หนูน้อยหายไปขณะหลับในห้อง รัฐบาลทุ่มเงิน 450 ล้านหา ชาวเน็ตบอกคนน่าสงสัยที่สุดคือพ่อแม่

LIEKR:

หนูน้อยหายไปขณะหลับในห้อง รัฐบาลทุ่มเงิน 450 ล้านหา ชาวเน็ตบอกคนน่าสงสัยที่สุดคือพ่อแม่

        เด็กๆ ร่าเริงไร้เดียงสา ควรจะได้เติบโตมาอย่างแข็งแรงภายใต้การปกป้องของพ่อแม่ แต่ทุกวันนี้มีเด็กจำนวนมากหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีโอกาสได้สำรวจความสวยงามของโลกใบนี้ด้วยตัวเอง แต่เคสการหายตัวจำนวนมากบนโลกใบนี้ ไม่มีคดีไหนซับซ้อนเท่าคดีของ Madeleine McCann แม้แต่คนดังหลายคน เช่น เบ็คแฮม โรนัลโด้ และ J.K โรว์ลิ่งก็ให้ความสนใจ คดีนี้ให้เงินรางวัลจำนวนสูงมาก แต่ก็ยังคงไม่พบตัว

        เดือนพฤษภาคมปี 2007 เด็กหญิง Madeleine วัย 3 ขวบไปเที่ยวโปรตุเกสเพื่อพักร้อนกับครอบครัว คืนวันที่ 3 พ่อแม่และเพื่อนๆ ออกไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารห่างจากวิลล่าที่พักไม่ถึง 50 เมตร ทิ้งให้ Madeleine และน้องฝาแฝดวัย 2 ขวบหลับอยู่ที่ห้อง ตอนนั้นในวิลล่าที่พักยังมีอีก 3 ครอบครัวที่พักในห้องอื่น คือคุณหมอสามีภรรยาเพื่อนร่วมงาน และเพื่อน ทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่ 9 คน เด็ก 8 คน

 

Sponsored Ad

 

        พอ 3 ทุ่มกว่า Gary พ่อของ Madeleine ก็กลับมาดูที่วิลล่าให้แน่ใจว่าลูกๆ 3 คนหลับสนิท แต่แปลกที่ประตูห้องนอนจากที่แง้มไว้เล็กๆ กลายเป็นเปิดไว้ครึ่งหนึ่ง แต่ Gary ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กลับไปกินข้าวกับคนอื่นๆ ต่อ ต่อมาพ่อแม่คนอื่นก็ผลัดกันมาดูเด็กๆ ให้ แต่ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ

 

Sponsored Ad

 

        พอประมาณสี่ทุ่ม Kate แม่ของ Madeleine ก็กลับมาข้างในห้อง แล้วก็ต้องตกใจที่ในห้องมีแต่ลูกแฝด 2 ขวบสองคน ไม่มีแม้แต่เงาของ Madeleine! สองสามีภรรยารีบแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจโปรตุเกสก็ไม่ทำอะไร จนกระทั่งผู้สื่อข่าวมาถึง ถึงได้ส่งกำลังคนออกตามหา และให้สุนัขไปดมตามชายหาด รอบๆ ที่เกิดเหตุไม่มีการปิดบริเวณใดๆ ทำให้ใครๆ ก็เข้าออกได้ จนกระทั่งเช้าวันต่อมาถึงได้ปิดพื้นที่เพื่อตรวจสอบ 5 วันหลังจากนั้นถึงประกาศว่า Madeleine หายตัวไป

        การทำงานของตำรวจโปรตุเกสทำให้คนอังกฤษจำนวนมากไม่พอใจ คิดว่าต้องเป็นเพราะ Madeleine เป็นเด็กหญิงชาวอังกฤษ ตำรวจโปรตุเกสถึงได้ไม่ให้ความสำคัญ แต่กลับมีประชาชนชาวโปรตุเกสคิดว่า คดีนี้ตั้งแต่ต้นจนจบเป็นฝีมือของคนใกล้ชิด คดีคนหายนี้ต่อมากลายเป็นข้อพิพาทกันระหว่างอังกฤษและโปรตุเกส

