ลูกคนงานก่อสร้าง ใช้ "ปลากัด" พลิกชีวิต ส่งขาย 6 ประเทศ ปีเดียวปลดหนี้กว่าสองแสนบาท

LIEKR:

"...หนูร้องไห้ ขอร้องพ่อแม่ให้ได้เรียนต่อ ขอจบ ม.6 พ่อได้ยินก็น้ำตาร่วง" - เมย์ เจ้าของฟาร์มปลากัด

    เปิดเรื่องราวของหญิงสาวผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา จากชีวิตติดลบ ไปเรียนหนังสือได้แค่วันจันทร์วันเดียว สู้ชีวิตจนเป็นเจ้าของฟาร์มปลากัด 7 ไร่กว่า ในวัยเพียง 30 ปี ส่งออกขายปลากัดเพียงปีเดียวปลดหนี้นอกระบบสองแสน

    “เราเริ่มต้นจากที่ไม่มีอะไรเลย มีแค่ประสบการณ์สามปี และความตั้งใจที่จะเพาะปลากัดขาย เพราะมั่นใจมากว่า สิ่งที่เรารักจะพาไปสู่อาชีพทำเงินเลี้ยงครอบครัวได้ และตอนนี้ก็เป็นความจริงแล้ว นอกจากเลี้ยงครอบครัวได้ มีกินมีใช้ ยังช่วยให้ไม่มีหนี้ก็เพราะใจรักปลากัดนี่แหละ” น.ส.ธัญญพัทธ์ ปราบปราม หรือเมย์ เจ้าของ Niyom Betta Thailand farm ใน อ.ลอง จ.แพร่

 

Sponsored Ad

 

    เธอเองไม่คาดคิดว่าปลากัดตัวเล็กๆ หลากสีสันสวยงาม จะสามารถเปลี่ยนชีวิตเธอและสามี นายเอกชัย ปราบปราม จนประสบความสำเร็จดังหวังและลืมตาอ้าปากได้ นอกจากขายดีในไทยแล้ว ยังส่งออกไปยังประเทศ เกาหลี, ไต้หวัน, จีน, ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ จนสามารถปลดหนี้สองแสนได้เพียงในหนึ่งปี

 

Sponsored Ad

 

    จุดเริ่มต้นที่หันมาขายปลากัดจนได้ดีเช่นทุกวันนี้ น.ส.ธัญญพัทธ์ เท้าความว่า พ่อกับแม่ทำงานก่อสร้าง มาตั้งแต่เธอเป็นเด็ก กระทั่งช่วงปิดเทอมจะขึ้น ม.5 บ้านเกิดวิกฤติหนัก ไม่มีเงินส่งเรียนต่อ แม่ต้องให้เธอเลือกระหว่างเลิกเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำงานก่อสร้างหรือจะกลับไปเรียนต่อ

    แม้รู้ว่าพ่อแม่ลำบาก แต่ด้วยใจใฝ่เรียน เธอร้องไห้ ขอร้องพ่อกับแม่อย่างไม่ลังเลและมุ่งมั่นว่าขอเรียนต่อ และจะตั้งใจเรียนให้จบ ม.6 พ่อได้ยินก็น้ำตาร่วง ยอมให้เรียนต่อและบอกว่าจะส่งเรียนจนจบให้ได้ เมื่อพ่อแม่ให้โอกาส เธอก็ตั้งใจเรียนตามที่พูดไว้จนจบ ม.6 ได้ ถึงแม้ว่า ม.6 เทอมสุดท้ายจะได้ไป ร.ร.แค่วันจันทร์วันเดียว ก็ตาม

 

Sponsored Ad

 

    ชีวิตครอบครัวที่ต้องดิ้นรนมาทุกรูปแบบ กลายเป็นแรงผลักดันให้เมย์ตั้งใจมากเพื่อถีบตัวเอง ออกมาจากงานหนักและความลำบาก และด้วยความตั้งใจอยากทำงานดีๆ แต่งตัวสวยๆ แต่มีแค่วุฒิ ม.6 ไปสมัครงานที่ไหนก็ถูกปฏิเสธ จึงคิดว่าสิ่งที่จะทำให้ชีวิตดีกว่าเดิมคือต้องมีวุฒิสูงกว่านี้

    เธอทำงานจนอายุ 23 ปี จึงตัดสินใจเรียน ป.ตรี เอกอังกฤษธุรกิจ ม.ราชภัฏเลย เพราะอยากเก่งหลายๆ ภาษา เพื่อจะได้ขายบ้านให้ชาวต่างชาติได้ และเมื่อเรียนจบเธอก็ทำฝันสำเร็จได้เป็นเซลส์ขายบ้าน ในบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเมืองไทย สร้างความภูมิใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วต้องทดลองงานสามเดือนถึงจะผ่านงาน แต่เธอทำงานแค่เดือนเดียวก็ผ่านฉลุย เพราะมีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีผู้จัดการที่ดี ที่คอยสนับสนุน

 

Sponsored Ad

 

    ชีวิตเมย์กำลังเริ่มต้นด้วยดี แต่แล้วเกิดเหตุไม่คาดคิด เธอเดินลื่นล้ม ขาหักไปทำงานไม่ได้ โชคดีบริษัทให้โอกาส หากหายดีให้กลับไปทำงาน แต่เธอตัดสินใจปฏิเสธทั้งๆ ที่เป็นงานที่ใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต เพราะสามีของเธอทำให้เห็นว่า ปลากัด สามารถเลี้ยงเธอได้ในยามลำบาก หลังจากมาช่วยสามีขายปลากัดเมื่อตอนขาหัก โดยใช้วิชาที่เรียนมาพูดคุยกับลูกค้าชาวต่างชาติ ทำให้เธอรู้สึกสนุกและมีความสุขมาก เธอจึงตั้งใจจริงจังยึดอาชีพแม่ค้าปลากัดตามรอยสามี โดยให้เหตุผลว่า

