เปิดใจ "อรชร เชิญยิ้ม" ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน จากพระเอกลิเก สู่ตลกสู้ชีวิต เลี้ยงดูคนทั้งครอบครัว

LIEKR:

ตลกอารมณ์ดี ตบมุกไวมากค่ะ

    หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

   ต้องบอกเลยว่าแต่งตัวแซ่บ มีสไตล์ที่ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ สำหรับ "อรชร เชิญยิ้ม" ตลกอารมณ์ดีที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค สู้ชีวิตชีวิตมามากมาย เพื่อให้ครอบครัวได้อยู่สบาย

    โดยล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ เผยความจนมันน่ากลัว เลยต้องสู้เพื่อให้ทุกคนสุขสบาย ไม่ท้อแม้เจอช่วงที่ลำบาก พร้อมเล่าอดีตครั้งเป็นพระเอกลิเก ทำให้เจอรักแรกที่เป็นถึงนางเอกลิเก แต่ก็เกือบพรากชีวิตของตัวเองไป

 

Sponsored Ad

 

    เล่าอาถรรพ์ในครอบครัว "ครอบครัวมีลูกผู้ชายอยู่ทั้งหมดสามคน ผู้หญิงสองคนแล้วก็ผู้ชาย คนที่สองกับคนที่สามจากไป เพราะว่ามี ภรรยา เราเลยคิดว่าถ้าเราเป็นผู้ชายแบบเขา เราก็คงจะอยู่ไม่รอดเหมือนกัน เลยตัดสินใจเป็นผู้หญิงแบบนี้ดีกว่า (อันนี้เรื่องจริงแม้แต่พ่อตัวเองยังไม่รอดเลย)" 

 

Sponsored Ad

 

    จุดเปลี่ยนในชีวิตของการเปลี่ยนแนว ก่อนหน้านี้เราก็เป็นผู้ชายแมนๆนี่แหละ ไม่เคยคิดเปลี่ยนเลย เพราะคุณพ่อไม่ชอบเขาอยากให้ลูกมีครอบครัว ตอนนั้นเราเคยชอบผู้หญิงคนหนึ่งเป็นนางเอกลิเก เราอยากจะแต่งงาน เราเคยคิดว่าถ้ามีชีวิตคู่ก็จะได้ดูแลกันไปตอนบั้นปลายชีวิต 

    สรุปสุดท้ายก็ไม่ได้ดั่งหวัง เพราะว่าบ้านเราอยากจน เราไม่มีเงินไปขอเขา แล้วผู้หญิงที่เราจะไปขอ เขาก็ไปเจอคนใหม่หนีไปแต่งงาน เราก็เสียใจมาก แต่ถือว่าเขาโชคดีแล้วที่ได้แต่งงานแล้วมีลูกมีครอบครัวที่ดี แล้วถ้าเราได้กับเขาเราคงไม่มีโอกาสได้มาตรงนี้

 

Sponsored Ad

 

    เล่าย้อนชีวิตตอนเด็กๆสมัย ป.6 เราทำงานตอนนั้นอายุ 14 เริ่ม 15 ได้เป็นพระเอกลิเก เรายังเด็กมาก เพราะครอบครัวเรายากจน เราก็ต้องหาเงินช่วยครอบครัวเรา เพราะพอพี่ชายเขาแต่งงานเขาก็ย้ายออกไปอยู่ที่บ้านภรรยาเขา โดยที่เรากับน้องสาวอยู่กับแม่ เราก็คิดว่าเงินเราก็ไม่ค่อยมี เราก็เลยให้น้องสาวเรียนดีกว่า เราก็ออกมาทำงานหาเงิน แบกปุ๋ยบ้าง หาบข้าวบ้าง 100 บาทกว่าจะได้เนอะ 

 

Sponsored Ad

 

    ตอนเข้าวงการลิเกใหม่ๆ เราก็ไม่มีแม่ยก เพราะหน้าตาเรานี่แหละ (หัวเราะ) แต่ต่อมาไปเจอกับคณะน้านงค์ เชิญยิ้ม เราก็ไปอยู่ในคณะเขาเป็นพระเอก พอเราเล่นมาเล่นไปโจ๊กในคณะเขาไม่มี เพราะโจ๊กในคณะเขาไปรับงานเอง ตอนนั้นแรกๆ เลยเราชื่อทัด เขาก็บอกว่าให้เราเป็นโจ๊กให้หน่อย เราก็บอกว่าน้านงค์เป็นโจ๊กได้ยังไง นี่เรายังเป็นพระเอกอยู่นะ

    แต่น้านงค์แกก็บอกว่า จะเป็นพระเอกได้ยังไง ดูหน้าสิ จมูกก็โต ตัวก็เตี้ย เราก็บอกเขาว่าพรุ่งนี้จะให้คำตอบ พอกลับบ้านไปก็นั่งร้องไห้หน้ากระจก เขาดูถูกเรามากเลยนะ พอนั่งดูไปดูมาก็ที่เขาพูดมาก็จริงเหมือนกัน (หัวเราะ) 

 

Sponsored Ad

 

    เช้ามาก็ตัดสินใจไปว่า โอเค..น้านงค์เป็นโจ๊กให้ก็ได้ ตั้งแต่นั้นมาเป็นโจ๊กแล้วค่าตัวดีขึ้นตลอด รางวัลดีขึ้น มีคนชอบเราเยอะขึ้น ได้เงินดีจากที่เราเริ่มแรกเลยได้เงิน 50 บาท แต่พอมาเป็นโจ๊กเราได้เงิน 1000 บาทเลย ตอนที่เราเป็นโจ๊ก (การแต่งตัวก็เป็นผู้ชายปกติ) แล้วก็มีคนมาชอบ มีผู้หญิงมาชอบ แต่ใจของเราความรู้สึกเรายังต้องรับหน้าที่ดูแลครอบครัว จะมามีความสุขคนเดียวไม่ได้

 

Sponsored Ad

 

    ตอนนั้นเราเสียใจมากก็เลยตัดสินใจออกจากบ้าน ทิ้งงานลิเกไปเลย คือหนีมาเล่นลิเกในกรุงเทพฯ แล้วก็มาเจอน้ากล้วย เริ่มต้นบทใหม่ในชีวิต เป็น อรชร เชิญยิ้ม เพราะน้ากล้วยบังเอิญมาเจอเรา เพราะนางเอกลิเกคนนี้เราไปอาศัยเขาอยู่ เขาก็ชวนนางเอกไป แล้วเขาเห็นเราเขาเลยเอาเราไปด้วยเป็นตัวแถม

    น้ากล้วยเขาก็ถามว่าเราเป็นไหม เราก็บอกว่าก้ำกึ่งค่ะ น้ากล้วยเขาก็ตั้งชื่อให้เราว่าอรชรแล้วกัน พอเราไม่ได้แต่งตัวเป็นผู้หญิงจะไม่ค่อยมีชอบ แต่พอเราแต่งตัวเป็นผู้หญิงเป็นนางโกงก็มีผู้หญิงมาชอบชวนเราไปกินข้าวด้วยกัน แล้วตั้งแต่นั้นมาเราก็รู้สึกว่าถ้าเราเป็นแบบนี้เข้ากับคนได้ง่าย ได้เงินก็เยอะแล้วน้ากล้วยก็ผลักดันเราพาไปออกรายการก้ได้เจอพี่หม่ำ เราก็ได้เล่นหนังของพี่หม่ำด้วย เลยทำให้เป็นที่รู้จัก

Sponsored Ad

    ก่อนเจอจุดเปลี่ยนในชีวิต ยอมแมนๆเลยว่ามีความสุขสุดๆในการเป็นสาวประเภทสอง ไม่สนกับคำคน ใครจะว่ายังไง แถมยังทุกคำด่ามาเป็นพลังบวก ส่วนครอบครัวนั้นตนยังต้องดูแลลูกหลานมากมาย ไม่เคยคิดมองว่าเป็นภาระ แต่มันคือความรับผิดชอบ ทุกวันนี้ด้านลูกสาวไม่โดนเพื่อนล้อ มีพ่อเป็นตุ๊ดแล้ว แถมเขายังเข้าใจในตัวตนของพ่ออย่างเราอีกต่างหาก ถึงเหนื่อยแต่ก็มีความสุขใจ สรุปทุกวันนี้ ยอมรับว่าเป็นค่ะ เป็นเลยดีกว่า หาเงินได้เยอะ แล้วก็สวยด้วย 

.

.

.

.

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : ต้มยำอมรินทร์

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