"หมอกุ๊บกิ๊บ" ยกมือไหว้เปิดใจ ขอโทษที่เห็นแก่ตัว ยอมรับคิดน้อยไป ยืนยันจะไม่ลาออกแล้ว

LIEKR:

"หมอเองก็น้อยใจว่า เราทำงานสุ่มเสี่ยงตรงนี้มาต่อเนื่อง แต่เราไม่สามารถที่จะเอาของเหลือก้นขวดทิ้งไปแล้วกลับมาฉีดให้กับแม่และพี่สาวเพื่อให้เขาปลอดภัย" #หมอกุ๊บกิ๊บ กล่าวทั้งน้ำตา

        เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกโซเชียลขณะนี้ สำหรับกรณีที่ "แพทย์หญิง" วัย 27 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช นำบุคคลในครอบครัวเข้ารับ "วัคซีนไฟเซอร์" ซึ่งเป็นวัคซีนสำหรับบุคคลากรทางแพทย์และบุคคลากรด่านหน้า 

        ซึ่งต่อมาแพทย์หญิงคนดังกล่าวได้เดินทางเข้าพบ นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมยอมรับว่า เป็นผู้นำวัคซีนไฟเซอร์ฉีดให้กับพี่สาวและคุณแม่จริง แต่มีเพียงพี่สาวเท่านั้นที่ได้ฉีด ส่วนคุณแม่ยังไม่ได้ฉีด เนื่องจาก ผอ.รพ.นบพิตำ สั่งห้ามฉีดให้บุคคลภายนอกเด็ดขาด ต่อมาแพทย์หญิงคนดังกล่าวได้ยื่นใบลาออกต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว

 

Sponsored Ad

 

        ล่าสุดแพทย์หญิงคนดังกล่าวได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วัคซีนดังกล่าวเหลือก้นขวดที่ต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ตนจึงคิดว่าน่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กว่าทิ้งถังขยะ โดยหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนให้บุคลากรด่านหน้าของ รพ.นบพิตำ จำนวน 66 คนครบแล้ว ตนก็ได้ถามทีมฉีดวัคซีนว่า มีวัคซีนเหลือก้นขวดบ้างไหม ทีมฉีดก็ตอบว่า บางขวดก็เหลือ บางขวดไม่เหลือ ตนเลยถามว่า ขวดที่เหลือหมอขอได้ไหม เพื่อจะฉีดให้คุณแม่กับพี่สาว 

 

Sponsored Ad

 

        จากนั้นตนก็ได้โทรหาพี่สาวให้ขับรถพาคุณแม่มาด้วย โดยบอกว่า มีวัคซีนก้นขวดที่เขาทิ้งแล้วจะฉีดไหม พี่สาวบอกว่าเอา และด้วยความบริสุทธิ์ใจก็เอาวัคซีนก้นขวดที่เหลือที่ทิ้งถังขยะมาฉีดให้พี่สาว และเมื่อพี่สาวมาถึง ตนก็ให้พี่สาวเข้าไปนั่งในจุดที่ฉีดวัคซีนด้วย ซึ่งตอนนั้นทุกคนก็นั่งอยู่ ตนไม่ได้ไปแย่งใคร หากตนไม่บริสุทธิ์ใจจริง ๆ ตนคงพาพี่สาวไปฉีดบริเวณที่ไม่ให้ใครเห็น แต่ด้วยความที่บริสุทธ์ใจและคิดน้อยไปตนจึงให้พยาบาลฉีดให้พี่สาวตรงนั้น จนทำให้คนบางคนที่ไม่เข้าใจ บอกว่าตนไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้ามา

 

Sponsored Ad

 

        ทั้งนี้แพทย์หญิงคนดังกล่าวยังได้ยอมรับว่า ให้พี่สาวพาคุณแม่มาด้วย แต่คุณแม่ยังไม่ได้ฉีดตามที่เป็นข่าวออกไป เพราะหลังฉีดให้พี่สาว ก็มีเจ้าหน้าที่ไปรายงานให้ ผอ.รพ.ทราบว่ามีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ของบุคลากรด่านหน้าให้บุคคลภายนอก ซึ่งเขาก็ทำถูกต้องแล้ว จนทาง ผอ.รพ. กำชับไม่ให้ฉีดให้บุคคลภายนอก 

 

Sponsored Ad

 

        ทั้งนี้แพทย์หญิงคนดังกล่าวก็ได้เผยว่า ตนน้อยใจว่าทำงานสุ่มเสี่ยงตรงนี้มาต่อเนื่อง แต่ตนไม่สามารถที่จะเอาวัคซีนก้อนขวดทิ้งไปแล้วกลับมาฉีดให้กับคุณแม่และพี่สาวของตนเพื่อให้เขาปลอดภัย เพราะทุกวันที่หมอมาทำงานที่โรงพยาบาลคลุกคลีกับผู้ป่วย รวมทั้งบุคลากรที่ติดเชื้อก็มีหมอต้องกลับไปนอนกับคุณแม่กับพี่สาว

        ที่ผ่านมาตนก็เป็นคนเสี่ยงและเสียสละอยู่ด่านหน้า แต่ตนไม่สามารถที่จะดูแลปกป้องคนในครอบครัวของตนได้ นี่คือความเห็นแก่ตัวของตนเอง ตนขอโทษประชาชนทุกคนจริง ๆ ที่ตนเห็นแก่ตัว มันเป็นประเด็นที่อ่อนไหวจริง ๆ

 

Sponsored Ad

 

        ก่อนจะกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนน้อยใจและเสียใจมากที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น จึงได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกและกลับไปบ้าน คิดทบทวนตัวเองว่าสิ่งที่ตนทำมันถูกหรือไม่ ตนชิงลาออกแบบนี้ ตนได้อะไรกับการลาออก ประกอบกับหมอที่โรงพยาบาลมีน้อยมาก ถ้าตนออกจะมีหมอไม่เพียงพอ เพราะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก มีหมอไม่กี่คน หากหมอออกไปอีกคนก็จะไม่มีคนที่จะช่วยงานในส่วนเหล่านี้ ล่าสุดตัดสินใจกลับมาโรงพยาบาลและไปเอาใบลาออกกลับคืนมา

Sponsored Ad

        "หมอจะสู้ต่อเพื่อคนนบพิตำ เพื่อคนไข้และจรรยาบรรณของหมอ แม้ว่าจะถูกโจมตีอย่างหนัก ต้องกราบขออภัยด้วย และยืนยันว่าหมอไม่ได้ไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้า เพราะทุกคนเป็นคนที่หมอรัก หมอรู้จัก เป็นเพื่อนร่วมงาน หมอไม่มีทางที่จะแย่งของเขามาอย่างแน่นอน หมอขอโทษที่คิดน้อยไปที่ว่าการที่เราไปหยิบวัคซีนที่เขาทิ้งถังขยะมันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิด ไม่ดี" แพทย์หญิงคนดังกล่าว กล่าวทั้งน้ำตา

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : Thairath Onlineเรื่องเล่าเช้านี้

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