มีการรายงานว่า ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.เทียนชัยปิโตรเลียม ริมถนนเพชรเกษม ต.ดอนตะโก อ.เมือง จังหวัดราชบุรี พนักงานภายในปั๊มได้ยืนเจรจาอยู่กับลุงวัย 64 ปี ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเสนอขายหมวกกันน็อกที่สวมอยู่บนหัว 50 บาท เพื่อนำเงินมาเติมน้ำมันขับกลับบ้านที่ จ.กาญจนบุรี

    คุณลุงวัย 64 ปีรายดังกล่าว ขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง บรรทุกข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ ทั้งกระเป๋าเสื้อผ้า ครก สาก กระติกน้ำ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม อีกทั้งยังเข้ามาด้วยน้ำตาอาบเต็มหน้า พนักงานปั๊มอดสงสารไม่ได้ จึงได้สอบถามและทราบความว่า คุณลุงชื่อ นายเอี่ยม สนิทชอบ อยู่บ้านแถว ต.จระเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี

    แต่ก่อนคุณลุงเผยว่า มีอาชีพต่อยมวย แล้วได้เลิกชกมานานแล้ว หันไปทำอาชีพขายสับปะรดแทนที่ จ.กระบี่ และสุราษฎร์ธานี และได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาหาแม่ที่ ต.จระเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี จากนั้นคิดจะกลับไปหาภรรยาที่อยู่กินกันมา 11 ปี ที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่น และไม่มีเงินติดตัวมาเลย มีเพียงน้ำมันรถในถัง เพราะคิดจะไปเบิกเงินผู้สูงอายุ 600 บาทที่ยังพอมีในบัญชีระหว่างทาง

    แต่เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ (วันที่ 10 มกราคม 2564) ธนาคารปิด จึงยังไม่ได้เบิกเงิน และขี่รถมาจนถึงราชบุรี เมียก็โทรมาหาบอกว่าไม่ต้องมาแล้ว เพราะฉันมีสามีใหม่แล้ว ลุงเสียใจมาก จึงได้หันหัวรถกลับ แต่เงินในกระเป๋าก็ไม่มี รถน้ำมันก็ใกล้หมด จึงตัดสินใจเข้าปั๊มน้ำมันเพื่อที่จะขายหมวกกันน็อก 50 บาท แลกกับการเติมน้ำมันรถ

    ลุงเอี่ยม กล่าวอีกว่า ตนเองมีลูกสาวอยู่คนเดียวกับภรรยาคนแรก ขณะที่สมัยก่อนตัวเองเคยมีเมียมาแล้วประมาณ 40 คน แต่ตอนนี้รู้ว่าไม่มีใครรักเราเท่าแม่แล้ว จึงคิดจะกลับไปอยู่กับแม่ที่จังหวัดกาญจนบุรี

    นางสาวปุณณสิริ แต่แดงเพชร หรือ น้องปู พนักงานเติมน้ำมันที่ปั๊ม เปิดเผยว่า เห็นคุณลุงรายดังกล่าวน้ำตานองหน้า เข้ามาเสนอขายหมวกกันน็อกแลกกับเติมน้ำมัน จึงไปเรี่ยไรเงินกับเพื่อนๆ คนละ 10-20 บาท เป็น 50 บาทเอามาเติมน้ำมันให้ลุงไป ทีแรกลุงก็จะยื่นหมวกกันน็อกให้ แต่พวกตนก็บอกไปว่าไม่เอา บอกไปว่าถ้าลุงไม่ใส่หมวกเดี๋ยวโดนตำรวจจับ ขอช่วยเหลือลุงไปเท่าที่จะช่วยได้

ภาพจากเพจ ตาเป้

    ขณะที่ พันธุ์ แก้วนุ้ย ผู้สื่อข่าวของเพจข่าวตาเป้ ยังได้มอบเงินให้คุณลุงไปอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าน้ำมันและค่าอาหารระหว่างทางกลับบ้าน ทำให้ลุงน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความตื้นตันใจ ทั้งยังยกมือไหว้ขอบคุณ ที่ได้เจอคนดีมีน้ำใจในสังคม ช่วยเหลือตนให้ได้กลับบ้าน

ที่มา : ข่าวตาเป้