LIEKR:
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่พูดถึงกันบนโลกโซเชียล หลังจากที่รมต.ท่องเที่ยวประกาศเดินหน้าเจรจาดึงตัวไอดอลสาวที่กำลังโด่งดังระดับโลกอย่าง "ลิซ่า BLACKPINK" มาร่วมงานเคานท์ดาวน์ปีใหม่ที่ภูเก็ต คาดว่าใช้เงินสูงถึง 200 ล้านบาท
[อ่านข่าว : รมต.ท่องเที่ยวฯ เล็งใช้งบ 200 ล้าน ดึงตัว "ลิซ่า-แอนเดรีย" ร่วมงานเคาท์ดาวน์ที่ไทย]
Sponsored Ad
ซึ่งล่าสุด "นพ.เรวัต วิศรุตเวช" ก็ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า รัฐบาลต้องแสดงความสามารถอย่าเกาะชายกระโปรงลิซ่า
Sponsored Ad
"ความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเหล่านี้ต่างหาก ที่จะทำให้ไทยประสบความสำเร็จกับการเปิดประเทศ ไม่ใช่ไปเกาะชายกระโปรงลิซ่าให้มาช่วยโฆษณา เพราะถึงลิซ่าจะช่วยโปรโมตอย่างไร ถ้าบริหารจัดการห่วยก็ไม่รอดอยู่ดี ประหยัดงบที่จะไปจ้างลิซ่าที่เป็นเงินภาษีประชาชนไม่รู้กี่ร้อยล้านดีกว่า" นพ.เรวัต กล่าว
ซึ่งการเปิดประเทศมีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจของไทย แต่ความสำเร็จในการเปิดประเทศไทยขึ้นกับแผนที่ดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและไทม์ไลน์ที่ชัดเจน
Sponsored Ad
โดย นพ.เรวัต กล่าวต่ออีกว่าว่า วัคซีนคือตัวชี้วัดสำคัญของความสำเร็จในการเปิดประเทศ เช่น การฉีดวัคซีนครบโดสต้องมากพอไม่ใช่ต่ำอย่างไทย แต่ในความเป็นจริงคือไทยยังฉีดวัคซีนไม่มากพอเพราะวัคซีนมาช้า
Sponsored Ad
นอกจากนั้นมาตรการความปลอดภัย การใส่แมสก์และระยะห่างยังคงจำเป็น จำนวนและความสะดวกในการตรวจหาเชื้อยังมีความสำคัญ สรุปคือในประเทศควรต้องมีความพร้อมก่อน
ก่อนจะได้ทิ้งท้ายว่า ที่สำคัญที่สุดคือต้องแสดงให้ต่างชาติเห็นว่าไทยใช้กฎหมายปกติควบคุมโรคและมีความพร้อมทั้งการป้องกันและการรักษา มีโรงพยาบาลเพียงพอรองรับ ดังนั้นตัวชี้วัดที่จะบอกว่าไทยมีศักยภาพควบคุมโรคได้และสามารถรับนักท่องเที่ยวได้คือต้องแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินและต้องมีเคอร์ฟิว
ที่มา : เฟซบุ๊ก นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช - Rewat Wisutwet M.D., ข่าวสด, Instagram lalalalisa_m