 

Sponsored Ad

 

    “6 ปีที่แล้ว ปลากัด ยังมีคนทำน้อย วงการปลายังเล็กมาก สามีเมย์เป็นคนแรกๆ ที่นำเข้า ปลากัดจากอินโดฯ ตอนนั้นเขามีรายได้ เดือนละแสนกว่าจากการขายปลา เมย์เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาทำปลากัดเต็มตัว เพราะมองเห็นโอกาส ว่าปลากัดจะไปได้ไกล”

    เหตุที่มั่นใจว่าอาชีพขายปลากัดช่วยให้ฐานะชีวิตดีขึ้นได้แน่นอน นั่นเป็นเพราะทั้งสองมองเห็นการตลาดที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากฝีมือพวกเขาเองที่เริ่มลงทุนน้อยมาก จากแค่กะละมังใบละ 20บาท ไม่กี่ใบ กับขวดน้ำ ตามร้านขายของเก่า ไปซื้อมาฟอร์มปลากัด กก.ละ 16 บาท ได้มากถึง 30 ขวด พอเริ่มมีรายได้จากการขายปลา ก็ขยับขยาย ซื้อโหลแก้วเหลี่ยมใส่ปลากัด ทำชั้นวางเหลี่ยมเองเพื่อประหยัดต้นทุน

 

Sponsored Ad

 

    เปิดร้านเล็กๆ พื้นที่ 1 ล็อก ที่สวนจตุจักร กทม. จนมีลูกค้าประจำหลายประเทศ แต่พื้นที่บ้านใน กทม. มีน้อย เพาะปลาไม่พอขาย เมย์และสามีจึงตัดสินใจมาทำฟาร์มปลากัดที่ จ. แพร่บนเนื้อที่ 7 ไร่กว่าแบบครบวงจร โดยนอกจากเพาะพันธุ์ปลากัด ปลาหางนกยูงแล้ว ยังเพาะไรแดงเอง เพื่อลดการออกไปหาไรแดงจากที่อื่นมาเป็นอาหารให้ลูกปลา ปลูกต้นใบหูกวางในนาไว้ใช้และขายใบหูกวาง และทำนาด้วย สำหรับรายได้นั้นเมย์บอกว่าดีมาก ภายในปีเดียวสามารถปลดหนี้นอกระบบสองแสน

Sponsored Ad

    “แฟนเพาะปลากัดขายมาจะหกปีแล้ว เราขายจริงๆ จังๆ 3 ปีแล้ว รายได้เฉลี่ยถือว่าดีมาก มีเงิน ใช้หนี้นอกระบบสองแสนบาท รายจ่ายสำหรับเลี้ยงปลาต่อเดือน ค่าจ้างคนงาน 10,000 บาท เมื่อก่อนจ่ายค่าน้ำค่าไฟเดือนละ 2,500 บาท แต่ตอนนี้ไม่ได้จ่ายแล้ว เพราะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ค่าน้ำมันรถวิ่งไปตักไรแดง มาเป็นอาหารปลาก็เดือนละ 2,000 บาท"

    เมย์เล่าต่อว่า ปลากัดเลี้ยง 3-6 เดือน ก็สามารถขายได้แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับประเภทของปลาด้วย ราคาปลาแบ่งเป็น 3 ระดับ โดยราคาต่ำสุด เป็นเกรดรอง ตัวละ 50 บาท เกรดเอ ตัวละ 100-150 บาท และเกรด VIP ตัวละ 1500-3500 บาท ปลาที่เคยขายแพงที่สุดเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วเรียกว่า นีโม่แพตเทิร์นสวย หน้ากากเคลือบมิด ราคา 13,000 บาท ปลาคุณภาพดี ต้องมีโครงสร้างดี สีสันสวยงาม แพตเทิร์น สวย

    เทคนิคการขายจนมีรายได้ดี เมย์ยึดหลัก 2 ข้อ คือ ซื่อสัตย์ และรักในอาชีพ คัดปลาเกรดสวย ตรงตามรูป ตรงตามปกไซส์ สี ส่งให้ตามลูกค้าต้องการ ทำให้ลูกค้าถูกใจและจะซื้อปลากับฟาร์มของเธอเป็นประจำ ในการขายปลาทุกครั้ง เมย์บอกว่าไม่หวังอะไรมาก หวังแค่ลูกค้า ขายได้กำไรเยอะๆ เพราะหากลูกค้าได้กำไรเยอะก็จะนึกถึงเธอ สำหรับเธอแล้ว ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่ลูกค้าคือคนในครอบครัวที่เธอต้องรักและดูแล ให้ดีที่สุด

    “ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คนที่กำลังทำตามฝัน อยากทำตามฝันแต่กลัว ความกลัวก็แค่จินตนาการที่เราคิด แต่การกระทำคือความจริง ยังไงก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ เพื่อจะได้มีเรื่องเล่าสู่ลูกหลานฟัง หากใครกำลังท้อ ขอให้คิดซะว่าถ้าผ่านมันไปได้เราจะเก่งมาก และคงไม่มีอุปสรรคใดขวางเราได้อีก” เมย์กล่าวทิ้งท้ายให้กำลังใจ

ที่มา : thairath

บทความที่คุณอาจสนใจ