ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกก็รณรงค์ หรือมีกฎหมายบังคับให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องไปเยือนยังสถานที่ต่างๆ แต่ล่าสุดมีประเทศหนึ่งที่ประชาชนไม่คารพกฎระเบียบ ไม่ยอมใส่หน้ากากตามที่รัฐบาลสั่ง จึงทำให้เห็นภาพเหล่านี้เกิดขึ้นไปทั่วโลก

    สื่อต่างประเทศเปิดเผยภาพประชาชนชาวอินโดนีเซียที่ถูกทำโทษหลังจากฝ่าฝืนไม่ยอมทำตามกฎระเบียบ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกตระเวนตามหาคนเหล่านั้นที่ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ด้วยการทำโทษด้วยการปรับเป็นเงินและให้ไปวิ่งระยะทาง 800 เมตร การวิดพื้น บ้างก็ให้ไปทำความสะอาดท่อระบายน้ำสาธารณะ รวมถึงทำความสะอาดบริเวณพื้นที่สาธารณะด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่คิดว่านั่นก็ถือเป็นการช่วยสังคมไปในตัวด้วย

    บทลงโทษนี้กลายเป็นข้อถกเถียงในสังคมโซเชียล แต่ยังมีการลงโทษที่หนักหนาที่สุด นั่นก็คือ ให้ไปนอนในโลงศพ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการไม่ยอมสวมใส่หน้ากากอนามัย

    เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ Suyono กล่าวว่า ตอนนี้มีคนที่โดนลงโทษ 3 รายแล้ว และหวังว่านี้จะเป็นตัวอย่างให้คนอื่นเกรงกลัวและทำตามกฎระเบียบ

     Rivanlee Anandar  ตัวแทนองค์กรสิทธิมนุษยชน ในการให้สัมภาษณ์ว่า กองทัพควรให้ความสำคัญกับการป้องกันประเทศมากกว่านี้ เนื่องจากตอนนี้เจ้าหน้าที่ไม่มีตัวชี้วัดหรือเครื่องมือใดๆ ในการวัดอุณหภูมิที่แน่นอน บางครั้งเวลาประชาชนที่เดินอยู่บนห้างสรรพสินค้าพบเจ้าหน้าที่เดินมาตรวจก็เกิดอาการตื่นกลัวจนอุณหภูมิร่างกายขึ้นสูง และสุดท้ายก็ถูกลงโทษไปด้วยซึ่งก็ไม่ยุติธรรมสำหรับบางคนเลยจริงๆ 

     ด้าน Agus Pambagio นักวิเคราะห์นโยบายสาธารณะของอินโดนีเซียเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการลงโทษผู้ที่ไม่สวมน้ากากคือปรับพวกเขาเป็นเงิน 68 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,000 บาท)

    "ไม่มีประเทศใดในโลกที่ผู้คนต้องถูกลงโทษทางวินัยก่อนที่จะถูกตัดสินและปรับ หากคุณต้องการให้ผู้คนมีวินัย ก็อย่าเพียงแค่แนะนำพวกเขาเท่านั้น" Agus Pambagio กล่าว

ที่มา : teepr | เรียบเรียงโดย liekr