เปิดใจ "ครูมืด" จากเด็กสลัมต่ำต้อย ครอบครัวไม่สมบูรณ์แบบ สู่ปรมาจารย์ด้านโขนของไทย

LIEKR:

"ขออยู่คนเดียว เพราะความที่เราเพลิดเพลินไปมันเยอะแล้ว หลังจากที่เสียแฟนไป มันเยอะแล้ว ก็พอแล้ว"

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        เมื่อไม่นานมานี้ "ประสาท ทองอร่าม" หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อ "ครูมืด" ได้มีโอกาสมาเล่าถึงชีวิตที่ครั้งหนึ่งเคยลำบากถึงขนาดต้องขอข้าววัดกิน พร้อมเล่าถึงวีรกรรมความซ่าหลังรั้วโรงเรียนที่เกือบโดนไล่ออกมาแล้ว รวมถึงเหตุการณ์ที่ครั้งหนึ่งเคยน้อยใจชีวิตครอบครัวไม่สมบูรณ์แบบ เพราะตัวเองเจ้าชู้ต้องเลิกกับภรรยา ลั่นชีวิตนี้ขอโสดไปตลอดชีวิต โดยเจ้าตัวได้มาเผยเรื่องทั้งหมดนี้ผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW 

 

Sponsored Ad

 

        ครูมืดได้เผยว่า ชีวิตของตนเติบโตมาจากสลัมเลย บ้านที่เป็นอยู่หลังคาติดกันหมด แล้วบ้านที่ตนอยู่เป็นบ้านที่เช่าเขาอยู่ อาศัยอยู่ข้างวัด แต่บังเอิญถิ่นที่ตนอยู่ถึงแม้จะห่างไกลความเจริญ แต่คนที่อยู่เป็นบุคคลทรงความรู้ และศิลปินแห่งชาติเยอะมาก 

 

Sponsored Ad

 

        โดยชีวิตในวัยเด็กตนค่อนข้างจะเกเร เคยมีเรื่องมีราวจนเรื่องถึงสน.ต้องมาจับ ซึ่งตอนนั้นตนเป็นนักเรียนข้าราชการด้วย ก็มีคำสั่งให้ออกจากโรงเรียน ออกจากราชการ แต่ผู้ใหญ่ก็ขอไว้ ลงโทษให้ต่ำจากไล่ออก ก็โดนลดขั้นเงินเดือน แล้วให้สอบตกปีนึง

        และเมื่อถูกถามว่ามีโอกาสเข้าไปเรียนดนตรีนาฏศิลป์ได้อย่างไร ครูมืดก็ได้เผยว่าตนชอบอยู่แล้ว เป็นคนที่ชอบแสดงออก ชอบเป็นผู้นำตั้งแต่เด็ก เพราะว่าตนอยู่สลัม คนก็อยู่เยอะ ก็มาเล่น เล่านิทานให้ฟังบ้าง เล่นกีฬาพื้นเมืองบ้าง เล่นซ่อนหาตนก็ชอบ แล้วเผอิญคุณปู่ตนท่านเป็นนักดนตรีไทย ท่านเป็นลูกศิษย์ของ คุณครูไพร หลวงประดิษฐ์ ไพเราะ ก็เอาตนติดตัวไปด้วย แล้วที่วัดก็เป็นศูนย์รวมของศิลป์หลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นโขน, ลิเก, ละคร, ปี่พาทย์ ก็รวมตัวกันอยู่ที่นั่น 

 

Sponsored Ad

 

        ที่นั่นก็มีข้าวกิน บ้านตนจน ตนก็อาศัยข้าววัดกิน ตนก็ได้ดูโขน ดูลิเก ดูดนตรี ดูอะไรต่าง ๆ แล้วมันชอบ แล้วพอกลับมาก็เอาเรื่องเหล่านั้นมาเล่นกับเด็ก ๆ พอจบ เรียนชั้นประถม 5 ปี ชั้นมูล คือก่อน ป.1 ก็เป็นผู้นำมาตลอด นำร่องเพลงชาติ เป็นนักกิจกรรม

 

Sponsored Ad

 

        ชีวิตตนผ่านอะไรมาเยอะมาก ตนมีภรรยาก็อยู่ด้วยกันจะมีน้อง หมอบอกว่ามีน้อง ตนก็ดีใจมากเลย เพราะตนไม่มีทายาท แต่อยู่ได้สักเดือน สองเดือนได้ข่าวว่าเสียน้องไป มันสะเทือนใจมาก อันนี้มันเป็นวิบากกรรมของตนแน่ ๆ ตนระลึกถึงเสมอว่าเป็นกรรม เคยทำกรรม เคยทำเวรอะไรไว้ จึงทำให้ไม่มีลูก ก็เสียใจมาก พอเสียน้องไปแล้ว มันก็โยงไปทำให้เสียภรรยาไปด้วย 

        หลังจากนั้นตนก็เป็นโสดมาตลอด ปฏิญาณตนไว้ว่า ขออยู่คนเดียว เพราะความที่ตนเพลิดเพลินไปมันเยอะแล้ว หลังจากที่เสียแฟนไป มันเยอะแล้ว ก็พอแล้ว คิดว่าหลังจากเกษียณอายุแล้ว ก็จะตั้งใจอยู่กับพี่น้อง ครอบครัว แล้วก็ทำอะไรให้กับสังคม ทำอะไรให้กับโรงเรียนนาฏศิลป์ ทำอะไรให้กับกรมศิลปากรมากยิ่งขึ้น

 

Sponsored Ad

 

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : รายการ คุยแซ่บSHOW

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