หนุ่มตกใจ! ได้รับ SMS แจ้งเงินเข้า 500 ล้าน ลองโอนเข้าบัญชีอื่นของตนเองก็ได้อีก แต่สักพักกลับ

LIEKR:

เงินไม่ใช่น้อยๆ ยิ่งกว่าถูกหวยเสียอีกนะเนี้ย!!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    ไม่รู้ว่าคุณเคยคิดเล่นๆ หรือเปล่าว่าวันหนึ่งจะกลายเป็นเศรษฐี? คุณสามารถใช้เงินเพื่อเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่ร่ำรวย อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่หรูหรา มีพ่อครัวพิเศษพร้อมสำหรับสามมื้อต่อวัน มีคนขับรถให้พร้อมไม่ต้องนั่งรถบัสแออัดกับคนอื่นทุกวัน  หรือเอาเงินซื้อบริษัทมาเป็นของตนเอง ฟังดูแล้วคงจะวิเศษไม่น้อยเลยทีเดียว!

    แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก ที่จู่ๆ จะมีเงินก้อนโตตกลงมาหล่นหัว แต่มันเกิดขึ้นจริงกับชายชาวจีนคนนี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า คุณหลีชายชาวจีน จู่ๆ วันหนึ่งก็ได้รับข้อความว่ามีเงินโอนเข้ามาในบัญชีของตนเอง แต่พอดูยอดเงินแล้วทำเอานายหลีตกใจ นึกว่าฝันไป เพราะยอดเงินที่เขาเห็นคือ 100 ล้านหยวน (ราว 500 ล้านบาท) 

 

Sponsored Ad

 

    แต่พอเขาใช้บัตร ATM ไปกดดูก็พบว่าในบัญชีมียอดเงินอยู่จริง ในแวบแรกเขาคิดว่าน่าจะโดนแก๊งค์มิจฉาชีพหลอกลวง แต่เมื่อเขาโทรไปสอบถามที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่กลับบอกว่ามีเงินอยู่ในบัญชีตามที่เขาเห็นจริง

 

Sponsored Ad

 

    จากนั้นเขาจึงลองทำอะไรบางอย่างเพื่อความแน่ใจ จึงทำการโอนเงินในบัญชี 100 ล้านหยวนนี้เข้าอีกบัญชีหนึ่งของเขา และก็สามารถโอนได้สำเร็จ นั้นแสดงว่าเงินจำนวนนั้นมีอยู่จริง

    ในตอนแรกนายหลีไม่ได้ตั้งใจจะใช้เงินจำนวนนี้ แค่ต้องการแน่ใจอะไรบางอย่างเท่านั้น ทันทีที่เขาโอนสำเร็จก็รีบโทรไปแจ้งธนาคารทันที พร้อมทั้งถ่ายภาพเก็บไว้ทุกขั้นตอน

 

Sponsored Ad

 

    แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง เมื่อกดเข้าไปตรวจเช็กยอดเงินในบัญชีอีกทีก็พบว่าเงินจำนวนนั้นหายไปแล้ว เพราะถูกโอนออกไปจากบัญชี ทำให้นายหลีรู้สึกโกรธมาก

    นายหลีแจ้งว่าที่โกรธเป็นเพราะว่า ทำไมธนาคารสามารถโอนเงินในบัญชีของลูกค้าออกไปได้โดยพลการ ทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบัญชีเลย นี้มันกำลังเป็นการละเมิดสิทธิของเขาหรือไม่? จะส่งข้อความหรือโทรมาแจ้งสักหน่อยก็ยังดี แต่นี้โอนออกไปเฉยๆเลย โดยไม่บอกไม่กล่าว แสดงว่าธนาคารสามารถเข้าระบบของลูกค้าได้ตามใจชอบหรอ?

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อโทรไปสอบถามเหตุผล ธนาคารกลับบอกว่า “ไม่รู้ไม่ทราบ ไม่สามารถให้คำตอบได้?”...แล้วเมื่อนักข่าวเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสูงหน่อยก็ได้คำตอบเหมือนเดิมว่า “ไม่รู้ ไม่แน่ใจ” แบบนี้ประชาชนจะกล้าใช้บริการ และให้ความไว้วางใจธนาคารได้อีกไหมเนี้ย?

    

    ชมคลิป

    คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<


ที่มา :foyuan

แปลและเรียบเรียงโดย Liekr

บทความที่คุณอาจสนใจ