หากจะกล่าวถึงดารานักแสดงที่ใครก็คุ้นหน้า ด้วยความเป็นตลกหน้าหล่อ เห็นคาแรคเตอร์แล้วต้องขำจนท้องแข็งไปตามๆ กัน ก็คงจะขาดชื่อของ “ตั๊ก บริบูรณ์” ไปไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ก็มีทั้งภรรยาแสนสวยและลูกสาวสุดน่ารักอย่างน้อง “บีลีฟ” เป็นโซ่ทองคล้องใจ

        หลายๆ คนอาจจะเห็นภาพน่ารักๆ หรือจดจำความฮาของครอบครัวนี้กันอยู่ตลอด แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังชีวิตของพี่ตั๊กนั้นแท้ที่จริงแล้วอาจจะไม่ตลกอย่างที่คิด ซึ่งล่าสุด คุณตั๊กก็ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องจริงที่ไม่มีใครรู้มาก่อนว่า

ตั๊ก บริบูรณ์

        พาแม่กลับไปโรงหนังบ้านเกิดหลังแรก

        ใช่ครับ บ้านเกิดของแม่ที่จังหวัดอุทัยธานี คุณแม่ผมเกิดและโตที่โรงหนัง วันหนึ่งพอเรามีครอบครัวมีลูกแล้วเราก็เลยอยากจะลองนึกย้อนไปว่าคุณแม่ท่านเกิดและโตยังไง จนไปสอบถามคุณป้าก็เลยได้ทราบว่าคุณแม่เกิดที่นั่น และก่อนหน้านี้ได้เจอภาพคุณแม่ที่ถ่ายกับคุณตา ซึ่งไม่ได้บอกกับแม่ว่าจะพาไป วินาทีแรกที่แม่ไปถึงเขาก็เฉยๆ นะแค่รู้สึกว่าได้กลับไปบ้านที่เกิดแต่พอผมหยิบรูปนั้นขึ้นมาเท่านั้นแหละแม่ก็ร้องไห้เลยเพราะนึกถึงคุณตา

        คือเราเองก็ลำบากมาก่อนตั้งแต่เด็กๆ จนมาถึงทุกวันนี้เราก็รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ทุกคนในครอบครัวนอนหลับสบาย กินอิ่ม นี่ก็เป็นสิ่งที่เราประทับใจแล้ว

        ตอนเด็กๆ เคยลำบากมาก่อน

        ต้องบอกเลยว่าตอนเด็กๆ ชีวิตไม่เคยมีบ้านอยู่เลย เกิดมาแม่ก็ไปฝากเขาเลี้ยง โรงเรียนกินนอนและพอโตขึ้นมาก็ไปอยู่กับบ้านป้า ไปอยู่บ้านน้าบ้าง บอกตรงๆ ว่ากลัวมากความจน เพราะมันเป็นสิ่งหนึ่งที่บอกให้เรารู้ว่าถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนไม่ดี แต่ก็ต้องสู้ชีวิต

        ทำไมถึงคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี

        เด็กๆ เราดื้อมากและสิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าไม่ดีคือ ‘เราไม่เชื่อฟังแม่’ พอเราได้เข้าวงการตอนนั้นคือออกจากบ้านเลยไม่ได้หนีออกมานะ คืออยากออกมาเองไปเช่าห้องอยู่เองและมันก็เกิดจากการที่เราไม่เคยอยู่กับแม่มาก่อน มาวันหนึ่งเราเลยคิดว่าถ้าเราไม่มีบ้านเราก็ต้องออกมาอยู่เอง

        เคยขายหมูปิ้งมาก่อนจริงไหม

        คือเรื่องจริงครับ ตอนนั้นย้ายไปอยู่กับแม่ไปเช่าห้องอยู่แถวๆ คลองเตยก็เลยช่วยแม่ขายหมูปิ้ง รายได้ก็ไม่ได้ดีมากแต่ก็พอเลี้ยงชีพได้

        จริงไหมเคยดังแล้วลืมตัว

        เข้าวงการมาตอนอายุ 10 ขวบ พออายุ 16 - 17 ปี ก็เริ่มมีงานละครแล้ว ได้เล่นหนังเล่นละคร จนเรามีเงินเก็บก็ซื้อห้องเองซื้อเป็นคอนโด ราคาล้านกว่าบาท แพงมากและซื้อไวมากซื้อรถขับด้วย มีหลงกับวงการบันเทิงนะ เงินได้มาง่าย ณ ตอนนั้นก็เลี้ยงแม่อยู่ต่อให้เราออกมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวเราก็ดูแลแม่เหมือนเดิม มีใช้เงินเกินตัวติดเที่ยวบ้าง จนเราหลงระเริง พอตอนที่ไปถ่ายละครพี่แอมเขาก็บอกเราว่า ทำไมไม่ซ้อมบทมาผมก็ขึ้นเลยโยนบททิ้งกลับบ้านเลยไม่เล่นละคร

        หลังจากนั้นเป็นยังไงบ้าง

        ผู้จัดเขาก็ปากต่อปาก ผมไม่มีความรับผิดชอบจนผ่านมา 2 - 3 ปีผมไม่มีงานเลยจนอายุ 20 ต้นๆ บ้านรถก็จะโดนยึด ตอนนั้นผมก็เครียดเลยแต่ผมมีพี่ที่ดีมากๆ ‘พี่จ๊อบ นิธิ’ ‘พี่นีโน่’ ก็ไปฝากให้เล่นละครหลังจากนั้นเราก็รู้เลยว่าที่ผ่านมาในอดีตมันเป็นสิ่งที่เราไม่ควรทำ ต่อให้คุณจะดังแค่ไหนสุดท้ายคุณต้องมีความรับผิดชอบ

        เป็นเรื่องราวชีวิตจริงที่ไม่ตลกเลย ซึ่งตัวพี่ตั๊กเองก็ได้บทเรียนชีวิตมาแล้ว แถมตอนนี้บอกเลยว่า ‘พี่ตั๊ก’ ก็ทำงานหลายอย่างรวมถึงเป็นคุณพ่อที่น่ารักมากๆ 

ข้อมูลและภาพจาก daradaily