คุณไก๋ ดาริกา ดอกจันอาด วัย 50 ปี นักวิจัยการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรรือเสาะ เล่าให้ฟังว่า ตัวเธอเองยึดอาชีพนักวิจัยมาได้หลายสิบปีแล้ว ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลากหลาย มีเพื่อนร่วมงานลูกน้องมากมายที่ผ่านเข้ามาและผ่านไป 

        จนเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางกรมวิชาการเกษตร ถูกปรับลดงบประมาณลง และเมื่อคิดคำนวณออกมาแล้ว เงินที่มีอยู่สามารถจ้างลูกจ้างกว่า 26 ชีวิตได้อีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น

        เธอในฐานะหัวหน้า จึงคิดแก้ไขหาทางออกเพื่อช่วยเหลือเยียวยาเหล่าลูกจ้างในความปกครอง โดยการออกเงินทุนครั้งแรก ในการซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์มาให้คนงานผลิตน้ำพริกดอกดาหลา ซึ่งเป็นสูตรที่เคยให้เกษตรกรที่ทำงานในศูนย์วิจัยทำอยู่แล้ว

        “หลังรู้ข่าวทางกรมโดนตัดงบ ลูกจ้างเขาก็เดือดร้อน พี่เองก็ทำงานราชการอย่างน้อยก็ยังมั่นคงกว่าเขา ก็ด้วยความเห็นใจเพื่อนมนุษย์เนอะ แล้วเขาก็ทำงานอยู่กับเรามานาน ก็เลยต้องช่วยเหลือเขา บางคนเขาก็กลับไปทำเกษตร บางคนเขาก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เพราะพื้นที่ตรงนี้มันก็เป็นพื้นที่ชายแดนใต้ หางานยาก ก็เลยออกเงินทุนครั้งแรก ขับรถไปหาดใหญ่ ไปซื้อพวกวัตถุดิบต่าง ๆ ในการทำน้ำพริกมาให้เขาทำกัน จะได้มีเงินมาจุนเจือครอบครัวจากรายได้ที่มันขาดหายไป”

        คุณไก๋ ยังกล่าวต่อว่า ด้วยความที่ภาคใต้มีดอกดาหลาเยอะ มีงานวิจัยของ ม.มหิดลที่ค้นพบว่า ดอกดาหลาสรรพคุณทางยา และคนที่นี่ก็นิยมรับประทานกันเป็นปกติ อีกทั้งทางศูนย์ฯเอง ก็เคยให้เกษตรกรที่ทำงานในศูนย์วิจัยทำมาก่อน แต่คนแยกย้ายกันไปทำอย่างอื่นก็ไม่ได้ผลิตอีก จึงนำสูตรกลับมาทำอีกครั้งหนึ่ง

        “เมื่อวานเพิ่งเริ่มทำกันค่ะ ตอนเช้าเขาก็ทำงานที่ศูนย์ฯกันปกติ พอเลิกงานก็มาทำน้ำพริกกัน โดยมี 3 รายที่เขาสนใจและเข้ามาร่วมทำน้ำพริกดอกดาหลาด้วยกัน ก็ผลิตกันได้ประมาณ 2 โลค่ะ พี่เองก็ช่วยโพสต์หาออร์เดอร์ให้ผ่านทางโซเชียล ก็มีคนสนใจเข้ามาช่วยอุดหนุน ก็เป็นเพื่อน ๆ พี่น้องกันนี่แหละ จากนั้นเขาก็มีการบอกต่อช่วยกันแชร์ เลยทำให้เราได้ออร์เดอร์น้ำพริกมา 22 โล ก็ดีใจค่ะที่เราสามารช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานได้แม้จะเล็กน้อยก็ยังดี ทุนที่ออกให้ พี่ก็ไม่คิดเอาคืน เพราะเราไม่ได้เดือดร้อนเท่าเขา อะไรช่วยกันได้ก็ช่วยกัน โลกมันจะได้น่าอยู่ขึ้นอีกนิด” คุณไก๋ กล่าว

โพสต์ดังกล่าว

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊ก Kai Ag Kku, sentangsedtee