ชีวิตล่าสุด "น้องชายฟ่านปิงปิง" หลังพี่สาวหมดบารมีในวงการจีน ดิ้นรนด้วยตัวเองจนผู้คนยอมรับ

LIEKR:

"ตามกฎหมายจีนแล้ว ทำให้คุณแม่ไม่อยากเก็บน้องไว้..." -ฟ่านปิงปิง-

    การมีพี่น้องเป็นคนดังสำหรับบางคนอาจเป็นเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ไม่ใช่กับศิลปินหนุ่ม ฟ่านเฉิงเฉิง (Fan Chengcheng) น้องชายของ ฟ่านปิงปิง (Fan Bingbing) อดีตซูเปอร์สตาร์หญิงอันดับ 1 ของเมืองจีน เพราะทางของเขาเต็มไปด้วยการพิสูจน์ตัวเองแบบไม่มีวันจบ จากการที่ถูกมองว่าตัวตนของเขาอยู่ในเงาของพี่สาวเสมอ

บทพิสูจน์เส้นทางแห่งดวงดาวของ ฟ่านเฉิงเฉิง ในวันที่ ฟ่านปิงปิง ไร้บารมี

 

Sponsored Ad

 

ความสัมพันธ์ ลูกชาย VS น้องชาย?

    ฟ่านเฉิงเฉิง เกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2000 เป็นลูกชายคนเล็กของ ชวนเหม่ย จาง และ ฟ่านเถา มีพี่สาวแท้ๆ 1 คนชื่อ ฟ่านปิงปิง ทั้งคู่มีอายุห่างกันถึง 19 ปี ซึ่งตรงนี้เองทำให้มีข่าวลือตามมาว่า น้องชายร่วมสายเลือดแท้จริงแล้วอาจจะเป็นลูกลับๆ ของฟ่านปิงปิงมากกว่า โดยมีการหยิบยกข้อมูลว่าตามกฎหมายจีนบังคับให้มีทายาทได้แค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งในเวลาต่อมานางเอกอันดับหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยความจริงว่า เดิมทีคุณแม่ไม่อยากเก็บน้องไว้ แต่เธอพยายามเกลี้ยกล่อมจนคุณแม่เปลี่ยนใจ และฝ่าฝืนกฎดังกล่าว สุดท้ายครอบครัวจึงจ่ายค่าปรับจากการละเมิดกฎดังกล่าว

 

Sponsored Ad

 

คำเตือนจากพี่สาว วงการบันเทิงไม่ได้น่าพิสมัยอย่างที่คิด?

    ไม่ว่า ฟ่านปิงปิง จะโด่งดังคับฟ้าเมืองจีนแค่ไหน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีกลุ่มคนที่ไม่ชอบเธอจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะการไปเดินพรมแดงที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ แม้จะเป็นงานแจ้งเกิดให้โลกได้จดจำเธอ แต่เพื่อนร่วมชาติหลายคนกลับไม่เห็นด้วย หลายคนถึงกับตั้งคำถามว่า “เธอไปร่วมงานทำไมทั้งที่ไม่มีผลงานฉายสักเรื่องเดียว!” ไม่ใช่แค่ชาวเน็ตเท่านั้นแต่ซูเปอร์สตาร์รุ่นพี่ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองจิกกัดเธอเช่นกัน

 

Sponsored Ad

 

    นักแสดงเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่าชีวิตในวงการบันเทิงทั้งยากลำบากและน่าเศร้า ดังนั้นด้วยความที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ทำให้ ฟ่านปิงปิง ไม่อยากให้น้องชายเข้าวงการบันเทิงเหมือนกับเธอ ที่ผ่านมาเธอพยายามไม่เปิดเผยหน้าตาของเฉิงเฉิง แต่ด้วยความสามารถที่โดดเด่นบวกกับดีเอ็นเอครอบครัวที่หน้าตาดียกบ้าน ทำให้เธอไม่สามารถปิดบังความโดดเด่นของเขาได้อีกต่อไป

 

Sponsored Ad

 

เลือดศิลปิน หรือ เกิดมาเพื่อเป็นดาว?

    ถึงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่รู้จักเขาในฐานะน้องชายของซูเปอร์สตาร์ แต่หากไม่ได้มีความสามารถจริงๆ ก็คงไปต่อได้ยาก เพราะไม่มีใครที่จะสามารถอยู่ใต้เงาคนอื่นไปได้ตลอดชีวิต

    เฉิงเฉิงเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เขาชื่นชอบและสนใจด้านดนตรีมากๆ โดยก่อนที่จะร่วมแข่งขันในรายการ Idol Producer เขาเคยเป็นเด็กฝึกกับทีมเกาหลีประมาณ 1 ปี

 

Sponsored Ad

 

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

    ศิลปินหนุ่มคนนี้มีความสามารถที่หลากหลายมากๆ ร้องเพลงดี แต่งเพลงเองก็ได้ แถมยังสามารถพูดได้หลายภาษา ไม่ว่าจะเป็น จีน , เกาหลี , อังกฤษ บวกกับหน้าตาและความสูง 190 ซม. ทำให้เขาโดดเด่นในหมู่ดาวรุ่งรุ่นใหม่มากๆ 

