LIEKR:
สุดยอด 👍👍👍
หากยังจำเหตุการณ์อุบัติเหตุรถยนต์ตกจากลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางกะปิ จนเกิดการสูญเสีย และสันนิษฐานว่าเป็นเพราะ คันเร่งค้าง กันได้ วันนี้ LIEKR ก็อยากให้ทุกท่านที่ใช้รถได้ย้ำเตือนข้อควรระวังกันอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่เดินทางกันมาก สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ คือตัวตัดสินของตัวคุณและผู้โดยสาร รวมทั้งเพื่อนร่วมทางอีกด้วย
เมื่อเกิดเหตุ คันเร่งค้าง อย่าตกใจ !! แต่ขอให้ “ตั้งสติ” ให้ดี แล้วทำตาม 3 ขั้นตอนสำคัญนี้ เพื่อให้คุณ รอด ในแบบที่ถูกต้องและปลอดภัย
Sponsored Ad
1. เข้าเกียร์ว่างทันที
โดยผลักเกียร์ไปที่เกียร์ N อย่างเร็วที่สุด ไม่ต้องนึกถึงว่ารอบสูงหรืออย่างไร เพราะการเข้าเกียร์ว่างจะช่วยชะลอความเร็วได้ หากเป็นรถเกียร์ธรรมดาต้องเหยียบคลัตช์เปลี่ยนไปเกียร์ว่าง
2. เหยียบเบรก
Sponsored Ad
หลังจากเข้าเกียร์ว่างแล้ว ให้คุณประคองพวงมาลัยรถให้ดี ค่อยๆ เหยียบเบรกแล้วปล่อย เพื่อชะลอความเร็วไปเรื่อยๆ แต่หากเป็นรถที่มีระบบเบรก ABS ให้เหยียบเบรกค้างไว้ แล้วพยายามหาที่จอดที่ปลอดภัย
3. อย่าดับเครื่องเด็ดขาด !
Sponsored Ad
ข้อนี้พึงระวังให้มากที่สุด เพราะเมื่อสติหลุด คุณอาจเผลอดับเครื่อง ต้องทำความเข้าใจว่า หากดับเครื่องจะเบรกไม่ได้ และหักพวงมาลัยไม่ได้ ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าเมื่อพวงมาลัยล็อก แถมยังเหยียบเบรกไม่ลง อาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ !!
คำเตือน !!
Sponsored Ad
- มีผู้ใช้รถบางท่านที่อาจตกใจและเผลอดับเครื่อง ก็ขอให้พึงระวังไว้ว่า ห้ามถอดกุญแจหรือบิดไปที่ตำแหน่งล็อก เพราะพวงมาลัยจะล็อก ระบบช่วยเหลือต่างๆ จะไม่ทำงาน ซึ่งจะทำให้การควบคุมรถทำได้อยากขึ้น
- หากเป็นรถที่ใช้ปุ่ม Start on/off ให้กดปุ่มแช่ไว้ 3 วินาที ห้ามกดแล้วปล่อย
เรียกได้ว่าหาก“คันเร่งค้าง” จำง่ายๆ แค่ “เข้าเกียร์ว่าง – เหยียบเบรก – อย่าดับเครื่อง” สิ่งสำคัญคือ “สติ” ขับรถด้วยความระมัดระวัง อย่าประมาท ดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขณะใช้รถ
ข้อมูลและภาพจาก siamnews
