“ลูกรัก หนูสามารถมีชีวิตคนเดียวดีๆได้ อย่าแต่งงานโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง” นี่เป็นคำพูดที่คุณแม่ชาวไต้หวันคนหนึ่ง มอบให้ลูกสาว ทำให้ชาวเนตนับไม่ถ้วนแห่กันแชร์

        “นอกจากผู้ชายสักคนจะดีกับหนูจนไม่น่าเชื่อ ปกป้องหนูได้ ดูแลหนูได้ แต่งกับหนูไปต้องรักหนู ไม่ใช่หวังให้หนูไปคลอดลูกไปดูแลเขาชั่วชีวิต ถึงค่อยคิดจะแต่งงาน เข้าใจมั้ย ?”

        บางทีนี่อาจจะเป็นคำพูดที่ควรพูดกับลูกสาว ไม่ใช่ “ลูกถึงวัยที่ควรแต่งงานได้แล้ว” และไม่ใช่ “ถ้ายังไม่แต่งก็ขายไม่ออกแล้ว” ถ้าเป็นไปได้ อย่าแต่งกับใครก็ได้

        นึกถึงละครเรื่องหนึ่งที่ได้ดูก่อนหน้านี้.. นางเอกเรียนเก่ง ได้ทุนมหาวิทยาลัยชื่อดังจนเรียนจบ แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่า เธอที่มุ่งมั่นจะทำงาน กลับเลือกที่จะแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนแรกคิดว่าแม่จะดีใจ นึกไม่ถึงว่าแม่จะย้อนถาม “ทำไมต้องแต่งงาน?” แม่ที่ทำงานหนักเพื่อครอบครัวและลูกมาทั้งชีวิต เข้าใจชัดเจนกว่าใครว่ามีอะไรสำคัญกว่าการแต่งงานที่ต้องทำ ถ้าแค่อายุสมควรแต่งงานแล้วต้องแต่งงาน นั่นอาจไม่ใช่การแต่งงานที่มีความสุข สูญเสียชีวิตที่สวยงามที่ควรจะเป็นของคุณ 

        Marjane Satrapi นักเขียนหญิงชาวอิหร่านเคยกล่าวถึงเรื่องราวของเธอในอัตชีวประวัติของเธอ

        ตอนที่เธอเลือกจะแต่งงานด้วยความหุนหันพลันแล่น แม่ร้องไห้และบอกกับเธอว่า “แม่อยากให้หนูเป็นอิสระ มีการศึกษา มีความคิดแต่หนูกลับเลือกจะแต่งงานตั้งแต่อายุ 21”

        อายุเท่าหนูตอนนี้ ควรจะตั้งใจทำงาน พยายามหาเงิน ไปรู้จักเพื่อนให้มากๆ เพลิดเพลินไปกับความสุขความเศร้าของความรัก ออกไปดูโลกกว้าง ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ใช่เป็นภรรยาของใครสักคน เอาความฝันและเป้าหมายซุกซ่อนไว้กับชุดแต่งงานตลอดไป หนูไม่เคยแต่งงานหนูไม่รู้หรอก สำหรับคนๆนึงแล้ว โดยเฉพาะผู้หญิง การแต่งงานหมายถึงอะไร

ยังจำปัญหาที่เคยถกกันก่อนหน้านี้ได้มั้ย ?

“ถ้าชาติหน้ามีจริง คุณยังจะอยากแต่งงานกับสามีคนนี้มั้ย?”

        คำตอบที่ทำให้คนฟังจำได้อย่างแม่นยำคำตอบหนึ่งคือ “ไม่อย่างแน่นอน ตอนแต่งงานนึกว่าเขาจะเป็นที่พึ่งพิงบังลมฝน ที่ไหนได้ เขานั่นแหล่ะที่เป็นคนเอาลมฝนเข้ามาในชีวิต” ต้องยอมรับว่า การแต่งงานในทุกวันนี้ เป็นที่พักหลบภัยสำหรับผู้ชาย แต่เป็นกุญแจมือสำหรับผู้หญิง เพราะผู้ชายแต่งงานแล้ว คือมีคนมารักเขาเพิ่มขึ้นอีกคน มาดูแลเขา แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว มีคนเพิ่มมาข้างกายอีกคนให้ต้องรับมือ

        จากเด็กสาวที่ทำอะไรไม่เป็น ต้องฝึกอย่างรวดเร็วให้เป็นแม่บ้านดูแลทั้งครอบครัว

        จากเด็กสาวที่อ่อนโยนช่างเลือก ต้องกลายเป็นซุปเปอร์มัมที่มือนึงต้องอุ้มลูกอีกมือต้องทำงาน

        จากเจ้าหญิงน้อยที่ถูกเอาใจ ได้รับการปกป้องก่อนแต่งงาน กลายเป็นเมียน่าเบื่อที่ถูกบ่น ถูกตำหนิหลังแต่งงาน

        ถ้าอีกฝ่ายเข้าใจคุณ เห็นใจคุณ ทุกอย่างก็คุ้มค่า ถ้าอีกฝ่ายไม่เข้าใจ ไม่เห็นใจ จะทำยังไงได้ ?

