เปิดใจ เจนี่ ณ ป้อมเพชร กับบทบาทคุณแม่มือใหม่ของ "น้องโนล่า" ความสุขที่ตามหาทั้งชีวิต

LIEKR:

น่ารักทั้งคุณแม่เจนี่ทั้งหนูน้อยโนล่าเลยค่ะ

        สำหรับคุณแม่มือใหม่อย่างสาว "เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร" ที่มักจะโพสต์ภาพ น้องโนล่า-เด็กหญิงณเพชร ณ ป้อมเพชร ลูกสาวตัวน้อยให้แฟนคลับได้เห็นความน่ารักน่าเอ็นดูกันบ่อยๆ วันนี้สาวเจนี่ก็ได้ออกมาเปิดใจอัปเดตชีวิต กับบทบาทสำคัญที่ทำให้ค้นพบความสุขที่ตามหามาทั้งชีวิต

        เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร คุณแม่มือใหม่อธิบายถึงชีวิตวันนี้ ที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังแทบไม่เชื่อว่าจะมีวันนี้จริงๆ วันที่ได้ทำหน้าที่คุณแม่เต็มตัวของน้องโนล่า-เด็กหญิงณเพชร ณ ป้อมเพชร และหน้าที่ภรรยาของสามีสุดที่รัก มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร “ตอนนี้มีความสุขที่สุดเลยค่ะ”

 

Sponsored Ad

 

        “ถ้าย้อนกลับไปถึงชีวิตที่ผ่านมา เจนี่คิดว่าตัวเองเจออะไรมาแบบครบทุกรส คือผ่านมาหมดแล้ว ทั้งการทำงาน อุปสรรค เรื่องราวต่างๆ ในชีวิต ก่อนจะลงเอยที่การมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ...ชีวิตคนเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีก นอกจากมีชีวิตคู่ที่ดี มีคนที่รักเรา มีลูกด้วยกัน นี่คือชีวิตที่เจนี่ฝันมาตลอด แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง จนถึงเวลาที่ฟ้าส่งมาให้

 

Sponsored Ad

 

        "บอกได้เลยว่าตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากๆ ดีแบบคาดไม่ถึง โดยเฉพาะเมื่อมีลูกเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตของเราสมบูรณ์แบบ ทุกเช้าเวลาเจนี่เห็นพ่อกับลูกอยู่ด้วยกันจะรู้สึกทุกครั้งว่า ทำไมเราโชคดีขนาดนี้ มีทั้งคนรักที่ดี มีลูกที่น่ารัก โดยเฉพาะเวลาที่มองโนล่า มันคือความรู้สึกที่มหัศจรรย์มากๆ เป็น Unconditional Love จริงๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ในสายตาของใครคนอื่น แต่สำหรับเจนี่ นี่แหละ…คือความสมบูรณ์แบบและความสุขที่สุดในชีวิต

        “ก่อนหน้านี้คิดภาพตัวเองตอนมีลูกไม่ออกเลยนะคะ อย่างเวลาได้อยู่กับหลานๆ เจนี่ก็ว่าตัวเองมีความสุขมากแล้วนะ แต่พอมีลูกเอง เข้าใจเลยว่าความรักของแม่เป็นอย่างไร ยิ่งใหญ่ขนาดไหน รู้แล้วว่าจะทำงานเพื่ออะไร ทำเพื่อใคร อยู่เพื่อใคร ลูกคือคำตอบของทุกอย่างในโลกของเจนี่เลยค่ะ ที่สำคัญคือบอกตัวเองว่า เราต้องอยู่เพื่อลูก”

 

Sponsored Ad

 

        แสดงว่าเมื่อก่อนมีคำถามกับตัวเองค่อนข้างเยอะ

        “ใช่ค่ะ…ความที่ทำงานในวงการมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ซึ่งเจนี่ก็รักหน้าที่การงานตรงนี้มากๆ นะ พอถึงจุดหนึ่งรู้สึกว่าชีวิตเริ่ม Slow Down เลือกรับงานมากขึ้น เลือกบทที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ เพราะด้วยประสบการณ์และอายุที่โตขึ้น ทำให้เราไม่ได้รับงานทุกอย่างเหมือนตอนวัยรุ่นแล้ว จึงกลายเป็นว่าทุกสิ่ง ที่เราทำตอนนี้คือสิ่งที่เรารักจริงๆ

