"ครอบครัวเรามองว่าจากขี้ที่คนอื่นมองว่าน่ารังเกียจแต่มันคือทองสำหรับเรา มันคือขุมทรัพย์สำหรับเราตอนนั้น ก็ทำแบบนี้ไม่เคยรังเกียจ แม้โดนล้อโดนว่าไอ้เด็กตักขี้เด็กตักส้วมก็ไม่สนใจ"

        ฟังประโยคนี้แล้วแทบไม่อยากเชื่อว่านี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตนักแสดงสาวสวย "ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด" ที่ปัจจุบันประสบความสำเร็จในชีวิตมีธุรกิจส่วนตัวและเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรายการโปรโมทสินค้ามากมายตามหน้าจอทีวี แต่กว่าชีวิตของเธอจะเดินมาถึงเส้นชัยแห่งความสำเร็จได้นั้น "ตุ๊กตา อุบลวรรณ" ไม่ใช่เด็กที่เกิดมาบนกองเงินกองทอง เพราะพ่อแม่มีอาชีพรับจ้างก่อสร้างและตักส้วม

        “เรื่องราวที่ผ่านมาทำให้ภาพลักษณ์ของตุ๊กตาดูแรง เป็นสาวนักบู๊ แต่จริงๆ แล้วตุ๊กตาเป็นคนใจดีนะคะ(หัวเราะ) ถึงได้ถูกโกงถูกหลอกตลอด ตุ๊กตาไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นดารา แต่เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ถ้าเราโดนเอาเปรียบ โดนโกงก็ต้องต่อสู้เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเอง ด้วยชีวิตของตุ๊กตาต้องสู้มาตั้งแต่จำความได้ ผ่านเรื่องราวทุกข์ยากมานับครั้งไม่ถ้วน

        “ตุ๊กตา มาจากครอบครัวกรรมกร บ้านสังกะสีต้องย้ายบ้านตลอด ยากจนขนาดต้องกินข้าวบูด เพราะแม่ไม่กล้าทิ้งข้าว แต่ใช้วิธีเอาข้าวไปล้าง ตากให้แห้ง จากนั้นก็เอามาต้มเป็นข้าวต้มให้ตุ๊กตากับพ่อกิน ผักหญ้าหาตามไซด์งาน กับข้าวที่กินเป็นประจำคือน้ำปลาพริกกับกากหมู กลาง คืนเราสามคน พ่อ แม่ ลูก ก็ต้องพากันไปรับจ้างตักส้วม ตามที่ๆ รถดูดส้วมเข้าไม่ถึง เชือดไก่พ่อก็ทำทั้งๆ ที่ไม่อยากทำ ส่วนตุ๊กตากับแม่ก็ล้างไก่ถอนขนทั้งๆ ที่ก็ไม่อยากทำเหมือนกัน ทำไปร้องไห้ไป

        ทั้งหมดเพื่อให้เรามีข้าวกิน ตุ๊กตาทำงานทุกอย่าง พับถุงกระดาษ เก็บถุงปูนขาย เก็บผักไปขายที่ตลาด รับจ้างล้างจาน ซักผ้ารีดผ้า รับจ้างเลี้ยงเด็ก เก็บขยะขาย ขนมไม่เคยซื้อกิน ได้กินก็ขนมวัด จำได้ว่าตุ๊กตาเห็นคนซื้อไก่ย่างให้หมายังแอบไปแย่งหมาเอากลับไปกินกับพ่อแม่ที่บ้าน ภาพที่ตุ๊กตาคุ้นมากคือเห็นพ่อแม่ทุกข์ยากเพื่อตุ๊กตามาตลอด