 

Sponsored Ad

 

        แถมข้อสงสัยของประชาชนชาวโปรตุเกสก็เป็นไปได้ เนื่องจากในวันเกิดเหตุนอกจากพ่อแม่ของ Madeleine แล้ว พ่อแม่ของอีก 3 ครอบครัวก็กลับมาที่วิลล่าเพื่อดูเด็กๆ เช่นกัน พ่อแม่ของ Madeleine ยังเอากุญแจห้องของตัวเองให้พวกเขา เพราะงั้นใครก็เป็นผู้ต้องสงสัยได้ แถมไม่มีหลักฐาน ตอนนั้นคนในสังคมมากมาย รวมทั้งนักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษ JK Rowling ได้บริจาคเงินเพื่อช่วยในคดีนี้ รวม 40 ล้านบาทเพื่อเป็นรางวัล แค่ก็ไม่ได้ผลอะไร

        เดือนกันยายนปี 2007 Madeleine หายตัวไปครบ 100 วัน ตำรวจโปรตุเกสก็ประกาศข่าวที่น่าตกใจ พวกเขาสงสัยว่าพ่อแม่ของ Madeleine คือผู้ต้องสงสัย เนื่องจากพอ Kate แม่ของเด็กหญิงเห็นว่าลูกสาวหายไป สิ่งแรกที่เธอทำไม่ใช่แจ้งตำรวจหรือเรียกให้เพื่อนมาช่วย แต่กลับค่อยๆ เดินกลับไปร้านอาหาร ไม่แม้แต่จะปิดประตู ไม่เป็นห่วงลูกแฝดที่ยังนอนหลับอยู่ในห้องเลย หลังจากทั้งสองคนกลับประเทศ Gary คุณพ่อก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อ และทำใบปลิวไปแจกตามท้องถนน ส่วน Kate ก็อยู่บ้านทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้า น่าจะเป็นการทำลายหลักฐาน

 

Sponsored Ad

 

        และกุญแจสำคัญที่ทำให้ตำรวจโปรตุเกสตัดสินว่าสองสามีภรรยาเป็นผู้ต้องสงสัยคือสุนัขตำรวจ 2 ตัว เนื่องจากสุนัขตำรวจสามารถดมกลิ่นเลือดและกลิ่นตัวของเหยื่อได้อย่างแม่นยำ ตอนแรกที่พวกมันเข้าไปในห้องในวิลล่าที่ครอบครัว Madeleine พักพวกมันก็กระวนกระวายอย่างรวดเร็ว สุนัขตัวหนึ่งได้กลิ่นเลือด อีกตัวมุ่งไปที่เสื้อของ Kate  และกล่องถุงมือซิลิโคนในห้องนอนใหญ่ แถมที่เสื้อสีแดงของเด็กฝาแฝดยังมีกลิ่นของศพ

        นี่ยังไม่หมด ต่อมาสุนัขตำรวจสองตัวถูกพาไปที่ลานจอดรถของบริษัทรถเช่า มีกลิ่นเลือดที่กระโปรงหลังของรถเช่าคันหนึ่ง บังเอิญรถคันนั้นเป็นคนที่สองสามีภรรยาเช่าไปขับในโปรตุเกสหลังลูกสาวหายไปได้ 3 สัปดาห์ ตำรวจโปรตุเกสยังได้เก็บเส้นผม และคราบเลือดจากในรถไว้ด้วย ตำรวจรีบเอามาเทียบกับ DNA ของ Madeleine ทันที ปรากฏว่ามีความสอดคล้องสูงมาก

        เมื่อเห็นว่าตำรวจกำลังจะปิดคดีได้ Kate และ Gary ก็ออกมาบอกว่า DNA เป็นของลูกแฝด เพราะว่ามีครั้งนึงตอนกำลังขับรถ อยู่ๆลูกคนนึงก็เลือดกำเดาไหล Kate ใช้กระดาษทิชชูเช็ดเลือดให้ลูกแล้วก็โยนเอาไว้ในกระโปรงรถ แล้วมันคงไปติดอยู่บนรถ ส่วนกลิ่นที่สุนัขตำรวจดมได้ในวิลล่า พวกเขาบอกว่าเนื่องจากทั้งสองคนเป็นหมอ อาจจะเป็นกลิ่นที่ติดตัวมาจากโรงพยาบาล สุดท้ายเนื่องจากตำรวจมีหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่สามารถเอาผิดกับสามีภรรยาได้