        “และพอทำงานมา อยากได้อะไรก็ซื้อ อยากทำอะไรก็ทำ ตอบทุกความต้องการของตัวเอง จนเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วถึงจุดที่รู้สึกว่าเรามีทุกอย่างครบแล้วอะ จนบางครั้งรู้สึกว่ามันใกล้จะล้นแล้ว จึงเกิดคำถามกับตัวเองว่า…แล้วยังไงต่อ ทำงานไปทำไม ซื้อของเพื่ออะไร แต่พอมีลูก…ทำให้เจนี่เข้าใจทุกอย่างเลยนะ ตอบคำถามตัวเองได้ทุกข้อว่าตอนนี้เราทำทุกอย่างเพื่อลูก เพื่อโนล่า”

 

Sponsored Ad

 

        ชื่อ “โนล่า” มาจากอะไรคะ

        “ตอนตั้งชื่อลูก เจนี่คิดแค่ว่าอยากให้มีชื่อพ่อกับแม่ผสมกัน ซึ่งโนล่ามาจากชื่อของมิกกี้ผสมกับเจนี่ค่ะ (ยิ้ม) มิกกี้ชื่อจริงว่านนท์ มีตัว ‘น’ แต่ทีแรกพอจะหยิบมาผสมกับ ‘จ’ ในชื่อเจนี่ รวมกันเป็น ‘จน’ (หัวเราะ) คงไม่ดีมั้ง เปลี่ยนๆ แล้วจู่ๆ ก็พูดชื่อ ‘โนล่า’ ออกมา ซึ่งคล้องกับชื่อจริงของพ่อเวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ Nol ส่วนลูก Nola รู้สึกว่าน่ารักดี ก็เลยเลือกชื่อนี้ค่ะ” (ยิ้ม)

        ตอนนี้กิจวัตรประจำวันของคุณแม่มือใหม่เป็นอย่างไร

 

Sponsored Ad

 

        “จากเมื่อก่อนเวลาทำอะไร ทั้งหมดคือทำเพื่อตัวเอง แต่เดี๋ยวนี้คิดถึงแต่ลูกค่ะ ตื่นเช้ามาต้องทำอะไรให้ลูกบ้าง จะซื้ออะไรให้ลูกดี ต้องอาบน้ำ เตรียมนมให้ลูกก่อนนะ แล้วค่อยทำของตัวเอง คือลูกต้องมาเป็นอันดับหนึ่งในทุกเรื่อง ตอนนี้กิจวัตรประจำวันของเจนี่เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ โดยมิกกี้จะตื่นก่อน ประมาณตี 5 มาล้างขวดนม จากนั้นเขาก็ออกกำลังกาย ส่วนเจนี่ตื่นมาก็ปั๊มนมให้เรียบร้อย แล้วค่อยสลับหน้าที่กัน ให้มิกกี้ดูลูก ส่วนเจนี่ไปออกกำลังกาย ถ้าบางวันที่มิกกี้ออกไปทำงาน เจนี่ก็ต้องทำภารกิจตัวเองให้เสร็จก่อน 9 โมงเช้า จากนั้นก็อยู่กับลูกทั้งวัน (ยิ้ม)

 

Sponsored Ad

 

        “เพราะบ้านเราไม่มีพี่เลี้ยง เจนี่กับมิกกี้ช่วยกันสองคน เนื่องจากเราอยากเข้าใจเขาในทุกๆ เรื่อง ไม่อยากพลาดสักนาทีของลูก ตอนนี้จึงตัวติดกันตลอดเวลา บางทีลูกนอน เราก็ต้องแอบงีบด้วยสักแป๊บ เพราะเจนี่ต้องปั๊มนมทุกๆ 3-4 ชั่วโมง จึงแทบไม่ได้นอนยาวเลย ตั้งใจไว้ว่าอยากให้ลูกกินนมแม่ให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ อาจจะถึง 1 ขวบ ยังไม่อยากให้เขากินนมผง”

        คุณพ่อมิกกี้ช่วยเลี้ยงลูกอย่างไรบ้าง

Sponsored Ad

        มิกกี้ : “ช่วงลูกเดือนแรก ผมกับเจนี่ก็หนักหน่อยครับ ได้นอนวันละ 3-4 ชั่วโมงสลับกัน แต่ตอนนี้โนล่าเริ่มนอนยาวตอนกลางคืนแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ผมนอนเยอะกว่าเมื่อก่อนอีก เพราะนอนหลับพร้อมลูกตั้งแต่ 2 ทุ่ม – ตี 5 (ยิ้ม) แต่เจนี่ต้องตื่นทุก 3 ชั่วโมงเพื่อปั๊มนมให้ลูก ผมก็เกรงใจเขานะ เลยถือว่าผมนอนกับลูกเผื่อละกัน” (หัวเราะ)