        “วันหนึ่งพ่อไปกู้เงินมาซื้อที่เพราะเห็นว่าตุ๊กตาโตแล้ว ไม่อยากให้เร่รอน แต่พ่อเป็นคนบ้านนอก เห็นที่ขายถูกก็ไปซื้อโดยไม่รู้ว่าเป็นที่ตาบอด น้ำไฟก็ไม่มี และพ่อยังมาโดนเข้าใจผิด เพราะผู้รับเหมาที่พ่อทำงานด้วยรับ เงินแล้วหนีไป แล้วทิ้งพวก อิฐ หิน ปูน ทรายไว้ เป็นหลักฐานที่บ้านตุ๊กตา พ่อต้องติดคุกอยู่ 6 เดือน ขณะที่แม่ก็เครียดหนักจนช็อกเป็นอัมพฤกษ์ ที่บ้านตอนนั้นไม่มีเงินสักบาท แต่เจ้าหนี้ก็มาทวงเงินทุกวัน ตุ๊กตาออกไปเก็บผักขาย ขายไปร้องไห้ไป จนลุงขอทานซึ่งขาด้วนแขนกุดข้างนึง เข้ามาถามว่าร้องไห้ทำไม ตุ๊กตาบอกลุงว่าหนูไม่ไหวแล้ว ทำไมทุกอย่างถึงมารุมหนูคนเดียว หนูอยากตาย!

        ลุงบอกดูลุงสิ ที่ลุงเป็นขอทานอยู่นี่ลุงอายมากนะ แต่ลุงก็เป่าขลุ่ย ร้องเพลงของลุงไป เพื่อแลกกับเงินไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ร้องเพราะรึเปล่าลุงไม่รู้ แต่รู้ว่านี้คืองานสุจริต เรามีแขนขาครบต้องสู้สิลูก กำลังใจครั้งนั้นทำให้ตุ๊กตารู้ว่า ท่ามกลางเรื่องร้ายๆ ก็มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นได้เสมอ ชีวิตไม่ได้เลวร้ายไปกว่าที่เป็น ถ้าเรามีสติก็จะเห็นหนทาง

.

        “ตุ๊กตาลุกขึ้นสู้ด้วยการไปขอร้องเจ้าหนี้ว่าตอนนี้หนูไม่มีตังค์ อย่าเพิ่งมายึดบ้านหนูเลย หนูขอทำงานใช้หนี้แทน ให้หนูทำอะไรก็ได้ เขาก็เมตตา ให้ไปทำงานที่บ้าน”

        เรื่องราวทั้งหมดไม่ใช่ละคร แต่เป็นชีวิตจริงของเธอที่นำมาเล่าเพื่อเป็นตัวอย่างว่า ชีวิตคนเราเลือกเกิดไมได้ แต่เลือกเก่งเลือกกล้าได้ ขอเพียงอย่าท้อ อดทน 

        ปัจจุบันตุ๊กตาทำรายการ “พลิกชีวิต” ทางช่องเคเบิ้ลชิ่งหนึ่ง เป็นรายการที่ช่วยเหลือคนลำบากให้ลุกขึ้นต่อสู้ชีวิต และมอบอาชีพให้ เป็นรายการที่ใช้เงินทุนของตุ๊กตาเองทำมา 6 ปีแล้ว นอกจากนี้เธอยังเปิดอบรมอาชีพนวดหน้าด้วยสองมือ “ศาสตร์ยกหน้า ด้วยการกดจุดรีดน้ำเหลือง” โดยทุกคนที่มาเรียนสามารถนำไปเป็นอาชีพได้โดยไม่ต้องมีต้นทุน เพราะไม่ต้องเปิดร้านก็ได้ และสามารถนำมาดูแลตัวเอง และคนที่รักได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดที่เธอทำก็เพราะอยากเตือนตัวเองไม่ให้ลืมความยากลำบากครั้งอดีต รวมทั้งอยากมอบสิ่งดีๆ คืนกลับสังคมบ้าง

        "เราจะรู้สึกมีความสุขถ้าชีวิตของเราไปเป็นกำลังใจหรือแรงบันดาลใจคนที่รู้สึกว่าท้อแท้น้อยใจชีวิต ตุ๊กอยากให้เรื่องราวของเราเป็นกำลังใจให้อีกหลายๆ คนที่ได้อ่านหรือรับรู้เรื่องของเราหันมาจริงจังกับชีวิตมากขึ้น และก่อนที่จะรักใครต้องรักคนในครอบครัวโดยเฉพาะพ่อแม่ให้มากขึ้นเพราะว่าตุ๊กตาได้พิสูจน์เองมาแล้ว จนอายุจะสี่สิบ พิสูจน์มาแล้วถ้าเราดูแลพ่อแม่เราจะไม่ตกอับเลยในชีวิต"

ข้อมูลและภาพจาก praew, อุบลวรรณ บุญรอด