ่งหนีเลย เจ้าของบ้านไม่มีสิทธิ์ยิงเพื่อทำร้าย 

    นายรณรงค์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีการยิงเกิดขึ้น ก็ต้องดูเจตนาว่ายิงเพื่อหยุดคนร้ายหรือยิงหวังเอาชีวิต ส่วนกรณีนี้เป็นการปะทะกันระหว่างมือเปล่ากับอาวุธ มีการยื้อแย่งอาวุธกัน และใช้แขนล็อกคอจนอีกฝ่ายตาย ถือว่าเป็นการป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ไม่ต้องรับโทษทางอาญา

ตำรวจตั้งข้อหาหนุ่ม ป.โท เอากระทะฟาดหัวโจรดับ ผลชันสูตรชี้ขาดอากาศหายใจ เนื่องจากการกอดรัดฟัดเหวี่ยง

    ล่าสุด อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พ.ต.ท. สันติ ชูเชิด รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ในที่เกิดเหตุพบโทรศัพท์ของคนร้าย แต่ไม่สามารถใช้งานได้ จึงได้เปลี่ยนซิมโทรศัพท์ พบว่า มีเบอร์โทรศัพท์ที่มีการติดต่อค้างไว้ จึงติดต่อไป พบว่าเป็นภรรยาคนร้าย ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นน ไม่พบร่องรอยเลือดในที่เกิดเหตุ ตามร่างกายไร้แผล มีเพียงศรีษะแตกเท่านั้น

    ขณะเดียวกัน จากการสอบสวนเจ้าของบ้านพบว่า มีการต่อสู้กัน ใช้กระทะตีป้องกันตัว แต่ทำอะไรคนร้ายไม่ได้ มีการกอดรัดฟัดเหวี่ยง เจ้าของบ้านใช้แขนล็อกตัวคนร้ายจนนิ่ง โดยเบื้องต้นแพทย์ชันสูตรว่า ขาดอากาศหายใจ ส่วนตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

ข้อมูลและภาพจาก อมรินทร์ ทีวี/รายการทุบโต๊ะข่าว/kapook

บทความที่คุณอาจสนใจ