 

Sponsored Ad

 

        แม้ว่าสองสามีภรรยาจะไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ก็ยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมและการโจมตีทางร่างกาย คนอังกฤษนิรนามคนหนึ่งได้บอกกับสื่อว่า จริงๆสองสามีภรรยาและพ่อแม่คนอื่นเป็นพวกสนุกกับการเปลี่ยนคู่นอน เพื่อจะไม่ให้เด็กๆ เข้ามารบกวนตอนพวกเขากำลังสนุกกลางดึก ก็เลยแอบใส่ยากล่อมประสาทลงไปในอาหาร 

Sponsored Ad

        นึกไม่ถึงว่า Kate และ Gary จะไม่ระวังใส่ยามากเกินไป จึงทำได้แค่ปรึกษากับคนอื่น แล้วจงใจสร้างเรื่องว่าลูกสาวถูกลักพาตัว เพียงเพื่อปกปิดเรื่องอื้อฉาวของการเปลี่ยนคู่นอน

        Madeleine หายตัวไป 12 ปีแล้ว หลายปีมานี้สองสามีภรรยายังตามหาลูกสาวอย่างไม่ยอมแพ้ นอกจากตั้งเพจ Official Find Madeleine Campaign บนเฟสบุคแล้ว ยังจ้างนักสืบเอกชนตามหามาโดยตลอด  แต่ก็ไม่ได้อะไร ตามสถิติ จนถึงวันนี้รัฐบาลอังกฤษได้ทุ่มงบตรวจสอบไปแล้วกว่า 11 ล้านปอนด์ (ประมาณ 450 ล้านบาท) ทำให้ชาวเนตไม่พอใจ “ตั้งหลายปีแล้ว ไม่มีทางกลับมาได้แล้ว”, “คนเสียภาษีเสียเงินตั้งมากมาย เพียงเพื่อตามหาเด็กคนเดียว?”, “เสียเงินภาษีประชาชนเปล่าๆ ทำไมไม่เอาเงินจำนวนนี้มาตามหาเด็กคนอื่นที่หายตัวไปทั้งหมด?”

        แม้ว่าคดีของ Madeleine จะถูกตัดสินว่าไม่มีโอกาสแล้ว แต่ตำรวจอังกฤษกล่าวว่า Madeleine  อาจจะถูกขายให้กับครอบครัวเศรษฐีในโมร็อกโก นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญช่วยทำนายรูปลักษณ์ภายนอกของ Madeleine เมื่อเติบโตขึ้นถึงปัจจุบันนี้มีรายงานกว่า 4 ฉบับว่า  Madeleine ปรากฏตัวในโมร็อกโกตั้งแต่ปี 2007 นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์เห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ กับชายคนหนึ่งที่ปั๊มน้ำมัน; นักท่องเที่ยวอีกคนเห็นเด็กผู้หญิงคนเดียวกันปรากฎตัวด้านนอกโรงแรมแห่งหนึ่งในวันเดียวกัน; 3 สัปดาห์ต่อมา ผู้หญิงชาวสเปนคนหนึ่งเห็นเด็กหญิงผมบลอนด์ที่ "ดูเศร้าและหวาดกลัว" โดนผู้หญิงสวมฮิญาบดึงให้เดินไปตามถนน; หลังจากนั้นก็มีคู่สามีภรรยาที่กำลังเดินอยู่บนถนนในโมร็อกโกเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ดู “เศร้ามาก” และพูดว่า “พวกเราไปเจอแม่เร็วขึ้นหน่อยได้มั้ยคะ?”

        จนถึงทุกวันนี้ ยังมีชาวเนตจำนวนมากที่คิดว่าพ่อแม่ของ Madeleine  อยู่เบื้องหลัง แล้วคุณผู้อ่านคิดว่ายังไงบ้าง?

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