    ทว่าถึงจะครบเครื่องขนาดนี้ แต่เขากลับขาดความมั่นใจ แม้เขาจะภูมิใจที่มีพี่สาวเก่ง ทว่าก็ต้องแบกความกดดันไว้มากเช่นกัน โดยในรายการ Idol Producer “จางอี้ชิง”หนึ่งเมนเทอร์ ก็ได้ให้ความมั่นใจกับนักร้องหน้าใหม่คนนี้โดยบอกว่า ” มีคนโหวตให้นายตั้ง 99 อีกคนก็จะ 100 แล้ว มั่นใจตัวเองได้แล้วนะ” นั่นจึงทำให้เขามีแรงผลักดันในการทำสิ่งต่างๆ (ข้อมูล: hayashihana จาก Ninepercent 的女人 THAILAND)

 

Sponsored Ad

 

มรสุมชีวิตครอบครัวฟ่าน

    เดบิวต์มาได้ไม่ทันไร เฉิงเฉิงก็ต้องเผชิญกับปัญหาครั้งใหญ่ เมื่อฟ่านปิงปิงพี่สาวของเขาถูกสรรพากรจีนตรวจสอบเกี่ยวกับภาษี และถูกสั่งปรับเป็นจำนวนมากถึง 4,200 ล้านบาท นั่นทำให้นางเอกคนดังถูกวิพากษ์วิจารณ์ยับเยินในฐานะผู้ที่มีพฤติกรรมทุจริต จนถึงปัจจุบันเธอถูกแบนจากสื่อหลักในเมืองจีน งานพรีเซ็นเตอร์ที่เคยมีไม่ขาดสายตอนนี้ก็แทบไม่เหลือ

Sponsored Ad

ภาพจาก Nation22

    ผลกระทบไม่ได้อยู่แค่ที่ ฟ่านปิงปิง เท่านั้น แต่เฉิงเฉิงถูกห้ามออกนอกประเทศและไม่ออกรายการใดๆ ในช่วงที่เกิดข่าว โดยในงานแฟนมีตติ้งของวง NEX7 เขาได้ร้องไห้ออกมาถึง 2 ครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไม แต่ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวมรสุมชีวิตของครอบครัวเขา ซึ่งเขาบอกว่า เขาไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้เจอกับแฟนๆ อีกไหม แต่เขาก็เชื่อว่ายังมีโอกาส ในช่วงนี้มีเรื่องราวมากมาย บางทีมันอาจจะทำให้เขารู้สึกมั่นใจ เพราะไม่ได้เจอกับทุกคนมานานมากแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่รู้เลยว่าจะพูดเรื่องทั้งหมดนี้กับใครดี

Fan Chengcheng ในวันที่พี่สาวไร้บารมี เป็นอย่างไร?

    แม้วันนี้ชื่อของพี่สาวจะมีได้อิมแพ็คกับผู้คนเท่าเมื่อก่อนแล้ว แต่ดาราหนุ่มคนนี้ก็ยังยืนหยัดในวงการบันเทิงได้จากสามารถของตัวเอง จากผู้เข้าร่วมรายการ ” Idol Producer ” กลายเป็นสมาชิก “Ninepercent” เดบิวต์เป็นบอยกรุ๊ปของประเทศจีน “NEX7 ”

    นอกจากผลงานแบบกลุ่มแล้ว เขายังมีผลงานเดี่ยวที่พิสูจน์ตัวเองได้ดีอีกด้วย ในปี 2018 เขาได้ปล่อยผลงานที่มีชื่อว่า “I’M HERE” ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟัง ซึ่งเขามีส่วนร่วมในการเรียบเรียงและแต่งเนื้อเพลง และมียอดขายได้กว่า 1 ล้านก๊อบปี้ในเวลาเพียง 5 นาทีหลังปล่อยเพลง เรียกว่าเป็นประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะศิลปินหน้าใหม่

    อย่างไรก็ตามเฉิงเฉิงสร้างเซอร์ไพร้ส์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องแน่นอนล่าสุดเขามีผลงาน “Can’t Slow Down” กับค่าย “Rock Forward Entertainment” โดย “Can’t Slow Down” มีเนื้อเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเฉิงเฉิง ทำนองแร็ปติดหูทำให้อินกับเพลงได้ไม่ยาก เสียงเครื่องยนต์รถสปอร์ตคำรามและเสียงบรรยากาศการแข่งรถที่สร้างโดย 808 drum machine ย้ำให้รู้สึกถึงความเร็ว เนื้อเพลงอัดแน่นด้วยรายละเอียดมากมายที่อุทิศให้กับเพลงดังระดับตำนานอย่าง “Smooth Criminal” ของราชาเพลงป๊อป “ไมเคิล แจ็คสัน”, “Let’s Get It On” ของ “มาร์วิน เกย์ “และ “Dead and Gone” ของ “T.I.” ซึ่งจะผลงานนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับหรือไม่คงต้องไปพิสูจน์กันดู

.

.

ที่มา : นิตยสารแพรว

บทความที่คุณอาจสนใจ