เด็กสลัม จบแค่ม.3 กัดฟันทำงาน ก่อนเก็บเงินซื้อบ้าน หลังเกือบ 2 ล้านให้ครอบครัวได้

LIEKR:

"แต่ก่อนอยู่บ้านไม้เป็นหลัง ๆ ในสลัมติด ๆ กันค่ะ ชีวิตลำบากมากค่ะ แม่ไม่ค่อยมีเงิน" เธอเล่า

        "คุณเล็ก" จินดา คุณวิเศษ อายุ 31 ปี อดีตเธอเป็นเด็กสลัมในชุมชนแออัดย่านบางซ่อน เธอคืออีกหนึ่งคนที่มีความฝันและเพียรพยายามก่อร่างสร้างตัว

        คุณเล็กเล่าให้ฟังว่า พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ ป.2 และพ่อก็อยากจะให้ไปอยู่ด้วย แต่ความรู้สึกบอกไม่อยากไป เพราะอยากอยู่กับแม่ ส่วนพี่สาวที่อายุห่างกัน 1 ปี อยากไปอยู่กับพ่อ แต่แม่ไม่อนุญาตให้ไป สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ แม่จึงต้องหาเลี้ยงลูกสาวทั้ง 2 คนมาตั้งแต่บัดนั้น ด้วยอาชีพก่อสร้างเป็นกรรมกร 

 

Sponsored Ad

 

        "แต่ก่อนอยู่บ้านไม้เป็นหลัง ๆ ในสลัมติด ๆ กันค่ะ ชีวิตลำบากมากค่ะ แม่ไม่ค่อยมีเงิน" เพราะเหตุนี้ทำให้เรื่องการเล่าเรียนยุดชะงักเพียงแค่ชั้น ม.3 เพราะความยากจนสองพี่น้องจึงต้องแบกหามช่วยแม่ก่อสร้างเป็นกรรมกรตั้งแต่ยังเด็ก จนมีวันหนึ่งคุณเล็กจำได้แม่นยำ วันนั้นจะต้องไปลงทะเบียนที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่แม่ของเธอไม่มีเงินจ่าย ทำให้เธอพลาดโอกาสที่จะได้เรียนสูง ๆ เหมือนกับเพื่อนคนอื่น

 

Sponsored Ad

 

        แต่ด้วยหัวใจที่แม่ของเธอปลูกฝังความเพียรพยายามให้ตั้งแต่ยังเล็ก เธอจึงรู้จักรับจ้างเป็น ทำทุกอย่าง แม้แต่งานในโรงงาน ก่อนอายุจะครบ 18 ปี จึงย้ายมาสมัครเป็นพนักงานปั๊มน้ำมัน เงินเดือน 6,000 บาท สำหรับเด็กอายุ 18 ปีในสมัยก่อน "มันเยอะกับชีวิตเด็กอายุ 18 มากเลยนะ..ตอนนั้น" คุณเล็กเล่า 

        เธอนึกย้อนไปถึงวัยเด็กอีกครั้ง วันที่ได้ค่าขนมจากแม่ 5 บาท เธอไม่ได้รู้สึกว่าเงินจำนวนนี้มากหรือน้อย แต่เธอกำลังจะบอกว่า วันที่มี 5 บาท แต่อยากจะใช้ 10 บาท มันอาจจะเกินกำลังของตัวเองไป ฉะนั้นวันนี้เธอพลาดการสมัคร แต่เมื่อไหร่เธอพร้อมก็มาสมัครเรียนได้

 

Sponsored Ad

 

        กระทั่งวันหนึ่งเมื่อเธออายุ 19 ปี มีเพื่อนแนะนำให้รู้สึกกับอาชีพ "สาวยาคูลท์" แต่สิ่งที่เธอกลัวก็คือ "การสอบ" เธอคิดทันทีว่า ตัวเองจบเพียงชั้นม.3 ความรู้น้อย กลายเป็นกำแพงที่จะเรียนรู้ แต่สุดท้ายเธอได้พบว่า การเรียนรู้ในชีวิตแต่ละช่วงวัย แม่ของเธอก็เคยสอนประสบการณ์จะทำให้แกร่ง เพราะความลำบากที่ผูกมัดรัดครอบครัวเธอไว้ จึงเป็นแรงผลักดันให้ต้องทำงานสร้างตัวเองให้ได้

 

Sponsored Ad

 

        ในปี 51 เธอทำงานเป็นสาวยาคูลท์ครั้งแรก ไล่เรียงไปตั้งแต่โดยรอบสนามหลวง ท่าพระจันทร์ ท่าช้าง ละแวกวัดพระแก้ว จะเป็นเขตรับผิดชอบของเธอ ซึ่งความแตกต่างจากสาว ๆ คนอื่น ๆ จนถึงทุกวันนี้ก็คือ "หนูยังส่งยาคูลท์ด้วยรถเข็นค่ะ ไม่ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์เหมือนกับในเขตอื่น ๆ เพราะเขตที่หนูรับผิดชอบเป็นบ้านที่ติดกันเป็นหลัง ๆ ค่ะ"

        เมื่อทำไปได้สักระยะพอที่จะเก็บเงินได้ ก็มีบางสิ่งที่แทรกซึมเข้ามาในชีวิตเธอ มันคืออาการปวดหัว ปวดมากจนเข้าใจว่าเป็นไมเกรน แต่ท้ายที่สุดความน่ากลัวกลับตกอยู่ที่ยาคุมกำเนิด เพราะเธอป่วยเป็นเส้นเลือดอุดตันในสอง เบื้องต้นหมอแจ้งเธอว่าอาจมีสาตุมาจากทานยาคุมกำหนดติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายปี เธอปรึกษาแฟนหนุ่มที่ทำงานอาชีพรับจ้าง ตัดสินในรักษาอาการป่วยนาน 1 เดือน ก่อนจะกลับมาทำงานในเขตใกล้เคียง คือ เสาชิ่งช้าและประตูผี ในระหว่างนั้นก็ต้องติดตามอาการทุก ๆ เดือน และทานยาสลายลิ่มเลือดอย่างสม่ำเสมอ ทว่า 1-2 ปีให้หลังชีวิตของเด็กสลัมคนนี้ เธอตั้งครรภ์และตั้งใจทำงานเก็บเงินจนคลอดลูกสาว แต่ชีวิตความรักกลับไม่สมหวังต้องเลิกกับสามี กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว

 

Sponsored Ad

 

        เธอตัดสินใจใช้เงินออมที่มีอยู่ซื้อบ้านในราคา 1.9 ล้านบาท โดยผ่อนมา 4 ปีแล้ว อย่างน้อยความฝันของเด็กที่ไม่เคยมีบ้านก็เป็นจริงเสียที ต้องชื่นชมอุปสรรคที่เธอใช้ความอดทนและเก็บออม แม้ว่าขณะนี้จะแยกทางกับสามี แต่วิธีการบริหารรายได้และค่าใช้จ่าย เพื่อดูแลคนในบ้านทั้งหมด 5 ชีวิต 

        สำหรับการบริหารรายได้ในแต่ละเดือน เธอแยกออกเป็นก้อนคร่าว ๆ 1. จ่ายค่าบ้าน 2. เบี้ยประกันชีวิต 3. ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด และ 4. เงินเก็บแต่ละเดือน ทุกวันนี้สิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จจากเด็กที่ไม่มีต้นทุนอะไรเลย และมันกำลังเบ่งบานอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก dailynews

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