        เจนี่อธิบายเสริม “มิกกี้ดูแลได้ทุกอย่างค่ะ เราทำแทนกันได้ทุกเรื่อง ถึงบอกว่าเจนี่โชคดีมากที่เจอคนที่เหมือนกัน เหมือนเห็นตัวเองในตัวมิกกี้ เราจึงไม่ได้รักที่เขาเป็นเขาเท่านั้น แต่รักที่เขาเป็นเราด้วย เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไขเลยค่ะ”

        โนล่าเลี้ยงง่ายไหม

        “ง่ายนะคะ โนล่าเป็นเด็กอารมณ์ดี ยิ้มง่าย จะมีช่วงยากแค่สัปดาห์แรกหลังออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้าน เพราะทั้งเจนี่และมิกกี้ก็มือใหม่มาก แล้วช่วงนั้นลูกตื่นบ่อยทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เราก็ต้องปรับตัวหนักเหมือนกันค่ะ (หันไปคุยกับโนล่า) โนล่า…หนูตื่นบ่อยใช่ไหมคะ (โนล่าหันมองเจนี่ทันที) เขาเป็นเด็กที่มีอายส์คอนแท็กต์ค่ะ เวลาคุยกับเขา เขาจะมองตาเราตลอด”

        คุณพ่อกับคุณแม่ ใครหวงลูกสาวมากกว่ากัน

        เจนี่รีบยกมือ “เจนี่…หนักเลยค่ะ ทั้งหวง ทั้งห่วง ช่วงที่ออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้านใหม่ๆ ร้องไห้เลย อาจเพราะอาการเบบี้บลู ฮอร์โมนแปรปรวนมั้งคะ แบบว่าลูกตัวนิดเดียว ดูมือกับเท้าเขาสิ บอบบางมาก เราจะเลี้ยงเขาได้อย่างไร โอ้ย… กังวลไปหมดเลย (หัวเราะ) ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ปรับตัวยังไงดี จะหยิบจับอะไรกังวลไปทุกอย่าง คอยอ่านหนังสือ เสิร์ชข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอัพเดตตลอดเวลา

        พอมีลูก เจนี่เตรียมรับมืออย่างไรกับโลกโซเชียลที่เต็มไปด้วยคำพูดต่างๆ มากมาย

        “ถ้าลูกโตคงบอกเขาว่าอย่าสนใจ ซึ่งจริงๆ มันเป็นเรื่องปกติของโลกนะ การที่จะมีทั้งคนรักและคนเกลียด แต่สิ่งเหล่านั้นทำอะไรเจนี่ไม่ได้เลย เพราะเรารู้ว่าความสุขของเรา…อยู่เหนือทุกสิ่งบนโลกใบนี้ อย่าไปสนใจกับคำพูดของใครก็ไม่รู้ อย่างคอมเม้นต์ต่างๆ ในโซเชียล เจนี่ไม่สนใจเลยค่ะ ใช้วิธีตัดออก จากชีวิต และไม่เคยคิดจะโต้ตอบกับใครที่เราไม่รู้จักอยู่แล้ว

        “เจนี่คุยเฉพาะกับคนที่เรารักและเขารักเรา ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะนั่งเครียด หรือหาคำอธิบายให้คำพูดร้ายๆ ในโซเชียล เพราะเรามีแต่จะเสียใจนะ คนที่ทำเขาไม่เสียอะไรเลย มันเป็นเกมของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา จึงไม่รู้ว่าจะเอาชีวิตตัวเองไปแลกกับสิ่งนั้นทำไม

        “จริงๆ ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ ทุกคนมีความแข็งแกร่งในตัวเองอยู่แล้ว เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่ธรรมชาติสร้างมาให้คุณแม่ทุกคน แต่ความที่เราเป็น ‘เจนี่ เทียนฯ’ เลยบวกความแกร่งเข้าไปอีก (หัวเราะ) แบบว่าเราต้องอยู่เหนือเรื่องพวกนี้ให้ได้ พอไม่เครียด ไม่กังวล ไม่ทุกข์ เราก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หน้าก็จะไม่เหี่ยว เด็กตลอดไป” (ยิ้ม)

        สุดท้ายมีความสุขขนาดนี้ อยากมีน้องอีกคนไหม

        “อาจจะ…แต่เดี๋ยวก่อนดีกว่าค่ะ เจนี่อยากเลี้ยงโนล่าให้ดีที่สุด อยากให้เขาได้รับความรักจากพ่อและแม่เต็มที่ เพราะโนล่าคือทุกอย่างในชีวิตค่ะ”

ที่มา : janienineeleven, praew

บทความที่คุณอาจสนใจ