"ควีนเอลิซาเบธ" แห่งอังกฤษ ทรงปรับตัวมาขายของ เพื่อหารายได้ ดูแลลูกจ้างในพระราชวัง

LIEKR:

แม้จะเป็น 1 ใน "ราชินีที่รวยที่สุดในโลก" แต่พระองค์ท่านก็ยังทรงงานหารายได้ เพื่อดูแลลูกจ้างในวัง

    อย่างที่เรารู้กันดีว่า ราชสำนักอังกฤษของสมเด็จพระราชินีนาถ ถือว่าเป็นราชสำนักที่ผลิตคอลเล็กชั่นและของสะสม มากเป็นออันดับต้นๆ ของพระราชวงศ์ทั่วโลก แต่ครั้งนี้กลับแปลกออกไป เมื่อต้องขายแอลกกอฮอล์

    จากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่ธุรกิจการท่องเที่ยวเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ประชาในประเทศ ธุรกิจต่าง ๆ ต่างก็โดนไปด้วย แต่ใครจะไปคาดคิดว่าพระราชวังบักกิงแฮม และราชสำนักวินเซอร์แห่งราชวงศ์อังกฤษ จะประสบปัญหาเช่นเดียวกัน

    พระราชวังบักกิงแฮมหรือ คฤหาสน์บักกิงแฮม เป็นพระราชวังเก่าแก่มีอายุมากกว่า 300 ปี เป็นพระราชวังที่เป็นที่ประทับเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษ ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอนในสหราชอาณาจักรเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับการเลี้ยงรับรองของรัฐ และยังเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งของกรุงลอนดอน และยังเป็นที่รวมพลังใจทั้งในการฉลองและในยามคับขันของชาวอังกฤษ

    พระราชวังบักกิงแฮมกลายมาเป็นพระราชฐานที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียขึ้นครองราชย์เมื่อปี ค.ศ. 1837 การต่อเติมครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายทำในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ซึ่งรวมทั้งด้านหน้าที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน บางครั้งพระราชวังบักกิงแฮมก็เรียกกันเล่นๆ ว่า “บักเฮาส์”

    สำหรับภายในที่เปิดให้เข้าชมนั้นประกอบไปด้วย State room ซึ่งเป็นห้องสาธารณะในพระราชวังที่สมเด็จพระราชินีและราชวงศ์ใช้รับแขก มีทั้งหมด 19 ห้อง ได้รับการออกแบบโดยJohn Nash ห้องเหล่านี้ได้รับการตกแต่งด้วยสมบัติที่ยิ่งใหญ่จำนวนมากจาก Royal collection รวมทั้งภาพวาดโดย Van Dyck และ Canaletto ประติมากรรมโดย Canova และเครื่องลายครามจาก Sevres รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุดในอังกฤษ ฝรั่งเศสและอีกทั่วโลก ซึ่งหลายห้องนั้นยังคงมีการใช้งานจนถึงปัจจุบัน

    พระราชบักกิงแฮม จะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องการเยี่ยมชมด้านใน และรายได้ในส่วนนี้จะเป็นค่าซ่อมแซม บูรณะอาคารให้ดูดีและปลอดภัยอยู่เสมอ แต่ในช่วงสถานการณ์นักท่องเที่ยวทั่วโลก เกือบจะ 100% ต้องอยู่บ้าน และไม่สามารถออกไปเที่ยวที่ไหนได้ นี่เลยเป็นเหตุผลให้พระราชบักกิงแฮมขาดรายได้ไปอย่างมหาศาล

    หน่วยงานที่ดูแลพระราชบักกิงแฮมอย่าง Royal Collection Trust นั้นได้ปรับตัวและคิดค้นลู่ทางสร้างรายได้ใหม่ ด้วยการเปิดตัว คอลเล็กชั่นใหม่ นั่นก็คือ Gin หรือ เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์  ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Gin คอลเล็กชั่นนี้พิเศษกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทอื่นนั่นก็คือ วัตถุดิบในการผลิตใช้ของจากภายในสวนของพระราชวังทั้งหมด

.

    “สวนของพระราชวังบัคกิ้งแฮม มีนกหลากหลายไม่ต่ำกว่า 30 สปีชี่ส์ และมีดอกไม้มากมายอีก 250 ชนิด ต้นมัลเบอร์รี่ บางต้นมีอายุมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเจมส์ที่ 1 และยังมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่นับต้นไม้อื่นๆ อีก 40 สายพันธุ์” เพื่อที่จะได้เป็นการสร้างมูลค่า และเรื่องราวให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ของสมเด็จพระราชินีนาถ

.

    สำนักพระราชวัง ได้วางจำหน่าย Dry Gin ภายใต้แบรนด์ Buckingham Palace เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยใช้ส่วนผสม ดังนี้ ใบของ “อบเชย” และ “มัลเบอร์รี่” ซึ่งเก็บจากในสวนของพระราชวัง

    Gin ขวดดังกล่าว มีขนาดบรรจุ 70 เซนลิลิตร ราคาประมาณ 50 เหรียญสหรัฐ (40 ปอนด์) หรือราวๆ 1,600 บาท

    การเปิดตัวสินค้าในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะช่วยพยุงฐานะทางการเงินที่จะต้องใช้เพื่อในกิจการต่างๆ ซึ่งทางสำนักพระราชวังมีพนักงานทั้งหมด 650 คน แต่จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ถดถอย ก็อาจจะมีพนักงาน 200-250 ตำแหน่ง ต้องลาออกด้วยความสมัครใจ 

    ถ้าหากว่าทางพระราชวังยังประสบกับภาวะยากลำบากต่อไป โดยมีการประเมินว่าตอนนี้ Royal Collection Trust อาจขาดทุนอยู่ถึง 37.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ราวๆ 30 ล้านปอนด์ หรือแปลงเป็นเงินไทยคือ 1,200 ล้านบาท

    หมายเหตุ : Royal Collection Trust เป็นทรัสต์ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการอนุรักษ์งานศิลปะ และสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายใต้การดูแลของสำนักพระราชวังอังกฤษนั่นเอง

ที่มา : Mister Story Boy : เล่าไปเรื่อย, อะไร?ที่ไหน?ทั่วโลก