        ถ้าผู้ชายที่ก่อนแต่งบอกคุณว่าเขาจะช่วยแบ่งเบาภาระ พอแต่งแล้วกลับทำตัวเหมือนลูกยักษ์ของคุณ ชีวิตแต่งงานกลายเป็นชีวิตแม่ม่าย จะทำยังไงดี ?

        ในเรื่อง The Bridges of Madison County มีประโยคหนึ่ง เมื่อผู้หญิงเลือกที่จะแต่งงานมีลูก ในด้านหนึ่งชีวิตของเธอเริ่มต้นขึ้น แต่ในอีกหลายๆด้าน ชีวิตของเธอได้หยุดลง การแต่งงานเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ ใช้ทั้งชีวิตในการเปิดเผยราคา ถ้าพนันไปมั่วๆ สุดท้ายแล้วก็อาจจะแพ้หมดตัว

เมื่อก่อนที่ทำงานมีเพื่อนผู้หญิงคนนึง อายุ 30 กว่าแต่ยังไม่แต่งงาน พอได้คุยกับเธอ เธอเล่าว่าตอนแรกพ่อแม่ก็เร่งๆให้แต่ง บอกให้เธอไปดูตัวทุกวัน “แต่ต่อมา พวกท่านเห็นว่าพวกที่แต่งงานเร็ว เริ่มทยอยหย่า ก็ไม่กล้ามาเร่งฉันอีก” สมัยนี้ต่างจากเมื่อก่อนมาก “แต่งงานกับคนผิดก็ต้องชดใช้ไปครึ่งชีวิต” 

        พวกที่แต่งงานไปโดยไม่คิดให้รอบคอบ การแต่งงานไม่ใช่การผ่านฝนฟ้าคะนองในชั่วข้ามคืน ไม่สามารถรับมือได้ด้วยความพยายามอย่างยากลำบากของคนๆเดียว เพราะสุดท้ายจะเหลือแต่คราบน้ำตา

        ซึ่งพวกที่แต่งงานกับคนผิดทรมานมานานนับปี ก็ไม่สามารถย้อนกลับหรือชดเชยอะไรได้ ในทางกลับกันผู้ที่ระมัดระวังและรอบคอบเกี่ยวกับการแต่งงาน สุดท้ายแล้วจะได้แต่งเพราะรัก ยังจำเรื่องราวของ Li Fuchang ได้มั้ย คุณลุงวัย 60 ปีที่เขียนไดอารี่เพื่อภรรยามา 30 กว่าปี ตัวอักษรทั้งหมดเต็มไปด้วยความรักที่มีให้ภรรยา

        เขาเขียน “อายุ 24 เป็นปีที่สวยงามที่สุด เธอเลือกจะแต่งงานกับผม”, “เธอช่วยผมเลี้ยงดูลูกสองคนจนเติบโต”, “วันนี้เป็นวันเกิดภรรยาครบรอบ 57 ปี สุขสันต์วันเกิด”..... “ผู้ชายควรจะรักและเลี้ยงดูภรรยาเหมือนลูกสาว ไม่ใช่ผู้ชายที่รักคุณแต่กลับเห็นคุณเป็นแม่” คุณลุงกล่าว แต่งงานกับคนผิด ราคาของมันคือทั้งชีวิต แต่งงานกับคนที่ใช่ เท่ากับทำเรื่องราวส่วนใหญ่ในชีวิตถูกต้อง การแต่งงาน ถ้าคุณพบคุณที่ใช่ คุณจะไม่สูญเสีย

        อย่าคว้าใครก็ได้มาแต่ง ต้องรอจนได้เจอคนที่มีค่าพอจะได้รับชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณ ถึงค่อยแต่ง

        อย่าแต่งงานเพื่อรักษาหน้า อย่าแต่งงานเพื่อให้พ่อแม่พอใจ อย่าแต่งงานเพราะคำนินทาของคนอื่น ต้องมั่นใจว่าเขาคือคนที่มีค่าคนนั้น ถ้าไม่ใช่เขาจะไม่แต่ง

        เขาไม่ใจแคบเรียกร้องกับอะไรหยุมหยิม ไม่หงุดหงิดฟาดงวงฟาดงาแบบไม่มีเหตุผล รักคุณดูแลคุณ ฟังคุณพูดเรื่องไร้สาระ

        เขาจะทำสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้คุณหัวเราะร้องไห้ หรือทำให้คุณโกรธ แต่พยายามเป็นสามีที่ใส่ใจคุณ เป็นพ่อที่เป็นผู้ใหญ่ของลูก

        หลายปีผ่านไป พวกคุณแก่ตัวลง แต่เขายังจูงมือคุณ ยิ้มแล้วบอกคุณว่า “ดีใจที่แต่งงานกับคุณ”

        คุณควรแต่งงานกับคนแบบนี้ ถ้าเขายังไม่มาปรากฏตัว ยอมไม่แต่งงาน ดีกว่าแต่งไปกับใครก็ไม่รู้

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR