หนุ่มแบกจักรยานคู่ใจขาย “พิซซ่าเวียดนาม” หาเงินส่งเสียตัวเองเรียนปริญญา

LIEKR:

ใครเจอน้องอย่าลืมไปอุดหนุนน้องด้วยนะคะ

    เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน สำหรับน้องเปา หรือ นายพุทธลักษณ์ งามสุขขี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาระบบควบคุม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)

    ที่แม้ทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ แต่ก็ใช้เวลาหลังเลิกเรียนเข็นรถจักรยานคู่ใจที่แบกทั้งความหวังและอนาคตเพื่อไปขาย “พิซซ่าเวียดนาม” หาเงินส่งเสียตัวเอง

 

Sponsored Ad

 

กว่าจะเป็น “ชายเดี่ยว พิซซ่าเวียดนาม”

    พุทธลักษณ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นการตั้งหน้าตั้งตาทำงานว่า อยากแบ่งเบาภาระของครอบครัว “ผมเห็นครอบครัวกู้หนี้นอกระบบเพื่อมาจ่ายค่าเทอม ผมสะเทือนใจมาก จุดนี้เลยทำให้คิดว่า ผมต้องหารายได้เพื่อแบ่งเบาท่าน”

 

Sponsored Ad

 

    เด็กหนุ่มจากมุกดาหารจึงตั้งใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาร่ำเรียนวิชาหวังจบการศึกษาสูงๆ เพื่อยกระดับชีวิตครอบครัวให้สุขสบาย พร้อมกับกัดฟันสู้ทำงานเป็นหนุ่มบาร์น้ำทำงานตั้งแต่ 4 โมงเย็น ถึงตี 3 เป็นระยะเวลาอยู่สักพัก

    นักศึกษาหนุ่มวัย 21 ปี บอกถึงจุดเริ่มต้นการมาทำพิซซ่าเวียดนามขายว่า ระหว่างตอนทำงานบาร์น้ำเห็นเพื่อนชาวเวียดนามทำ “บั๊นจร้างเนื้อง” มาให้กินตลอดซึ่งเป็นเมนูที่มีแค่ผัก กุ้ง และเติมอะไรเล็กๆน้อยๆแค่นั้น จึงคิดเริ่มทดลองและนำมาดัดแปลง

 

Sponsored Ad

 

    “ตอนแรกผมลองชิมดูรสชาติมันแปลกใหม่ดี และก็คิดว่ายังไม่เคยเห็นมีขายในประเทศไทย นี่จึงเป็นการจุดประกายทำให้ผมลองเอามาทำขาย”

 

Sponsored Ad

 

    การที่คนใดคนนึงจะประสบความสำเร็จได้นั้น อย่างแรกต้องมีความสามารถในการมองเห็นโอกาส โอกาสที่จะทำ แม้ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นศูนย์แต่สำหรับ ”เปา-พุทธลักษณ์” เขามองเห็นโอกาสและไม่หยุดนิ่ง เขาพัฒนาจนสามารถสร้างเมนูหอมอร่อยนี้ออกสู่ท้องตลาดให้คนละแวกลาดกระบังได้เชยชิม

    “สำหรับการขายช่วงแรกๆ มันก็ยาก เพราะลูกค้าไม่รู้จัก ต้องใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าลูกค้าจะคุ้นเคยกับพิซซ่าเวียดนามของผม”

 

Sponsored Ad

 

“ใส่ใจ” จุดแข็ง “พิซซ่าเวียดนาม ชายเดี่ยว”

    สิ่งที่สำคัญอันดับแรกเลยคือความจริงใจ เปา ใช้ความจริงใจ ซื่อตรงต่อลูกค้า เพราะความจริงใจนั้นเป็นคุณสมบัติอย่างแรกที่คนเราสามารถสัมผัสได้แม้ไม่ได้เอ่ยปากออกมา

 

Sponsored Ad

 

    “ผมจะต้องเช็คดูก่อนว่า แป้งมันต้องกรอบ ไม่แตก ไม่ไหม้ เพราะถ้ามันไม่ดีจริงๆผมจะไม่กล้าส่งให้ลูกค้าเลย เรายอมเสียส่วนนั้นดีกว่าได้แค่ครั้งเดียว”

    สำหรับไส้พิซ่าเวียดนามมีให้เลือกหลากหลาย อาทิ ไส้หมูสับ หมูยอ แหม ปูอัด ไส้กรอก รวมไปถึงไส้มอสซาเรลล่าชีส ส่วนราคาไม่แพงอยู่ที่ 25-50 บาท

Sponsored Ad

ถ้าตั้งใจทุกอย่างก็ไม่ยาก

    ถ้ามีความตั้งใจ ไม่อายทำกิน การประสบผลสำเร็จนั้นไม่ยากเกินเอื้อมเช่นเดียวกับ “เปา” ที่เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่มีเพียงสองมือกับรถจักรยานคู่ใจและการเปิดใจ ที่กล้าริเริ่มทดลองค้นหาตัวเองจากการเปิดร้านพิซซ่าเวียดนามเล็กๆ จนกลายเป็นที่รู้จักและสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้โดยไม่เดือดร้อนครอบครัวแม้จะเป็นแค่เพียงชายหนุ่มนักศึกษา

.

    “รายได้จากการขายพิซซ่าเวียดนาม ก็พอต่อการเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่รบกวนทางบ้าน คือผมขายเสร็จผมจะหักค่าแรงไว้วันละ360บาท ที่เหลือกำไรจะเก็บเข้าคลังหลัก

    มันก็สามารถทำให้เรามีเงินไว้ใช้สำหรับส่วนตัวของเราเอง มีเก็บไว้เป็นค่าเทอมแล้วก็เก็บไว้เป็นทุนกองหลัก เผื่อครอบครัวต้องการเราก็จะได้ส่งกลับไปทางบ้านได้ด้วยครับ โดยไม่เดือดร้อนพ่อแม่”

    เปา ทิ้งท้ายสำหรับเพื่อนๆที่กำลังเรียนอยู่และอยากลองทำธุรกิจ อยากให้ลองค้นหาตัวเองดูว่ามีความชื่นชอบเรื่องอะไร ถ้ามีความชอบหรือความสนใจอะไรนั้น ก็ทำมันออกมาและจะดีแน่นอนครับ

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก workpointnews, Wongnai, newsclear

บทความที่คุณอาจสนใจ