LIEKR:
หมายเหตุ:สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ
แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นบ้านไหน ตู้เย็นที่บ้านต้องมีการเสียบปลั๊กไว้ตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่ทำไม พอใช้ไปนานๆ ค่าไฟกลับสูงจนน่าตกใจ เพราะหลายคนไม่เคยสังเกตเลยว่า "ตู้เย็น" ของบ้านตนเองนั้นมีการ "รั่วซึม" หรือเปล่า?
วิธีการตรวจสอบทำได้ง่ายมากๆ แค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
Sponsored Ad
1. ก่อนอื่น นำกระดาษ A4 มาเป็นอุปกรณ์ในการทดสอบ
2. เปิดตู้เย็น จากนั้นเสียบกระดาษเข้าไปครึ่งหนึ่งของกระดาษเสร็จแล้วก็ปิดประตูตู้เย็น
3. รอสักครู่ ดึงกระดาษออกมา หากยางขอบประตูยังดีอยู่ก็จะดึงออกยาก เพราะมันจะหนีบกระดาษแน่น แต่ถ้าหากดึงกระดาษออกมาได้อย่างง่ายดาย นั้นแสดงว่ายางขอบประตูเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว คุณควรเปลี่ยนยางขอบประตูตู้เย็นได้แล้ว
Sponsored Ad
4. อีกวิธีหนึ่งคือ ตั้งขาตู้เย็นให้ด้านหน้าสูงกว่าด้านหลัง – พอเราตั้งตู้เย็นในลักษณะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย (ด้านหน้าสูงกว่าด้านหลัง) ประตูตู้เย็นก็จะปิดลงมาตามแรงดึงดูดของโลก ฝาประตูตู้เย็นจะกดลงมาทำให้ปิดได้แน่นขึ้น ซึ่งวิธีนี้ก็ช่วยให้ประตูตู้เย็นปิดได้สนิทมากขึ้นด้วย
Sponsored Ad
5. หลังจากเรามั่นใจแล้วว่าตู้เย็นของเรารั่วแน่นนอน แต่ไม่อยากเสียเงินเปลี่ยนยางใหม่หมด ให้ถอดขอบยางประตูตู้เย็นออกมาล้างทำความสะอาดแล้วแช่น้ำร้อนไว้ ให้ยางขยายตัวแล้วใส่กลับเข้าไป ก็จะช่วยให้ปิดรูรั่วได้สนิทยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเสียตังซื้อขอบยางประตูตู้เย็นใหม่
ทว่าวิธีนี้อาจจะทำให้ไฟรั่วได้ ดังนั้นควรจะต่อสายดินให้ถูกวิธี และตรวจสอบกระแสไฟจากผนังตู้เย็นกันให้ดีเพื่อป้องกันไว้ก่อน
Sponsored Ad
ในการเลือกซื้อตู้เย็นนั้นเราจะมีวิธีการเลือกที่มากมาย ทั้งขนาด,สไตล์,คุณสมบัติและอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่คุณควรคำนึงถึง ซึ่งมันมีความสำคัญอย่างมากที่ไม่ควรมองข้าม นั้นก็คือ “ยางขอบประตูตู้เย็น” จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของตู้เย็น เพราะว่าหากปิดไม่มิดชิด ก็จะส่งผลต่ออุณหภูมิภายในได้และอายุการใช้งานอื่นอีกด้วย เรามีอีกหนึ่งคลิปวิธีแก้ปัญหาตู้เย็นกินไฟง่ายๆ ไปชมกันเลย
ชมคลิป
คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<
ที่มา : คุณเชิดศักดิ์ มะลิทอง